ข่าว

สถานทูตไทยแจงสถานการณ์โควิด-19

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สถานทูตไทยแจงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด เตือนคนไทยรับมือ-ดูแลตัวเอง

 

               สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ทั่วโลกยังคงทวีความรุนแรง จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงพุ่งไม่หยุด ส่งผลให้สถานทูตไทย ประจำประเทศต่างๆ ออกคำเตือนคนไทยรับมือ และเตรียมความพร้อมในการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันการับเชื้อไวรัสโควิด-19 อาทิ

 

อ่านข่าว ด่วน โควิด-19 คร่าคนไทยรายแรกเป็นชายอาชีพขายสินค้า

อ่านข่าว โควิด-19 ระบาดทั่วโลกแล้ว

อ่านข่าว สหรัฐอเมริกา พบผู้เสียชีวิตรายแรก จากโควิด-19

 

               สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ออกประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ที่ 7/2563 เรื่อง สถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ระบุว่า

 

               ด้วยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) ได้ประกาศว่า COVID-19 มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นภัยต่อสุขภาพของสาธารณชนทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก


               ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอแจ้งข้อมูลและข้อแนะนำสำหรับชุมชนไทยในสหรัฐฯ จากกรณี COVID -19 ดังนี้

 

สถานทูตไทยแจงสถานการณ์โควิด-19

 

               1. ชุมชนไทยในสหรัฐฯ สามารถติดตามสถานการณ์ และคำแนะนำในการปฏิบัติตนได้ทางเว็บไซต์ของ CDC (www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov)

 

               2. ปัจจุบัน สหรัฐฯ ไม่มีคำสั่งห้ามคนจากประเทศไทยเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา แต่มีประกาศห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว หากได้เดินทางไปประเทศจีน (ยกเว้นฮ่องกงและมาเก๊า) ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ยกเว้นผู้ถือกรีนการ์ด ผู้ที่มีคู่สมรสเป็นชาวอเมริกัน ผู้ที่ถือวีซ่าทางการทูต ฯลฯ 

 

               นอกจากนี้ ได้กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (Secretary of Homeland Security) จัดให้มีการตรวจคัดกรองทางการแพทย์สำหรับบุคคลที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งกำหนดให้มีการกักกันผู้ที่มีความเสี่ยงว่าจะติดเชื้อไวรัส (Quarantine) ดังประกาศประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 ( www.whitehouse.gov/…/proclamation-suspension-entry-immigran…)

 

               3. สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้คนไทยติดตามข่าวสาร คำแนะนำผ่านช่องทางของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละรัฐอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตฯ Royal Thai Embassy, Washington D.C. หรือทางเฟซบุ๊กฝ่ายกงสุล Thai Consular Section, Royal Thai Embassy, Washington D.C.

 

สถานทูตไทยแจงสถานการณ์โควิด-19

 

               ด้าน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูคาเรสต์ รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในโรมาเนียและบัลแกเรีย ระบุว่า 

 

               1. วันนี้ (28 ก.พ.2563) กระทรวงสาธารณสุขโรมาเนียได้รายงานสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่มอีก 2 ราย โดยทั้งสองรายมีประวัติเพิ่งเดินทางกลับจากอิตาลี รายแรกเป็นชายอายุ 45 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Maramures ขณะนี้ เข้ารับการรักษาอยู่ในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤต และรายที่สองเป็นหญิงอายุ 38 ปี จากเมือง Timisoara ขณะนี้ อาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อทั้งสองรายได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในภูมิภาคของตนเอง

 

               2. ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในโรมาเนียทั้งหมด จำนวน 3 ราย รวมทั้งมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง จำนวน 182 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่อยู่ระหว่างติดตามอาการที่บ้านอีกกว่า 8,200 ราย

 

               3. ปัจจุบัน ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในบัลแกเรีย

 

               ขอให้ชาวไทยในโรมาเนียและบัลแกเรียทุกท่านรักษาสุขอนามัยของตนเอง หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ชุมชน หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ที่มีอาการไอและผู้ที่มีอาการทางระบบหายใจ

 

สถานทูตไทยแจงสถานการณ์โควิด-19

 

               ขณะที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา สรุปความคืบหน้าล่าสุดของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ในบาห์เรน ณ วันที่ 28 ก.พ. 2563 เวลา 21.00 น.

 

               จำนวนผู้ติดเชื้อ 38 คน (เพิ่มขึ้น 5 คนจากเมื่อ 27 ก.พ. 2563)

 

               รัฐบาลประกาศปิดเรียนทุกระดับชั้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 2563

 

               การประกาศงดเที่ยวบินขาเข้าจากเมืองดูไบและชาร์จา (Sharjah) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงเช้าวันเสาร์ที่ 29 ก.พ. 2563

 

               สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากไทย และมีถิ่นพำนักในบาห์เรน (รวมถึงผู้ที่มีวีซ่านักลงทุน วีซ่าทำงาน วีซ่าครอบครัว และ Flexi Work Permit แต่ไม่รวมวีซ่าท่องเที่ยว) เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินบาห์เรนแล้ว จะมีขั้นตอน ดังนี้

 

               1. เมื่อลงจากเครื่องบินแล้วต้องขึ้นรถบัสไปที่เต็นท์คัดกรอง ที่อยู่นอกอาคารผู้โดยสาร ภายในเต็นท์มีที่นั่งพักรอ ห้องน้ำ น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย และถุงมือยาง แต่ไม่มีอาหาร

 

สถานทูตไทยแจงสถานการณ์โควิด-19

 

               2. เจ้าหน้าที่จะให้กรอบแบบฟอร์ม ซึ่งต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ชื่อ ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ของตน และบุคคลอ้างอิงในบาห์เรน (เพื่อเป็นช่องทางสำรองในการติดตามตัว ในกรณีจำเป็น) โปรดเตรียมปากกาของตนเองมาให้พร้อม และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

 

               3. นั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปเก็บตัวอย่างของเหลวโดยการใช้ไม้ป้ายเข้าไปในโพรงจมูก เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อ COVID -19 (การจะทราบผลตรวจใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมง แต่เท่าที่ทราบ เจ้าหน้าที่จะไม่ได้ให้รอ แต่จะโทรศัพท์ไปแจ้งผลที่เบอร์โทรศัพท์ที่เราให้ไว้ในภายหลัง)

 

               4. เมื่อออกมาจากห้องตรวจแล้ว เจ้าหน้าที่จะจัดให้ไปผ่านด่าน ตม. ซึ่งจะมีการสแกนหน้าพาสปอร์ตของทุกคนด้วย

 

               5. เมื่อผ่านด่าน ตม. แล้ว จะมีรถบัสมารับไปที่จุดรับกระเป๋าสัมภาระนอกอาคารผู้โดยสาร และผ่านช่องทางที่จัดให้โดยเฉพาะ (ไม่ผ่านร้าน duty free) เพื่อออกมาข้างนอก และปล่อยให้แต่ละคนเดินทางกลับไปยังที่พักของตน

 

               *** กระบวนการตามขั้นตอนที่ 1-5 อาจใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง นับจากที่เครื่องบินลงจอด ***

 

สถานทูตไทยแจงสถานการณ์โควิด-19

 

               6. เมื่อกลับไปยังที่พักแล้ว ขอให้ทุกท่านกักตัวเองอยู่ในที่พักอาศัย แยกต่างหากจากผู้อื่น เป็นเวลา 14 วัน ระหว่างนั้นควร

 

               - แยกห้องนอนและห้องน้ำ ของใช้ส่วนตัว ตลอดจนภาชนะที่ใช้ทานอาหารและเครื่องดื่มจากคนอื่นๆ ในบ้าน

 

               - หากจะพูดคุย หรือมีกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นในบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัย

 

               - หากไอ จาม ควรปิดปากด้วยทิชชู่ หรือหน้ากากอนามัย ซึ่งควรทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิด

 

               - วัดอุณหภูมิร่างกายของตนอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

 

               - ถ้าหากมีอาการไอ จาม มีไข้ (สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส) หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ให้ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ 444 ซึ่งเป็นสายด่วนของรัฐบาลบาห์เรนเพื่อขอเข้ารับการตรวจและรักษาพยาบาลที่เหมาะสมทันท่วงที หากไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษหรืออารบิคได้ อาจติดต่อสถานทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 33622445

 

               - ในช่วง 14 วันที่กักตัวเองอยู่ในบ้าน อาจมีเจ้าหน้าที่ของทางการบาห์เรนโทรศัพท์ไปสอบถามอาการ โปรดให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือในการตอบคำถามของเจ้าหน้าที่

 

สถานทูตไทยแจงสถานการณ์โควิด-19

 

               ข้อแนะนำในการปฏิบัติตน

 

               1. ท่ามกลางสถานการณ์ของโรค COVID-19 ที่มีพัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว สถานทูตฯ ขอให้พี่น้องคนไทยทุกคนติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เป็นทางการอย่างใกล้ชิด ป้องกันตนเองตามข้อแนะนำของ สถานทูตฯ และใช้ความระมัดระวังในการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้มากขึ้น แต่ไม่ควรตื่นตระหนก

 

               2. โปรดศึกษาและปฏิบัติตามวิธีปฏิบัติตนเพื่อป้องกันตนจากโรคในประกาศฉบับที่ผ่านๆ มาของสถานทูตฯ

 

               3. คนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับไทย หรือไม่มีกิจธุระจำเป็นในบาห์เรน ยังคงสามารถเดินทางกลับได้ โดยสายการบิน Gulf Air, Oman Air, Etihad (ส่วน Kuwait Air งดบินเพราะมีประกาศห้ามคนต่างชาติ รวมถึงคนไทยเข้าประเทศ และ Emirates ถูกทางการบาห์เรนระงับเที่ยวบินชั่วคราว)

 

 

 

               นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก , สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี , สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน และ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ก็ได้ออกประกาศเรื่องสถานการณ์ไวรัส COVID-19 พร้อมคำแนะนำคนไทยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วย

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ