ข่าว

ดีเอสไอถกด่วนโต้แย้งคำสั่งไม่ฟ้องคดีบิลลี่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดีเอสไอถกด่วน ยกหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์แย้งคดีบิลลี่ ชัดเจนจนมีมติจ่ายเงินเยียวยาเสียชีวิต 1.4 แสน เผยแย่ที่สุดก็ควรฟ้องหน่วงเหนี่ยวกักขัง ให้คดีพิสูจน์ชั้นศาล

 

 

          เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2563 แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนชุดเล็ก เพื่อสั่งการให้ พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ ผอ.กองคดีปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือนายบิลลี่ แกนนำกระเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย เตรียมทำความเห็นแย้งส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดสำนวนคดีฆาตกรรมและความผิดเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันอื่นๆ รวม 8 ข้อหา ภายหลังอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 มีความเห็นไม่ฟ้องคดีถึง 7 ข้อหา โดยมีความเห็นสั่งฟ้องเพียงข้อหาความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

 

          แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ในคดนี้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จะเป็นตัวแปรสำคัญในการทำความเห็นสั่งคดี ซึ่งที่ผ่านมาผลการตรวจสอบชิ้นส่วนกะโหลกศรีษะที่งมได้จากร่องน้ำลึก ภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้รับการรับรองจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แล้วว่า เป็นของนายพอละจี เพราะญาติพี่น้องร่วมสายมารดาเดียวกันยังไม่มีใครเสียชีวิตเลย อีกทั้งผู้ที่สูญเสียชิ้นส่วนกะโหลกศรีษะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ต้องเสียชีวิตแล้วเท่านั้น เป็นเหตุให้คณะกรรมการพิจารณาจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนแก่จำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพอนุมัติจ่ายเงินเยียวยาจากเหตุฆาตกรรมให้กับนางโพเราะจี รักจงเจริญ และนางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ แม่และภรรยาของนายบิลลี่ เป็นเงินจำนวน 1.4 แสนบาท


          “สำนวนคดีฆาตกรรมนายพอละจีมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ร่วมกับพยานแวดล้อมอื่นๆ ที่ตรวจค้นได้จากภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุจับกุมตัวนายบิลลี่ในข้อหาลักของป่า หากอัยการเห็นว่าหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสั่งฟ้องในคดีฆ่า เพราะไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์หรือประจักษ์พยานบรรยายวิธีฆ่า แต่ก็ควรฟ้องในข้อหาหน่วยเหนี่ยวกักขัง เพื่อให้มีการนำหลักฐานไปพิสูจน์ในชั้นศาล” แหล่งข่าวกล่าว
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ