ข่าว

สธ. เข้มตรุษจีน ยกระดับเฝ้าระวัง เชื้อไวรัสโคโรนา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยกระดับเฝ้าระวัง ไวรัสโคโรนา ช่วงตรุษจีน เข้มคัดกรองสนามบิน

 

              เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ในส่วนของไทยพบคนป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คน เป็นคนไทย 1 คน ต่างชาติชาวจีน 1 คน

 

 

 

              โดยผู้ป่วยคนไทยนับเป็นผู้ป่วยรายที่ 3 ติดจากการเดินทางไปเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ขณะนี้รักษาตัวที่ รพ.นครปฐม เป็นเพศหญิง อายุ 73 ปี อาการดีขึ้นตามลำดับ ส่วนคนที่ 4 เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีน อายุ 68 ปี เดินทางมาเที่ยวไทยตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ถูกตรวจพบที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนี้นำตัวมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร อยู่ในห้องแยกโรคความดันเป็นลบ ส่วนผู้ป่วย 2 คนแรก เป็นหญิงนักท่องเที่ยวชาวจีน อายุ 61 ปี และ 74 ปี เดินทางกลับบ้านแล้ว สำหรับผู้ป่วยสงสัยรายล่าสุดที่ จ.เชียงใหม่ ยืนยันผลเป็นลบ

              ทั้งนี้ ยืนยันว่าปัจจุบันยังไม่มีการห้ามเดินทางระหว่างประเทศ แต่ขอให้ประชาชนไม่ประมาทเมื่อพบมีไข้สูงมาจากจีน รีบติดต่อพบแพทย์ทันที หากสงสัยสอบถามหมายเลข 1422 หลีกเลี่ยงใกล้ชิดคนป่วยไข้หวัดไอจามคล้ายหวัด และในเย็นวันนี้ (22 มกราคม) องค์การอนามัยโลกเตรียมหารือกับประเทศที่มีการติดเชื้อโคโรนาไวรัส เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและยกระดับตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก

 

 

 

              นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้มีการยกระดับความรุนแรงในการควบคุมจากระดับกรมเป็นกระทรวงให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดรายงานมายังส่วนกลาง 24 ชั่วโมง หากมีเคสป่วยหรือสงสัยให้รายงานทันที ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการควบคุมคัดกรองผู้ป่วย เน้นการตรวจที่สนามบินในเที่ยวบินตรงเหมือนเดิม

              รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์ กล่าวว่า แม้สถานการณ์ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะพบผู้ป่วยนอกพื้นที่จากเมืองอู่ฮั่นไปที่เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เสิ่นเจิ้น มีผู้ป่วยร่วม 321 คน เสียชีวิต 9 คน เมื่อสอบสวนโรคพบว่าทุกคนที่ป่วยมีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวอู่ฮั่น และคาดว่าเทศกาลตุรษจีนจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางจำนวนมาก เฉพาะลำพังเมืองอู่ฮั่นมีประชากร 11 ล้านคน การคัดกรองที่สนามบินยังคงต้องเข้มข้นเพราะระยะฟักเชื้อประมาณ 2 - 14 วัน จำเป็นต้องเฝ้าระวัง ส่วนโอกาสความรุนแรงของโรคนั้นในสัปดาห์หน้าจะมีการวิเคราะห์โรค เนื่องจากผู้ป่วยที่พบในไทยมีอาการรุนแรงน้อยกว่าจีน แต่ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยพบในผู้สูงอายุและเด็ก โดยในจีนพบผู้ป่วยอายุ 15 - 89 ปี

 

 

 

              สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ได้รายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่รายแรก เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองสโนโฮมิช ใกล้กับเมืองซีแอตเติล ในรัฐวอชิงตัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพิ่งกลับมาสหรัฐเมื่อวันที่ 15 มกราคม หลังเดินทางไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองอู่ฮั่น โดยชายคนดังกล่าวล้มป่วยและเข้าพบแพทย์เมื่อวันที่ 20 มกราคม ก่อนถูกวินิจฉัยว่าติดโคโรนาไวรัส ซึ่งแพทย์ได้ทำการกักบริเวณ 48 ชั่วโมงเพื่อเฝ้าดูอาการ และมีอาการดีขึ้นตามลำดับ

              ขณะเดียวกันซีดีซีของสหรัฐได้ยกระดับคำเตือนการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นเป็นขั้นที่ 2 ประชาชนควรเพิ่มความระมัดระวังและได้ขยายมาตรการคัดกรองผู้โดยสารตามสนามบินเป็นอย่างน้อย 5 แห่ง คือ ท่าอากาศยานจอห์น เอฟ เคนเนดี ในนครนิวยอร์ก , ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแองเจลิส , ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย , ท่าอากาศยานนานาชาติแอตแลนตา ในรัฐจอร์เจีย และท่าอากาศยานนานาชาติชิคาโก โอแฮร์ ในรัฐอิลลินอยส์

 

 

 

              มีรายงานว่าผู้ติดเชื้อแล้วในต่างประเทศพบผู้ป่วยทั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และไทย ล่าสุดสหรัฐพบผู้ป่วยรายแรกแล้ว ทั้งนี้เกรงว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้

              สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน แถลงโรคปอดอักเสบอู่ฮั่น ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ และมีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์และแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น รัฐบาลได้จัดระดับการระบาดไว้ในระดับเดียวกับโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส ระบาดในปี 2545 - 2546 แล้ว ทำให้ต้องบังคับแยกกักตัวผู้ติดเชื้อและอาจต้องออกมาตรการกักตรวจผู้เดินทาง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลจีนได้ยืนยันว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ แต่ขณะเดียวกันก็ระบุว่าไม่ได้ติดต่อกันง่ายเหมือนโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ที่เคยทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส

 

 

 

              ทั้งนี้คณะนักวิจัยจะเพิ่มความพยายามหาต้นตอการระบาดและวิธีการแพร่ระบาด หลังจากมีผู้ติดเชื้อแล้ว 440 คนใน 13 มณฑล ขณะเดียวกันทางการจะออกมาตรการควบคุมการระบาด เช่น ฉีดพ่นฆ่าเชื้อและระบายอากาศตามท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ และศูนย์การค้า ในกรณีที่จำเป็นอาจต้องตรวจวัดอุณหภูมิในย่านที่มีผู้คนหนาแน่น

              ส่วนที่เมืองอู่ฮั่น จุดกำเนิดการระบาดเชื้อไวรัสที่มีชื่อทางเทคนิคว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 (2019 - nCoV) ทางการขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการชุมนุมตามสถานที่ต่างๆ เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด ยกเลิกการจัดงานช่วงเทศกาลตรุษจีน ยกเลิกการจัดคณะท่องเที่ยวออกนอกเมือง ตำรวจสุ่มตรวจสัตว์ปีกและสัตว์ป่ามีชีวิตบนยานพาหนะที่เข้าและออกเมือง

 

 

 

              นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกมีการประชุมฉุกเฉินที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ กรณีพบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณาว่าจำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขในระดับนานาชาติหรือไม่

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ