ข่าว

ศรีอัมพร สุดผิดหวังรัฐบาลแก้ฝุ่นพีเอ็ม รับมือไวรัสโคโรน่า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ศรีอัมพร" พ.อาวุโส ติงรัฐบาลไทย ยังไม่เข้มความปลอดภัยของคนไทยฝุ่น PM2.5 -การรับมือ "ไวรัสโคโรนา 

 

 

27 มกราคม 2563 "ศรีอัมพร" พ.อาวุโส ยกทั้งจีน-ต่างประเทศ ออกมาตรการเข้มข้นห่วง ปชช.ทั้งใน-นอกประเทศ ส่วนรัฐบาลไทยยังห่วงรายได้ท่องเที่ยวจากจีน ทำคนไทยเป็นพลเมืองชั้น2 เข้ามาระบาดในประเทศไทยแต่อย่างใด 

 

 

"นายศรีอัมพร ศาลิคุปต์" ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ได้แสดงความเห็นทางวิชาการ กรณีการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 และการรับมือ "ไวรัสโคโรนา" ว่า รู้สึก ผิดหวัง และหมดศรัทธา ในวิธีการทำงานของรัฐบาลไทย ที่ไม่เคยเห็นหัวคนไทยว่าเป็นคน หรือเห็นว่าคนไทยเป็นชนชั้น 2 ที่ไม่เคยใส่ใจในสุขภาพอนามัยของคนไทยแต่อย่างใด

 

ตั้งแต่เดือน ธ.ค.ได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของคนไทย คือการมี ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง รัฐบาลก็ไร้น้ำยาในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ไม่มีแผน ไม่มีโครงการระยะสั้นและระยะยาว ในการแก้ไขปรับปรุง คุณภาพของอากาศ ให้ดีขึ้น มีแต่การแก้ปัญหา ไปวันๆให้พ้นตัว เมื่อเกิดปัญหาโคโรนาไวรัสจากประเทศจีน

 

ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์จากไข้หวัดใหญ่เดิมและไม่มีวัคซีนหรือยารักษา และสามารถติดต่อได้จากการไอจาม และมีอากาศพาไปสัมผัสบุคคลอื่นก็สามารถติดเชื้อเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ และเนื่องจากไวรัสสายพันธุ์นี้เป็นไวรัสกลายพันธุ์ ทำให้ผู้ป่วยไม่มีภูมิคุ้มกัน ร่างกายต้องต่อสู้กับโรคนี้โดยใช้เม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันของตนเอง ทำให้เกิดการอักเสบที่ปอดหรือที่เรียกว่าปอดบวมทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสียชีวิตอันเกิดจากโรคต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเข้าแทรกแซง

 

อย่างรัฐบาลจีนเอง โดยประธานาธิบดี สีจิ้นผิง รู้ว่าโรคนี้เป็นโรคที่ร้ายแรงและระบาด ที่มณฑลปู่ฝั้น ซึ่งเป็นต้นตอของจุดเกิดโรคแล้วยังแพร่ระบาดไปยังมณฑลต่างๆ โดยรวดเร็ว จึงตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการปิดเมืองสำคัญ ที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากเพื่อไม่ให้เดินทางออกไปแพร่ระบาดโรคร้ายให้แก่ผู้อื่น

 

รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรงหากใครขัดขวางหรือไม่เชื่อฟังให้ใช้มาตรการเด็ดขาดด้วยการดำเนินคดีเพื่อควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัด แต่เหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสมรณะนี้ยังลุกลามอยู่ จึงมีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและบริษัทท่องเที่ยวดำเนินการขายตั๋วเพื่อพานักท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ เนื่องจากรัฐบาลจีน เป็นห่วงประชาชนทั่วโลกว่าอาจจะติดเชื้อโรคไวรัสมรณะนี้

 

แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและประชาชนในประเทศและประชาชนนอกประเทศ จึงน่ายกย่องรัฐบาลจีนเป็นอย่างยิ่งที่เห็นคุณค่าของความปลอดภัยและชีวิตของคนในประเทศและคนต่างประเทศ อันเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้นำระดับโลกให้เห็น และน่ายกย่องเป็นบุคคลที่มีคุณธรรมเป็นอย่างยิ่ง

 

 

เมื่อดูประเทศอื่นๆ เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ก็รู้ถึงภัยของไวรัสมรณะนี้ว่านักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางจากประเทศจีนจะนำโรคร้ายดังกล่าวมาแพร่เชื้อแก่ประชาชนในประเทศของเขาก็ใช้มาตรการเด็ดขาดด้วยการกักชาวจีนที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานไม่ให้เข้าประเทศและจัดหาเครื่องบินส่ง นักท่องเที่ยวจีนและผู้เดินทางชาวจีนให้กลับประเทศไปโดยไม่ยอมให้เข้าประเทศเพื่อเป็นมาตรการเด็ดขาดในการป้องกันการ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะดังกล่าว

 

โดยประเทศเหล่านี้ไม่สนใจว่าจะสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนไปเป็นจำนวนเท่าใดโดยเขาเห็นว่าชีวิตและสุขภาพของประชาชนในประเทศของเขามีความสำคัญเสียยิ่งกว่าเงินรายได้ที่จะได้จากการท่องเที่ยวจีน ซึ่งน่ายกย่องการดำเนินงานและความเป็นห่วงใยของรัฐบาลดังกล่าวที่ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี อย่างประเทศสหรัฐอเมริกาก็เช่าเหมาลำเครื่องบินเพื่อนำประชาชน นักการทูตและครอบครัว ชาวอเมริกันกลับประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงมีให้ ประชาชนสหรัฐติดเชื้อไวรัสดังกล่าว อันเป็นการแสดงความรับผิดชอบและห่วงใยของรัฐบาลอเมริกาที่สนใจในสุขภาพอนามัยของประชาชนของเขาเช่นกัน

 

แต่เมื่อหันกลับมาดูที่เมืองไทย จากข่าว (เชิดสิงโตรับนักท่องเที่ยวจีน) กลับเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวจีนให้เข้าประเทศโดยไม่จำกัดหรือมีมาตรการใดๆ ที่จะคัดกรอง หรือพยายามจำกัดนักท่องเที่ยวประเทศจีน ลักษณะการดำเนินนโยบายของรัฐบาลไทยเช่นนี้แสดงให้เห็นว่ามีวิสัยทัศน์เพียงต้องการได้รายได้จากนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน

 

นั่นเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทยว่าการได้รายได้ของนักท่องเที่ยวนั้นมีความสำคัญกว่าชีวิตสุขภาพอนามัยของประชาชนชาวไทยโดยไม่คิด หรือให้ความสนใจว่านักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเมืองไทยในระยะนี้อาจนำเชื้อไวรัสมรณะดังกล่าวมาติดต่อแก่คนไทยได้ ซ้ำร้ายยังมีผู้ประกอบ กิจการท่องเที่ยว

 

"นายศรีอัมพร" ยังกล่าวอีกว่า การที่ประเทศจีนสั่งไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าจะพูดเป็นภาษาชาวบ้านแสดงว่ารัฐบาลไทยก็ดี ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยก็ดี ไม่เคยเห็นหัวคนไทยว่าเป็นคน ไม่สนใจว่าคนไทยจะเจ็บป่วยจากไวรัสมรณะนี้กี่คน ไม่เคยเห็นคุณค่าความเป็นคนของคนไทยเลย

 

หากจะตายเพราะโรคไวรัสมรณะนี้ก็เป็นเรื่องของความซวย เราจะดูรายได้จากนักท่องเที่ยวจนละเลยความปลอดภัย และชีวิตของคนไทยที่จะป่วยด้วยโรคไวรัสมรณะเเบบนี้หรือ น่าชื่นชมและขอขอบคุณ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของประเทศจีนที่ยังมีวุฒิภาวะและห่วงใยประชาชนทุกชาติของโลกว่าจึงสั่งห้ามประชาชนชาวจีนไม่ให้เดินทางออกไปท่องเที่ยวนอกประเทศจีน ชาวจีนห้ามออกนอกประเทศไปท่องเที่ยวยังประเทศต่างๆ เพราะท่องเที่ยวอาจติดเชื้อไวรัสมรณะแล้วไปแพร่เชื้อทำให้ประชาชนชาติอื่นต้องไม่ปลอดภัยหรือถึงแก่ชีวิตได้

 

คำสั่งห้ามคนจีนออกไปท่องเที่ยวนอกประเทศอันเป็นการแก้ปัญหาให้แก่ประเทศไทยโดยตรง ที่จะไม่มีนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวแล้วอาจนำเชื้อไวรัสมาเผยแพร่แก่ประเทศไทยทำให้คนไทยต้องป่วยเจ็บล้ม ตายได้ ขณะนี้ก็มีผู้ป่วยชาวจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้าประเทศไทยมีอาการป่วยอยู่ ถึง 6 คน  คนไทยก็คงต้องช่วยตัวเองด้วยการระมัดระวังและป้องกันการติดเชื้อด้วยการไม่ไปอยู่ในที่ชุมชนแออัดรถไฟฟ้า หรือรถปรับอากาศสาธารณะ ห้องประชุมหรือศูนย์การค้า หากจะไปก็ควรสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันตัวไว้

 

"โดยต้องถือสุภาษิต ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และหากมีอาการไข้สูง ไอในลักษณะเป็นหวัดเจ็บคอเป็นระยะเวลานานกว่า 3 วันต้องรีบไปหาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย เนื่องจากขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเชื้อไวรัสที่มาจากนักท่องเที่ยวจีนก่อนมีการห้ามเดินทางมาประเทศไทยจะแพร่ระบาดไปติดคนไทยเข้ากี่คน ก็ยังไม่ทราบ น่าอนาถใจแท้ที่เกิดเป็นคนไทย"

 

นายศรีอัมพร ผู้พิพากษาอาวุโส กล่าวอีกว่า รมว.สาธารณสุขของจีนเอง ยังออกมายอมรับว่าโคโรนาไวรัสนี้ สามารถติดต่อไปยังผู้อื่นได้ในขณะที่ผู้ได้รับเชื้อยังไม่มีอาการป่วยซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก เนื่องจากทางการแพทย์ของจีนยังมีความรู้น้อยเกี่ยวกับโรคนี้จึงยากแก่การดูแลรักษาเพราะไม่มียาหรือวัคซีนที่จะใช้ป้องกันดูแลรักษาโรคนี้แก่ผู้ป่วย ทั้งโรคนี้ระบาดได้รวดเร็วมากอันเป็นวิกฤตการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดของจีนที่เกิดขึ้นขณะนี้ ขณะที่รัฐบาลไทยยังไม่ตื่นตัวในการเฝ้าระวังหรือหาทางป้องกันไม่ให้มีผู้เป็นพาหะนำเชื้อโรคนี้เข้ามาระบาดในประเทศไทยแต่อย่างใด

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ