สธ.ประกาศแล้ว "โควิด-19"โรคติดต่ออันตรายร้ายแรง

       

            วันที่ 24 ก.พ.2563- นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติตามพระราชบัญญติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ว่า. ในที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า สมควรประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่ 14 เพราะต้องการให้คนตระหนักมากขึ้นให้ความร่วมมือเพื่อยับยั้ง ซูเปอร์สเปรเดอร์ (Super spreader)" คือ บุคคลที่สามารถแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้จำนวนมากในครั้งเดียว

 

 

           เหมือนกับประเทศเกาหลีใต้ ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการบังคับผู้เข้าข่ายติดเชื้อให้มาตรวจที่โรงพยาบาล  ถึงแม้จะมีการประกาศเป็นโรคร้ายแรงที่ 14 แต่แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 คือ การเริ่มมีการติดเชื้อจากคนสู่คนภายในประเทศ ยังไม่ถึงระยะที่3อย่างที่เป็นข่าวออกมา
     

 

          การประกาศโควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่14 จะทำให้เจ้าหน้าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศและให้อำนาจฝ่ายปกครองดำเนินหน้าที่ได้อย่างรอบครอบรัดกุมมากขึ้น

   

          โดยแนวทางการปฎิบัติจะดำเนินการขั้นตอนปกติที่มีอยู่แล้วเพียงแต่ประกาศให้เป็นทางการภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 เช่น ห้ามเดินทางไปในสถานที่ชุมนุมหรือพื้นที่สุ่มเสี่ยงในต่างประเทศที่มีกาาติดเชื้อ เป็นต้น 
     

 

         หลังจากนี้ เมื่อนายอนุทินลงนามในประกาศแล้ว กรมควบคุมโรคก็จะส่งต่อไปยังคณะกรรมการกฤษฏีกา เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก่อนประกาศบังคับใช้ในวันถัดไป

           ส่วนกรณีด่านคัดกรองที่อำเภอ แม่สอด จ.ตากที่พบคนจีนลักลอบเข้ามาด่านธรรมชาติ และพบว่าบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวเดินทางมาถูก ต้องได้รับการตรวจร่างกายแล้วยืนยันว่าไม่พบเชื้อ เพราะมั่นใจว่าสามารถควบคุมการกระจายเชื้อของชาวต่างชาติได้