ข่าว

ผงะทารกติดโควิด!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พบไทยติดไวรัสโควิด-19 เพิ่ม 50 คน ผงะมีทารกวัย 6 เดือน ติดเชื้อด้วย ยอดสะสมทะยาน 322 สธ.เร่งหาเซียนมวยคาดป่วยอย่างน้อย 500 ขณะที่บุรีรัมย์ปิดเมืองยังเอาไม่อยู่ หลังมีรายงานพบฝรั่งติดเชื้อโผล่กลางวงแถลงผู้ว่าฯ

          เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ในวันนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 50 ราย ยอดรวม 322 ราย จำแนกเป็น 2 กลุ่ม 41 ราย หรือ 80% สนามมวยเพิ่ม 18 ราย เป็นผู้ชมที่เดินทางจากต่างจังหวัด เซียนมวย กรรมการสนามมวย และพบผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิง 5 ราย เป็นทั้งพนักงานและผู้ใช้บริการ ซึ่งกระจุกตัวในสถานบันเทิงย่านทองหล่อและรามคำแหง และพบผู้ป่วยเด็กเล็กอายุ 6 เดือน ในส่วนของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาในประเทศมาเลเซีย พบติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย อยู่ใน จ.ปัตตานี และสงขลา

 

 

 

          ส่วนผู้ป่วยรายใหม่กลุ่มที่ 2 จำนวน 9 ราย หลักๆ ยังเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่ง 2 ราย กลับจากประเทศอังกฤษ เป็นนักศึกษาและพนักงานราชการที่ทำงานในอังกกฤษ ที่เหลือเป็นชาวเมียนมาร์ 2 ราย และผู้ประกอบอาชีพใกล้ชิดคนต่างชาติ อาชีพไกด์ และพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งอยู่ในข่ายเฝ้าระวังและติดตาม ส่วนอีก 3 รายรอผลสอบสวนเพิ่มเติม ขอย้ำว่ายังคงมีกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับสนามมวยและกิจกรรมทางศาสนา ที่ต้องค้นหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่รอผลตรวจอีก 118 ราย จึงขอให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสนามมวย สถานบันเทิง และการประกอบกิจกรรมทางศาสนา ช่วยแสดงตัวโดยด่วน ในช่วงนี้ผู้สูงอายุและเด็กเล็กไม่ควรออกจากบ้าน เพราะหากป่วยติดเชื้ออาจจะอาการหนัก

          เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสเรียกร้องให้ปิดประเทศ นพ.สุวรรณชัย บอกว่า รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีชัดเจน คือ ปิดพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในทันที ปิดพื้นที่ในเชิงป้องกัน และลดการเคลื่อนย้าย คำว่า ปิด หลายประเทศปิดเกาะ มีทางเข้าทางเดียวปิดได้ แต่ในหลายประเทศ ยกตัวอย่าง อิตาลี ปิดประเทศได้ปิดหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ยังมีสายการบินจากอิตาลีมาหาเรา คำสั่งของรัฐบาลคือการจำกัดพื้นที่ ปิดดีที่สุดคือปิดตัวเอง อย่าถามหาความรับผิดชอบจากคนอื่น ควรถามหาความรับผิดชอบจากตนเอง

          “สภาพปัญหาโดยรวม 76.7% พบผู้ติดเชื้อในกทม. ปริมณฑล และจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลัก โดยผู้ป่วยเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในสนามมวย ดังนั้นผู้ที่เขาไปในสนามมวยจึงเสี่ยงเป็นผู้ติดเชื้อ ควรจะกักตัวเองอยู่ที่บ้าน ป้องกันตัวเองจากบุคคลครอบครัว หากมีไข้ให้ติดต่อประสานเจ้าพนักงาน ยืนยันว่าการตรวจวินิจฉัยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะนี้เชื่อว่ายังมีผู้สัมผัสอีกมากซึ่งกำลังเร่งสอบสวนติดตาม ขอให้ควบคุมตัวและประเมินความเสี่ยง แม้ภาพรวมจะมีอาการไม่มาก แต่ต้องระวังกักตัวเองอย่างเคร่งครัด งดเดินทางและงดกิจกรรมทุกอย่าง คนในสนามมวยนอกจากเฝ้าระวังจัดการที่บ้าน ครอบครัว และทุกคนที่ไปเกี่ยวข้อง ถ้าไม่เป็นก็ดี แต่ถ้าเป็นจะต้องตัดวงจรตัวเอง นอกจากแยกตัวเองแล้วต้องให้สมาชิกในครอบครัวแยกตัวเองออกจากสังคมด้วย” นพ.สุวรรณชัยกล่าวและว่า ในภาพรวมแม้จำนวนผู้ป่วยสะสมจะเพิ่มมากขึ้น แต่มีผู้ป่วยหายดีกลับบ้านแล้ว 43 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล 273 ราย

          ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย มีผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในลำดับที่ 40 ของโลก โดยผู้ป่วยติดเชื้อ แบ่งเป็นเพศชาย 66% เพศหญิง 34% ช่วงอายุระหว่าง 30-39 ปี เป็นคนวัยทำงาน แสดงอาการป่วยไม่มาก จึงเป็นพาหะของโรคที่เดินทางไปทั่วประเทศ ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขทำแผนที่แสดงจังหวัดที่ผู้ป่วยกระจุกตัว พบในกรุงเทพฯ 213 ราย สมุทรปราการ 13 ราย เชียงใหม่ 7 ราย ปัตตานี 6 ราย ชลบุรี 5 ราย ภูเก็ต 5 ราย ยะลา 3 ราย นครราชสีมา นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 2 ราย ส่วนเพชรบูรณ์ กระบี่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครปฐม นครศรีธรรมราช นนทบุรี ร้อยเอ็ด สมุทรสาคร สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย

          “กลุ่มเสี่ยงสำคัญคือคนวัยหนุ่มสาว ในสนามมวยเชื่อว่ามีผู้เข้าไปหลายพันคน แต่กรมควบคุมโรคค้นหาในเฟซบุ๊กติดตามได้เพียง 55 ราย ซึ่งต่ำกว่าความเป็นจริงมาก โดยคาดการณ์ว่าจะต้องพบผู้ติดเชื้อเกินกว่า 500 ราย ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่อยู่ในสนามมวยแสดงตัวโดยด่วน เพราะจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าจะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

          ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาอาวิแกน เป็นยาชนิดเดียวกันเพียงแต่มีชื่อเรียกที่เป็นเครื่องหมายทางการค้าแตกต่างกัน ที่ผ่านมาไทยนำเข้า 4 หมื่นเม็ด สำรองไว้ในกรุงเทพฯ 2 หมื่นเม็ด ที่เหลือกระจายไปโรงพยาบาลทั่วประเทศ แต่การรักษาผู้ป่วยในไทย 80% ไม่ต้องใช้ยา 10% ใช้ยาพื้นฐาน มีเพียงผู้ป่วยอาการปานกลางและอาการหนักเท่านั้นที่จำเป็นต้องให้ยาดังกล่าว

          ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ในกรุงเทพฯ ได้จัดเตรียมสถานที่พิเศษ หรือโรงแรม ไว้รองรับกรณีพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น 450-500 เตียง โดยในสัปดาห์หน้าจะออกตรวจสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการย้ายผู้ติดเชื้ออาการไม่มากไปพักรักษา วันนี้โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนพร้อมรับผู้ป่วยทันที 43 เตียง และจะสามารถรองรับได้เต็มที่ 103 เตียง โดยขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันที่พักรักษาในโรงพยาบาลในสังกัดกทม. 11 แห่ง เป็นผู้สงสัยติดเชื้อ 29 ราย และผู้ป่วยยืนยัน 28 ราย ขอให้ประชาชนตื่นตัว ไม่ใช่ตื่นกลัว ร่วมมือกันยุติการระบาดของโรค ด้วยสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม

 

 

 

          วันเดียวกัน มีรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ กรณีที่เซียนมวยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากสนามมวยลุมพินี กรุงเทพฯ เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วเข้าไปเชียร์ไก่ชน เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมพื้นที่และให้ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดไปตรวจร่างกายอย่างเร่งด่วน โดย ว่าที่ ร.ต.สุรจิต เอี่ยมธรรม นายอำเภอเบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ออกประกาศเรื่อง ข่าวการพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2563 เนื่องจากคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอ (คปสอ.) เบญจลักษ์ ได้รับแจ้งข่าวว่า พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ต.หนองงูเหลือม อ.เบญจลักษ์ ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค (JIT) จึงได้ทำการค้นหาผู้ป่วยในพื้นที่ ได้รับการยืนยันจากผู้ป่วยและครอบครัวว่าเป็นข่าวจริง

          นอกจากนี้ “ทีมข่าวคมชัดลึก” ได้ตรวจสอบเส้นทางของเซียนมวยคนดังกล่าวแล้วพบว่า วันที่ 6 มีนาคม เดินทางไปเชียร์มวยในศึกลุมพินีเกียรติเพชร สนามมวยลุมพินี ที่พบผู้ติดเชื้อและขยายวงเป็นอย่างมาก จากนั้นวันที่ 7-13 มีนาคม ยังไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม เซียนมวยคนดังกล่าวเดินทางกลับบ้านที่ อ.เบญจลักษ์ โดยเริ่มมีอาการป่วย รับยาลดไข้ จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองงูเหลือม และวันที่ 15 มีนาคม ได้เดินทางไปรับชมและเชียร์ ไก่ชน ที่สนามชนไก่หนองงูเหลือม อ.เบญจลักษ์ ก่อนเดินทางกลับบ้านที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กระทั่งวันที่ 17 มีนาคม เข้ารับการรักษาอาการไข้ขึ้นสูงที่ รพ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และวันที่ 19 มีนาคม ผลตรวจยืนยันว่า เซียนมวยคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโควิด-19

          ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ด้านสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แถลงความคืบหน้า หลังมีการปิดเมืองตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ณ เวลา 11.30 น. จ.บุรีรัมย์ ยังไม่พบผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 แม้แต่รายเดียว มีเพียงผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคสะสมทั้งหมด 72 ราย ตรวจไม่พบเชื้อจำนวน 67 ราย ยังเฝ้าระวังอีก 4 ราย เท่านั้น ที่เหลืออีกประมาณ 826 ราย พบมีไข้คอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดให้ครบ 14 วัน หลังจากนี้จะมีการวางแผนจะคัดกรองอย่างเข้มข้นต่อไปอีกจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและหมดไปจาก จ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องเฝ้าระวังอีก 11 ราย เป็นนักมวย 1 ราย เป็นแฟนมวยอีก 10 ราย ที่เข้าไปในสนามมวยลุมพินี วันเดียวกับนายแมทธิว ดีน คือวันที่ 6 มีนาคม ซึ่งกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดสาธารณสุขได้เข้าไปควบคุมอย่างใกล้ชิด จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเริ่มมีอาการ

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการแถลงผ่านไปประมาณ 5 นาที ได้มีรายงานจาก รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ มาถึงนพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ว่า พบมีชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลรามบุรีรัมย์ ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 1 ราย ก่อนผู้ว่าฯ จะตั้งโต๊ะแถลงอีกครั้งว่า พบผู้ติดเชื้อแล้ว 1 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นชาวต่างชาติ จะมาหาภรรยาที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ แต่ยังไม่ถึงบ้าน ชาวต่างชาติรายนี้ก็ขอไปรักษาที่รพ.รามบุรีรัมย์ ด้วยอาการไข้และไอ

          นพ.วิทิต กล่าวต่อว่า จากการสอบถามอย่างละเอียดพบว่า ผู้ติดเชื้อชาวอังกฤษรายนี้เริ่มมีอาการไอและไข้เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ก่อนจะเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วเดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อวันที่ 16 มีนาคม และเดินทางไป จ.ชลบุรี เข้ารับการรักษาอาการไข้และไอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อ จากนั้นผู้ป่วยได้ตัดสินใจเดินทางจากชลบุรีจะมาหาภรรยาและลูกที่ อ.บ้านกรวด ด้วยการเหมารถแท็กซี่มาคนเดียว เมื่อมาถึง อ.โนนดินแดง รถแท็กซี่เกิดเสียกลางทางได้ว่าจ้างเหมารถอีกคันเพื่อให้ไปส่ง โดยชาวต่างชาติรายนี้ได้ตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์ เพื่อต้องการเข้ารับการรักษาอาการไข้และไอ โดยโทรศัพท์แจ้งภรรยาทราบ

          นพ.วิทิต กล่าวด้วยว่า ชาวต่างชาติรายนี้ถือว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อสังคม คือเลือกเข้าโรงพยาบาลก่อน เพราะน่าจะรู้ตัวดีถึงอาการและมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ไม่ยอมไปหาภรรยาและลูก และไม่ได้แวะสถานที่แห่งใดใน จ.บุรีรัมย์ โดยขณะนี้ผู้ป่วยได้รักษาตัวที่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ มีการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดไปยังบุคคลทั่วไปและเจ้าหน้าที่ที่รักษาอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ได้ให้มีการติดตามหาคนขับรถรับจ้างที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วเพื่อติดตามมากักตัว ส่วนทาง จ.ชลบุรี ทางสาธารณสุขจะแจ้งรายละเอียดไปอีกครั้ง

          วันเดียวกันยังมีรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 1 ราย อาศัยอยู่ใน จ.นครสวรรค์ และเป็นการติดเชื้อนอกพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งคาดว่าน่าจะติดเชื้อมาจากสนามมวยที่กรุงเทพฯ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ