พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ได้ทำการสุ่มตรวจร้านค้าจำนวน 326 แห่ง ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบร้านที่มีการขายสินค้าเกินราคาและกักตุนสินค้า
สถานการณ์การระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ส่งผลให้ตอนนี้เกิดการขาดแคลนหน้ากากอนามัย ทั้งตามร้านค้าหรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน นอกจากนี้ยังพบว่ามีพวกฉวยโอกาสอาศัยจังหวะกักตุนสินค้า และขายหน้ากากอนามัยในราคาที่สูงด้วยนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ได้ทำการสุ่มตรวจร้านค้าจำนวน 326 แห่ง ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบร้านที่มีการขายสินค้าเกินราคาและกักตุนสินค้า
อ่านข่าว-"บิ๊กตู่" ย้ำเร่งผลิต "หน้ากากอนามัย" ขู่กักตุนลงโทษเด็ดขาด
โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ เปิดเผยว่าปัจจุบันในห้วงที่มีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดและการป้องกันไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนมีความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มมากขึ้น และไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน หากผู้ประกอบการหรือผู้ใดคิดที่จะฉวยโอกาสกอบโกยเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด มิให้ผู้ใดฉวยโอกาสและซ้ำเติมพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) มีมาตรการในการกำกับดูแลปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจำนวน 3 มาตรการ ดังนี้
1. มาตรการปราบปราม ร่วมกับกรมการค้าภายใน จัดชุดปฏิบัติการเป็น 6 ชุด ออกตรวจสอบทุกพื้นที่และล่อซื้อจับกุมทุกวัน มีผลการจับกุม ร้านค้าที่ขายสิ้นค้าในราคาสูงเกินสมควร จำหน่ายสินค้าไม่แสดงราคาหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และกักตุนสินค้า จำนวน 40 กว่ารายแล้ว
2. มาตรการสืบสวน การสืบสวน โดยทำการล่อซื้อผู้จำหน่ายทางอินเตอร์เนตและช่องทางอื่นที่เกี่ยวข้อง
3. มาตรการตรวจสอบและประชาสัมพันธ์ ได้ทำการตรวจสอบร้านค้าและแจกโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์จำนวน 326 แห่ง ผลการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบร้านที่มีการขายสินค้าเกินราคาและกักตุนสินค้า
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง