ข่าว

ปธ.ศาลฎีกา ตอบรับเสียงสะท้อนผู้พิพากษา เล็งติดวงจรปิดบ้านพัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ปธ.ศาลฎีกา" ผุดโครงการนำร่องติดวงจรปิดบ้านพักผู้พิพากษาพื้นที่เสี่ยง หลังตรวจราชการภาค 8 ได้ยินเรื่องคนแปลกหน้าเข้าถึงโซนบ้านพัก ขอผู้พิพากษามั่นใจใครขู่ศาลไม่ได้ ด้าน สนง.ศาลยุติธรรม เร่งจัด Court marshal อีกร่วม 300 ขยายความปลอดภัยถึงศาลภาค

 

 

          เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2563 – นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการศาลภาค 8 (ภาคใต้) ถึงกรณีที่ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมพื้นที่ภาค 8 มีข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการติดกล้องวงจรปิดหรือสัญญาณกันขโมยบ้านพักข้าราชการตุลาการ ป้องกันเหตุความเสี่ยงจะไม่ปลอดภัยในชีวิต-ทรัพย์สินการทำหน้าที่พิจารณาคดี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการจัดสรร รปภ.ดูแลรักษาความปลอดภัยแต่ช่วง 1-2 ปีมีการตัดงบส่วนนี้ออกไป โดยเคยมีคนแปลกหน้าเข้าไปในบริเวณที่พักดังกล่าวจึงสร้างความกังวล ว่า ตนเห็นด้วยในเรื่องกล้องวงจรปิด แต่ถ้าในเรื่องงบประมาณที่ได้สนับสนุนมานั้นยังไม่เพียงพอจัดสรร ก็จะเสนอให้ทำเป็นโครงการนำร่องแล้วค่อยขยายผลไปเรื่อยๆ ถ้าจะเริ่มต้นติดตั้งปีนี้ทำได้เท่าใดก็ให้ทำไปก่อน จากนั้นค่อยทำเป็นโครงการระยะยาวให้ทั่วถึง

 

          อย่างน้อยสุดตอนนี้ ก็ต้องสร้างความมั่นใจ เพราะเวลาคนร้ายจะลงมือจะไม่มาครั้งเดียวแล้วลงมือ คนร้ายจะมาดูสถานที่ก่อน แต่ถ้าเรามีกล้องวงจรปิด แม้คนร้ายจะทำการบ้านเราก็ยังมีโอกาสตรวจพบร่องรอย และยังเป็นการระมัดระวังมากขึ้น ตนคิดว่าจะเสนอไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมให้ช่วยทำโครงการนำร่องปีนี้โดยอาจจะเลือกศาลที่มีความเสี่ยงสูง เพราะเดี๋ยวนี้เหตุความรุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะข้างนอกอีกแล้วแต่กำลังเกิดขึ้นในบ้านของเราเอง

 

          "สถานการณ์ต่างๆที่เป็นภัยคุกคามการใช้อำนาจของผู้พิพากษาในกรณีที่ทำหน้าที่พิจารณาคดี บอกให้รู้ว่าเราต้องทำงานอย่างมืออาชีพ และเป็นหนึ่งเดียวกันในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ใครก็ตามที่มาขู่ศาลภายใต้การกำกับดูแลของผมจะทำไม่ได้ เพราะถ้าเมื่อใดผู้พิพากษาเกิดความหวาดกลัวหวั่นไหวต่อการทำหน้าที่ เราจะอยู่ไม่ได้ เราต้องทำงานด้วยความกล้าหาญ ระบบเราต้องอำนวยให้เกิดความปลอดภัยกับพวกเรา ผมขอให้ความมั่นใจประธานศาลฎีกา กล่าวย้ำ

 

          ขณะที่ นายภพ เอครพานิช รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงงบประมาณเกี่ยวกับการจัดสรร รปภ.ว่า ที่ผ่านมางบประมาณในการจ้าง รปภ. จากองค์การทหารผ่านศึกฯ มาดูแลรักษาความปลอดภัยจะเน้นในส่วนอาคารศาล แต่ที่ผ่านมานายไสลเกษ ประธานศาลฎีกา มีดำริเน้นเรื่องรักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรม ก็แปรญัตติเพิ่มเติม และได้รับงบประมาณมา 900 ล้านบาท ก็ต้องมาจัดสรรทั้งเรื่อง รปภ. และกล้องวงจรปิด แต่ส่วนนี้ยังไปไม่ถึงบ้านพักผู้พิพากษาเนื่องจากฝ่ายรัฐบาลหรือสำนักงบประมาณ มองว่าให้จัดเน้นไปที่อาคารสถานที่ศาลก่อน ซึ่งเราก็พยายามอธิบายในเรื่องความปลอดภัยของผู้พิพากษาไป

 

          ขณะที่งบที่แปรญัตติมายังต้องถูกนำไปใช้ในเรื่องอัตรากำลัง เจ้าพนักงานตำรวจศาล (คอร์ทมาแชล หรือ Court marshal) ซึ่งเวลานี้มีจำนวน 35 คน แต่วันที่ 1 เม.ย.นี้กำหนดอัตราจะรับโอนเพิ่มอีก 63 คนและยังส่วนบรรจุใหม่อีก 209 อัตราที่จะต้องจัดการฝึกอบรมอีกด้วย อย่างไรก็ดี หากส่วนนี้ฝึกอบรมเสร็จก็จัดสรรกระจายกำลังไปยังศาลภาคพื้นที่ต่างๆ ซึ่งตรงนี้เจ้าพนักงานตำรวจศาลก็จะเป็นหน่วยงานสนับสนุนหรือดูแลเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า รปภ.เดิมได้ เพราะเจ้าพนักงานตำรวจศาลอาจจะไปนั่งเป็นหัวหน้าทีมแต่ละภาคหรือเรียกว่าเข้าไปดูแลในระบบ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ