ฎีกาพิพากษายืน SME แบงก์ ชดใช้ 6 พันล้านสแตนดาร์ดฯ
ศาลฎีกา ยืนตามอุทธรณ์ให้ชดใช้ตามสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย บนบัตรเงินฝากชนิดดอกเบี้ยลอยตัว
วันที่ 24 มี.ค.2563 - ที่ห้องพิจารณา 508 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME) เป็นจำเลย เรียกค่าเสียหายตามสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate /IRS) บนบัตรเงินฝากชนิดดอกเบี้ยลอยตัว (FRCD) จำนวนทุนทรัพย์ ประมาณ 6,000 ล้านบาท
โดยคดีนี้เมื่อปี 2558 ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำพิพากษายกฟ้อง ต่อมาธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ โจทก์ ยื่นอุทธรณ์ กระทั่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.60 ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME) จำเลย ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามฟ้อง
ขณะที่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจฯ หรือ SME จำเลย ยื่นฎีกา
ซึ่ง ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุด ขั้นตอนต่อไปศาลจะออกคำบังคับคดีให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาในการชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งระหว่างขั้นตอนนี้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจฯ หรือ SME สามารถดำเนินการเจรจารายละเอียดกับธนาคารสแตนดาร์ชาร์เตอร์ฯ โจทก์ ถึงแนวทางปฎิบัติการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาได้ ก่อนที่จะครบกำหนดการปฏิบัติตามตามคำบังคับคดี
ซึ่งหากฝ่ายจำเลยยังไม่ชำระหนี้ ขั้นตอนต่อไปจึงจะเข้าสู่การขอให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อติดตามทรัพย์สินในการชำระหนี้ตามผลคำพิพากษาฎีกา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง