ข่าว

กัก 2 แท็กซี่ตรวจ สงสัยติดไวรัสโคโรน่าจาก นทท.จีน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กัก 2 แท็กซี่ตรวจ สงสัยติดไวรัสจาก นทท.จีน รมว.สธ.เล็งยกเลิกวีซ่าหน้าด่าน "บิ๊กตู่" ป่วยหวัด-จีนตายพุ่ง 170

 

               สธ.เผยผู้ติดไวรัสโคโรน่าในไทยยังไม่เพิ่ม รอผลตรวจ 2 แท็กซี่สุวรรณภูมิติดเชื้อหรือไม่ รับติดคนสู่คนได้ มี 4 ประเทศยืนยันแล้ว “อนุทิน” ชงยกเลิก “Visa On Arrival” จำกัดนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย สร้างความมั่นใจให้คนไทย “บิ๊กตู่” ป่วยไข้หวัดงดภารกิจนอนพักที่บ้าน ปัดติดเชื้อโคโรน่าแค่หวัดธรรมดา “พุทธิพงษ์” นำกำลังบุกรวบ 2 รายปล่อยข่าวปลอมสร้างตื่นตระหนก ด้านจีนอนุมัติหลายชาติอพยพพลเมืองได้ ยอดตายเพิ่ม 170 ราย 

อ่านข่าว-กระทรวงสาธารณสุขแถลงคืบหน้า "ไวรัสโคโรน่า"

 

 

 

               เมื่อวันที่ 30 มกราคม นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อ 14 ราย ล่าสุดวันนี้สามารถกลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน จึงเหลือผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 8 ราย

 

               นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 202 ราย ยอมรับว่าในจำนวนนี้มี 2 ราย ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ โดยได้ไปรับผู้โดยสารชาวจีนจากสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่ได้สอบถามว่าเดินทางมาจากเมืองใด ภายใน 1-2 วันถึงจะทราบผลการเพาะเชื้อว่าติดเชื้อหรือไม่

 

               ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนเสียชีวิตที่ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าไม่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสเพราะเป็นการเสียชีวิตกะทันหันไม่มีอาการติดเชื้อ แต่เพื่อความชัดเจนจะต้องรอผลการชันสูตรอีกครั้ง และขณะนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นตกค้างอยู่ประมาณ 1 หมื่นราย เบื้องต้นตรวจอาการแล้วไม่พบว่ามีใครป่วย คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะกลับประเทศต้นทางได้ทั้งหมด

 

               สำหรับนักศึกษาไทยที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น จำนวน 65 ราย จากการตรวจสอบทราบว่าส่วนใหญ่นักศึกษาอายุ 20-30 ปี ร่างกายแข็งแรง และช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงปิดเทอมจะอยู่ในที่พัก เบื้องต้นทางการจีนจะเปิดสนามบินในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ ยกเว้นที่เมืองอู่ฮั่น แต่จะต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการของจีนก่อน

 

               พร้อมยอมรับว่าไวรัสโคโรนาสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ซึ่งมี 4 ประเทศที่ออกมายืนยัน ประกอบด้วย ญี่ปุ่น เวียดนาม เยอรมนี ไต้หวัน เนื่องจากผู้ติดเชื้อไม่ได้เดินทางไปประเทศจีน แต่ได้ใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีน

 

               ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า จะเรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติเหตุแห่งชาติ ซึ่งตนเป็นประธานอำนวยการ ในเวลา 13.00 น.วันที่ 31 มกราคม พร้อมจะเสนอมาตรการต่างๆ รวมไปถึงการเสนอให้ยกเลิกการออกวีซ่าให้คนจีน ที่ขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินในประเทศไทย หรือ Visa on Arrival

 

               เพราะจากสถานการณ์จะให้ดีที่สุดต้องทำให้คนจีนเข้ามาประเทศไทยให้น้อยที่สุด เพื่อให้เกิดความสบายใจของคนไทย แต่ก็ไม่สามารถที่จะไปยกเลิกวีซ่าที่ออกโดยสถานทูตจีนได้ อาจจะต้องกำหนดมาตรการ เช่น มีใบรับรองแพทย์มาแสดง เป็นต้น ความสบายใจ ความปลอดภัยในด้านสุขภาพของคนไทย ต้องมาเหนือสิ่งอื่นใด ขอให้มั่นใจ ไม่มีทางเห็นคนอื่นดีกว่า

 

               อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในไทย ไม่ได้มีจำนวนมากถึง 2 ล้านคนจากที่มีการนำเสนอข่าว มีเพียงหลักหมื่นเท่านั้น เพราะไม่มีทัวร์ไม่มีไฟลท์บินจากจีนแล้ว

 

               ส่วนกรณี สธ.จะเอาผิดผู้ปล่อยข่าวปลอมอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่ใช่เวลาที่จะมาเอาผิดเอาถูก แต่ต้องชี้แจงให้มากที่สุด อยากจะให้ไปกราบเท้าทุกคนก็ได้ที่เล่นเฟคนิวส์ อย่าทำเลย เอาไว้สถานการณ์ปกติ จะเล่น จะว่า จะแซวกัน ก็ค่อยให้ถึงเวลานั้น แต่ตอนนี้ขอให้เป็นเวลาทุกคนต้องร่วมกันให้เกิดความสงบความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนชาวไทยให้ได้มากที่สุด”

 

               รมว.สาธารณสุข ยืนยันว่า พร้อมนำเครื่องบินพาณิชย์ไปรับคนไทยจากเมืองอู่ฮั่นกลับเมืองไทยทันทีที่จีนอนุญาต แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันวัน-เวลาและสถานที่แต่อย่างใด ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะรับกลับมาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นั้น ไม่ขอยืนยัน เพราะต้องรอจีนแจ้งมา แต่ตอนนี้ไทยเตรียมแผนการรองรับคนไทยที่มาจากจีนไว้หมดแล้ว ทั้งทางเครื่องบิน บุคลากรทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์ อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีคนไทยในเมืองอู่ฮั่นป่วยหรือติดเชื้อ

 

               ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยกรณีเตรียมเสนอ ครม.เศรษฐกิจ ให้ยกเลิก Visa On Arrival (VOA) แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ก็เชื่อว่าถ้ามีมาตรการนี้ก็จะไม่มีผลกระทบ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสถานการณ์แพร่ระบาดมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยรวมถึงเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงต้องหาแนวทางในการดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศให้ขยายตัวเพื่อทดแทนให้ได้

 

               มีรายงานว่า คณะทำงานของรัฐบาลได้วางแผนเตรียมรับคนไทยกลับประเทศ โดยแผนเบื้องต้นจะใช้เครื่องบินพาณิชย์เดินทางไปถึงอู่ฮั่น เวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และเดินทางกลับทันที อย่างไรก็ตามจะตัดสินใจอีกครั้ง

 

               เวลา 13.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้ไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยกล่าวว่า ประเทศไทยโดยรวมมีความต้องการใช้หน้ากากอนามัยในประเทศเดือนละ 30 ล้านชิ้น โดยศักยภาพการผลิต 10 โรงงานใหญ่ มีกำลังการผลิตเดือนละประมาณ 100 ล้านชิ้น

 

               ถ้าสถานการณ์ไวรัสโคโรน่ายังไม่พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ความต้องการใช้ก็อาจจะเพิ่มจาก 30 ล้านชิ้น เป็น 40 ล้านชิ้นต่อเดือน ประเมินเบื้องต้นเชื่อมั่นว่าเพียงพอต่อความต้องการและสต็อกปัจจุบันที่มีอยู่นั้นประมาณ 200 ล้านชิ้น ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ให้ความมั่นใจว่าจะสามารถจัดผู้ผลิตให้ผลิตทันความต้องการใช้โดยต่อเนื่องไม่ให้ขาดแคลนและดูเรื่องราคาไม่ให้มีการโก่งราคาขาย

 

               วันเดียวกัน มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ยกเลิกกำหนดการและภารกิจทั้งหมดตลอดวันนี้ตั้งแต่เวลา 09.15 น. โดยยกเลิกการเป็นประธานเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และมอบรางวัลเชิดชูเกียรติเครือข่ายสถานประกอบการยอดเยี่ยมในพื้นที่นำร่องการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคคนวัยทำงานในสถานประกอบการด้วย 10 แพ็กเกจ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) โดยมอบหมายให้ นายอนุทิน ทำหน้าที่แทน และเวลา 14.00 น. ยกเลิกการเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมอบหมาย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ทำหน้าที่แทน

 

               รายงานข่าวจากคนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์พักผ่อนอยู่ที่บ้านพักตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากมีอาการไข้หวัด ครั่นเนื้อครั่นตัวเล็กน้อย เนื่องจากพักผ่อนไม่พอ แต่ยังสามารถสั่งงานได้ตามปกติ การป่วยครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการไปตรวจติดตามการปฏิบัติงานด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อป้องกันการระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา

 

               รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 31 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ยกเลิกกำหนดการตรวจเยี่ยมสถาบันบำราศนราดูร แต่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยช่วงเช้าเป็นประธานประชุม ครม.เศรษฐกิจ และบันทึกเทปวันมาฆบูชา และวันทหารผ่านศึก

 

               ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเตือนระมัดระวังข่าวปลอม "ช่วงนี้ข่าวปลอมเยอะครับ ผมขอให้ทุกคนรับข่าวสารอย่างมีสติ จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ข้อมูล #ไวรัสโคโรนา สามารถติดตามได้ทุกวันจากศูนย์ปฏิบัติการฯ กระทรวงสาธารณสุข ที่จะเพิ่มความถี่การรายงานเป็นวันละ 2 รอบ 10.00 น.และ 15.00 น.หรือโทรสายด่วน 1422 วันนี้ผมลาป่วยเป็นไข้หวัดเล็กน้อย พักผ่อนตามคำสั่งแพทย์ครับ”

 

               ด้าน นายอนุทินกล่าวถึงอาการป่วยของนายกฯ ว่า เนื่องจากนายกฯ ต้องหยุดพักผ่อนร่างกาย ยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาหลังจากที่ไปตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานบินสุวรรณภูมิแต่อย่างใด แต่สาเหตุมาจาก พล.อ.ประยุทธ์โหมงานหนักมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ และมีอาการไม่สบายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องหยุดพักผ่อนในวันนี้

 

               ขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่ามีผู้ป่วยที่เข้าข่ายต้องสงสัยรวม 9 ราย พบ 8 ราย มีประวัติสัมผัสและเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น ฉงชิ่ง ปักกิ่ง จื่อหนาน และกว่างโจว ประเทศจีน ทั้งนี้สรุปมี 2 ราย เข้าเกณฑ์ต้องตรวจวินิจฉัยรอผลยืนยัน คือ 1.นักศึกษาหญิงไทย อายุ 23 ปี ศึกษาที่เมืองอู่ฮั่นเดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 12 มกราคม เข้ารับการรักษาอาการไข้เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2.เมื่อวานนี้ (29 ม.ค.) เป็นนักศึกษาชาย อายุ 22 ปี เดินทางกลับจากอู่ฮั่น เมื่อวันที่ 27 มกราคม ป่วยเป็นไข้

 

               ด้านความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขแจ้งความเอาผิดกลุ่มผู้ปล่อยข่าวปลอมเรื่องไวรัสโคโรน่าจนทำให้สังคมตื่นตระหนก ล่าสุดเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยปล่อยข่าวปลอม จำนวน 15 จุด พบ 6 จุด มีผู้ปล่อยข่าวปลอม ส่วน 9 จุด อยู่ระหว่างปฏิบัติการและสรุปผล

 

               เบื้องต้นควบคุมผู้โพสต์ข่าวปลอม 2 ราย โดยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเองย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ เป็นจุดที่มีผู้โพสต์ข่าวปลอมมีผู้ติดเชื้อที่พัทยาเสียชีวิต

 

               จากการสอบปากคำเบื้องต้น หญิงสาวอายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าเผยแพร่ข้อความจริง แต่โพสต์ได้ไม่นานก็ลบออกไปหลังมีคนแชร์ออกไปจำนวนมาก นอกจากนี้ยังควบคุมชายอีก 1 คน ในพื้นที่ย่านทวีวัฒนา ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้ที่เผยแพร่คลิปวิดีโอต่างประเทศที่มีคนล้มลง และอ้างว่าได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา โดยนำตัวไปสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป

 

               ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โพสต์ภาพนายทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี สั่งกองทัพอากาศนำเครื่องซี 130 ไปรับคนไทยที่ประเทศกัมพูชา เหตุจลาจลกรุงพนมเปญ ปี 2546 ว่า เครื่องบินซี 130 ถือเป็นเครื่องบินทหาร สามารถบินไปต่างประเทศได้ทุกพื้นที่ ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทางจะระมัดระวังเรื่องการอนุญาตให้เครื่องบินทหารไปลงในพื้นที่หรือไม่

 

               ที่ผ่านมาประเทศรอบบ้านและหลายประเทศก็อนุญาตให้เราเข้าไป โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ ส่วนการอพยพคนไทยออกจากประเทศจีน ทางกองทัพอากาศก็จัดเครื่องซี 130 เตรียมพร้อมไว้แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าทางการจีนจะอนุมัติหรือไม่ และทั้ง 2 เหตุการณ์ไม่สามารถที่จะนำมาเปรียบเทียบกันได้ เพราะแต่ละประเทศมีเหตุผล เป็นเรื่องเหตุผลภายในของเขาเอง

 

               สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการสาธารณะสุขของจีนรายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 170 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 7,736 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นหลักพันเพียงแค่วันเดียว และมี 12,167 รายต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อ

 

               ขณะที่เขตปกครองทิเบตซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อเข้ามาแล้ว ซึ่งปัจจุบันทั้ง 21 มณฑล 5 เขตปกครองตนเอง 4 เขตเทศบาลนคร และเขตบริหารพิเศษ 2 แห่งของจีนได้พบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด

 

               ในส่วนของการพบผู้ป่วยในต่างประเทศ นอกเหนือจาก ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน มีรายงานในอย่างน้อย 16 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย มาเลเซีย ฝรั่งเศส สหรัฐ เยอรมนี เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แคนาดา เวียดนาม กัมพูชา ฟินแลนด์ เนปาล และศรีลังกา โดยในหลายประเทศพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

 

               ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเตือนให้รัฐบาลทุกประเทศ ใช้มาตรการที่จำเป็นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่น พร้อมเรียกประชุมเร่งด่วนในวันนี้ เพื่อหารือว่าจะประกาศให้สถานการณ์ดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขหรือไม่

 

               ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ยืนยันว่า พลเมืองญี่ปุ่น 3 คนจากจำนวน 206 คน ที่ได้รับการอพยพกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันที่ 29 มกราคม มีผลตรวจเป็นบวก โดยพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นเพิ่มเป็น 11 ราย

 

               โดยในจำนวนนี้รวมผู้ป่วย 2 คนที่ไม่เคยเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดมาก่อน ส่วนเที่ยวบินที่ 2 ของญี่ปุ่นไปรับพลเมืองที่เมืองอู่ฮั่น ในวันนี้ (30 ม.ค.) สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า มีผู้โดยสาร 9 คนที่มีอาการไข้หรือไอด้วย

 

               ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติของจีน ได้อนุมัติคำร้องของรัฐบาลหลายประเทศที่ประสงค์จัดส่งเที่ยวบินเช่าเหมาลำมายังเมืองอู่ฮั่นเพื่ออพยพพลเมืองออกจากพื้นที่ และขอความร่วมมือจากสายการบินทุกแห่งอนุญาตให้ประชาชนจากมณฑลหูเป่ย โดยเฉพาะชาวเมืองอู่ฮั่น ที่ได้รับการยืนยันว่ามีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งอยู่ในภาวะจำเป็นต้องเดินทาง และมีการการันตีจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขว่ามีสุขภาพดี ไม่ควรถูกปฏิเสธการเดินทาง 

 

               ขณะเดียวกัน สำนักข่าวจีนรายงานด้วยว่า ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เทค พบตัวยา 3 ชนิดที่มีใช้ในปัจจุบันสามารถออกฤทธิ์ยับยั้งไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในระดับเซลล์ได้ค่อนข้างดี โดยรอการอนุมัติการใช้รักษาพยาบาล

 

               ทั้งนี้ ยาเรมเดซิเวียร์เป็นยาที่เคยใช้รักษาโรคอีโบลา ส่วนยาคลอโรควินเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย โรคติดเชื้ออะมีบา และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และยาริโทนาเวียร์เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ