ข่าว

สภาฯ จัด 3 กระทู้สด ถามเหตุโศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สภาฯ จัด 3 กระทู้สด ถามเหตุโศกนาฏกรรม กราดยิงโคราช ข้องใจ "รัฐบาล" ทำงานช้า ทั้งจ่ายเงินเยียวยา-ระงับเหตุ ถามเหตุเลวร้าย ทำไมไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน "บิ๊กช้าง" ปัดตอบปมจูงใจจากเรื่องภายในหน่วยงาน แจงไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะ ผบ.ทบ. ระงับเหตุได้

 

 


          เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2563 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระกระทู้ถามสด ส.ส.พร้อมใจตั้งกระทู้ถามสด 3 เรื่อง ประเด็นเดียวกัน คือ เหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกราดยิงประชาชนที่ จ.นครราชสีมา รวมถึงมาตรการของรัฐบาลที่ควรจะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างทันท่วงที ทั้งนี้มีประเด็นคำถามที่สำคัญ ของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ตั้งคำถามต่อการดำเนินงานที่ไม่โปร่งใสภายในกองทัพ โดยเฉพาะการจัดสรรที่ดินราชพัสดุ ที่ไม่สามารถซื้อขายได้ ไปจัดสรรและแบ่งขาย โดยมีผู้นำระดับสูงของกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้มีนายทหารชั้นผู้น้อยได้รับผลกระทบ ซึ่งตนต้องการทราบจำนวนที่เกิดขึ้น ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเหตุจูงใจที่ทำให้ทหารคลั่งเข้าทำร้ายประชาชน รวมถึงต้องแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้กองทัพมีการโปร่งใสในการใช้งบประมาณ ขณะที่การเยียวยาประชาชนของภาครัฐ ด้วยมาตรการจ่ายเงินเยียวยา , ชดเชย จะดำเนินการภายในระยะเวลาเท่าใด ซึ่งข่าวล่าสุดพบว่าผู้เสียหายได้รับเงินจากการบริจาค ทั้งที่ควรเป็นเงินอุดหนุนเพิ่มเติมจากเงินเยียวยาของหน่วยงานรัฐ

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

บิ๊กแดง ยก ซีบร้าหมาทหาร ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ แบบมนุษย์โซเชียล

ยธ.อนุมัติจ่ายเยียวยาผู้เสียชีวิตยิง 27 ศพ

ธ.ก.ส. ยกหนี้ลูกค้าผู้กู้เสียชีวิต เหตุกราดยิงโคราช

 

          พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงในสาระสำคัญ ว่า โครงการที่มีปัญหาไม่ใช่ที่ดินของราชพัสดุ แต่เป็นโครงการของกองทัพบกร่วมมือกรมธนารักษ์ นำที่ดินกองทัพโอนให้กรมธนารักษ์ไปดำเนินโครงการ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจใหักับนายทหารชั้นผู้น้อย และยังเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมโครงการด้วย อย่างไรก็ตามคำถามที่ตั้งไปตนตอบไม่ได้ เพราะต้องรอกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการซื้อขาย เป็นเรื่องผู้ก่อเหตุและผู้ขาย รวมถึงนายหน้าที่ตกลงกันเอง ขณะที่การใช้งบประมาณ ได้ลงนามกับกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ขณะที่การจ่ายเงินชดเชย หรือเยียวยา คือ เงินจากงบประมาณ ให้ภายในกี่วัน หรือภายในวันใด ตอบยาก แต่นโยบายของกองทัพ สั่งการให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด และเป็นไปตามขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณ  

 

          ขณะที่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามต่อระยะเวลาจ่ายเงินเพื่อเยียวยาประชาชนที่ประสบเหตุในจังหวัดนครราชสีมา ว่า จะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือภายใน 7-10 วัน โดยจะจ่ายให้กับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบ


          ขณะที่กระทู้อีก 2 เรื่องมีคำถามที่น่าสนใจ อาทิ คำถามของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามต่อการแก้ปัญหาสถานการณ์ของรัฐบาลที่ล่าช้า และการไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาให้รวดเร็ว รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบของนายกฯ และหน่วยงานกองทัพที่เป็นต้นเหตุให้เกิดความสูญเสีย ทั้งนี้ ไม่นับว่าการแถลงขอโทษและเสียใจของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไม่ใช่การแสดงความรับผิดชอบ 
  

 

          ทั้งนี้พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงในสาระสำคัญว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะเทือนความรู้สึกของประชาชนทุกคน ซึ่งทุกหน่วยงานจะไม่ทำให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ดีในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ถึงขั้นที่จะการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สามารถเข้าบัญชาการเหตุการณ์ได้ และหากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีผลกระทบในวงกว้าง ทั้งนี้ยอมรับว่าตนได้รับคำสั่งจากนายกฯ ให้เตรียมความพร้อมกำลังหากเกิดกรณีบานปลาย  อย่างไรก็ตามการสูญเสียที่เกิดขึ้นที่หลายฝ่ายระบุว่าประชาชนสามารถฟ้องร้องได้หรือไม่นั้น ขอให้พิจารณารายละเอียดเพราะเป็นความผิดทางเพ่ง

 

          "การแสดงความรับผิดชอบ หน่วยงานได้ตั้งกรรมการสอบสวน หากพบว่าใครทำผิด ต้องดำเนินการ ในยามปกติจัดหน่วยมีชุดเผชิญเหตุ กำลังหมวด หมู่ มีข้อบังคับว่าด้วยการจัดกำลังเมื่อเกิดเหตุการณ์มีขั้นตอนการปฏิบัติแต่ผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพล รู้ว่าอาวุธต่างๆ อยู่ตรงไหน ทำให้การแก้ไขสถานการณ์มีความเสี่ยงต่อกำลังพลเช่นกัน" พล.อ.ชัยชาญ ตอบกระทู้  


          ทั้งนี้พล.อ.ชัยชาญ ยังตอบกระทู้ถามสดประเด็นที่การเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ลูก รวมถึงเยียวยาภาพรวม ภาคธุรกิจ โดยนายกฯ สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะพิจารณามาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมจากสิทธิที่ได้รับตามกฎหมาย ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ มีมาตรการช่วยเหลือ เช่น ทุนการศึกษา, การจ้างงาน และสั่งการให้กรมสุขภาพจิตพูดคุยกับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงขอความร่วมมือจากภาคเอกชน , ธนาคารเอกชน ให้ช่วยเหลือ ขณะที่กองทัพมีแนวทางเยียวยา ช่วยเหลือ ทั้งร่างกายและจิตใจ  โดยจัดกำลังพลทหาร เข้าไปดูแลครอบครัวประชาชนและกำลังผลที่ได้ผลกระทบ.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ