กองทัพบก ระดม จนท.ดับไฟป่า จ.นครนายก MI-17 และ KA-32 บินโปรยน้ำ เสริมกำลังภาคพื้นดิน ใช้ รร.นายร้อย จปร. เป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการบิน
ไฟป่าที่ จ.นครนายก แนวโน้มดีขึ้น ขณะที่กองทัพบกยังคงใช้ MI-17 และ KA-32 บินโปรยน้ำ เสริมด้วยกำลังภาคพื้นดิน พร้อมใช้โรงเรียนนายร้อย จปร. เป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการบิน
จากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บริเวณช่องยางแดง ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และขยายวงเข้าเขตพื้นที่ จ.นครนายก ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงปัจจุบัน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,000 พันไร่ โดยขณะนี้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมดับไฟป่า ประกอบไปด้วย จังหวัดนครนายก, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, เจ้าหน้าที่ป่าไม้, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สำหรับกองทัพ ได้ระดมทั้งยุทโธปกรณ์ และกำลังพลเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ โดยจัดกำลังจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์, มณฑลทหารบกที่ 12 และ 18 ร่วมกับโรงเรียนเตรียมทหาร
นอกจากนี้ กองทัพบกยังสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ MI-17 จำนวน 2 เครื่อง บินโปรยน้ำร่วมกับเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยปฏิบัติการบิน ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ จนถึงปัจจุบัน
ได้บินบรรทุกน้ำจากแหล่งน้ำในบริเวณโดยรอบไปโปรยในพื้นที่เป้าหมายแล้ว 101 เที่ยวบิน จำนวน 320,500 ลิตร เพื่อลดความร้อนในจุดที่เพลิงลุกไหม้ ส่งผลให้กำลังภาคพื้นดินสามารถเข้าไปดับไฟ และใช้รถบรรทุกน้ำเข้าฉีดน้ำได้อย่างปลอดภัย
ตลอด 3 วันที่ผ่านมา สามารถดับไฟได้ใน 3 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ บ้านวังรี บ้านเขาแหลม อ.เมือง และบริเวณเขาชะพลู รอยต่อระหว่างโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กับโรงเรียนการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก ซึ่งยังคงต้องเฝ้าระวังควบคุมไฟไม่ให้กระจาย
สำหรับพื้นที่ที่ไฟยังคงปะทุอยู่ ได้แก่ บนเขาสูงหลังโรงเรียนเตรียมทหาร และเขาชะพลูด้านหลังโรงเรียนการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก ซึ่งได้มีการสำรวจจุดความร้อนและติดตามสถานการณ์ตลอด เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับปฏิบัติการทางอากาศและการใช้รถบรรทุกน้ำจะให้ความสำคัญกับพื้นที่เกิดไฟป่าที่ใกล้กับชุมชน และบ้านเรือนประชาชนเป็นลำดับแรก ส่วนในพื้นที่หน่วยทหารโดยเฉพาะโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ใช้กำลังทหารเดินเท้าเข้าดับไฟเป็นหลัก
ล่าสุดในวันนี้ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่านครนายก ได้ส่งกำลังเข้าปฏิบัติการดับไฟป่ามี 2 จุดคือ บริเวณเขาพระ เขาทุเรียน และพื้นที่หลังโรงเรียนเตรียมทหาร โดยมีแผนใช้เฮลิคอปเตอร์ ทั้ง 3 เครื่อง บินโปรยน้ำควบคู่ไปกับชุดปฏิบัติการภาคพื้นดิน คาดว่าสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น หากไม่มีกระแสลมมาทำให้เกิดการปะทุใหม่
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว กำชับให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เตรียมการสนับสนุนเพิ่มเติมโดยเฉพาะยุทโธปกรณ์และอากาศยาน หากได้รับการร้องขอ โดยกองทัพบกจะยังคงสนับสนุนภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า เฮลิคอปเตอร์บินดับไฟโปรยน้ำป้องกันเฉพาะพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของหน่วยราชการนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เหตุที่มีผู้พบเห็นเฮลิคอปเตอร์บินเข้ามาใน โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มาเพื่อดับไฟแต่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นฐานปฏิบัติการบินที่เฮลิคอปเตอร์ต้องเข้ามาเติมเชื้อเพลิง ปรนนิบัติบำรุงอากาศยานเท่านั้น
ขอยืนยันอีกครั้งว่า ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่านครนายก มีแนวทางการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน ในการนำเครื่องมือบรรเทาภัยจากทุกส่วนราชการที่นำมาสนับสนุนในภารกิจครั้งนี้ไว้เพื่อการดับไฟ และป้องกันพื้นที่ชุมชนและบ้านเรือนประชาชนเป็นลำดับแรก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง