สธ. พบผู้ป่วย โควิด-19 เพิ่ม 1 คน ยันการระบาดอยู่ระยะ 2 ลงนามความร่วมมือศึกษาวิจัยพัฒนา "วัคซีน" ใช้เวลาการผลิตสักพักใหญ่
28 กุมภาพันธ์ 2563 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ว่า พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพิ่ม 1 ราย
อ่านข่าว - พบผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่ม 1 รายเป็นไกด์ชาวไทยกลับจากเกาหลีใต้
เป็นชายไทย อายุ 25 ปี อาชีพ ไกด์นำเที่ยว มีประวัติเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยอาการไข้ ไอ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ ขณะนี้ได้รับตัวไว้ในสถาบันบำราศนราดูร ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดได้ 2 คน ส่วนเพื่อนร่วมทัวร์ และผู้สัมผัสบนเครื่องบินอยู่ในระหว่างการติดตาม ทั้งนี้ ได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการแล้ว และมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 1 ราย เป็น ชายชาวจีน อายุ 30 ปี จากสถาบันโรคทรวงอก ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 28 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 13 คน รวมยอดผู้ป่วยสะสม 41 คน
ความคืบหน้าผู้ป่วยอาการหนักทั้ง 2 คน ที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ เพราะผู้ป่วย 1 รายมีโรควัณโรคร่วมด้วย และอีก 1 คนเป็นโรคไข้เลือดออก
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า ประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 คนที่ติดเชื้อส่วนมากมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง เพราะที่ผ่านมาผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ได้รับเชื้อมาจากต่างประเทศ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงการเดินทางไม่ได้ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายสู่คนอื่น ส่วนกรณีทางสังคมก็อย่าตีตรา อย่าล้อเลียนคนกลุ่มนี้ เพราะจะทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไม่กล้าไปตรวจ เปิดเผยอาการและประวัติการเดินทางทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญโรคระบาดมาแล้วหลายครั้ง เชื่อว่าจะผ่านไปได้จากความร่วมมือทุกภาคส่วน
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต บอกว่า สถานการณ์ โควิด-19 ที่ทุกคนกำลังต่อสู้อยู่ขณะนี้ต้องร่วมมือกัน ตัวบุคคลต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนในแง่ของสังคมต้องช่วยกันสอดส่องดูแลกันและกัน
ส่วนกรณีที่มีการแชร์ค่ารักษาตรวจหาเชื้อ โควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ไม่ได้มาจากกระทรวง แต่ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์คือ เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วย โควิด-19 จะได้รับการตรวจฟรี แต่ถ้าผู้ป่วยที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเสียเงินค่าตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ซึ่งโรงพยาบาลที่สามารถตรวจเชื้อ โควิด-19 ได้คือ คณะแพทย์ศาสตร์คณะศิริราชพยาบาล / โรงพยาบาลรามาธิบดี / คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / โรงพยาบาลราชวิถี / คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ / สถาบันบำราศนราดูรและโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขใน 1 จังหวัดต้องมี 1 ห้องแล็บตรวจเชื้อ ล่าสุด มีโรงพยาบาลต่างจังหวัดหลายแห่งแจ้งความจำนงเข้ามาแต่กระทรวงสาธารณสุขจะลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมอีกครั้งก่อนอนุมัติ
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้า นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และบริษัทผลิตวัคซีนภาคเอกชน เพื่อระดมกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ ห้องปฏิบัติการ ร่วมกันศึกษาวิจัยพัฒนา “วัคซีน” ป้องกันเชื้อ โควิด-19 โดยจะใช้เวลาการผลิตสักพักใหญ่ เนื่องจาก โควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ประชาชนยังไม่มีภูมิคุ้มกันในร่างกาย หากคิดค้นพัฒนาวัคซีนป้องกันได้ ก็จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญป้องกันโรคใน “ระยะยาว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง