หนุ่มโพสต์เฟซบุ๊กระบายเจอกระเป๋ารถเมล์สาย 133 สายเคหะบางพลี-พระโขนง บริการสุดแย่ เป็นเคสที่หนักสุดตั้งแต่เคยเจอมา
หนุ่มโพสต์เฟซบุ๊กระบายเจอกระเป๋ารถเมล์สาย 133 สายเคหะบางพลี-พระโขนง บริการสุดแย่ เป็นเคสที่หนักสุดตั้งแต่เคยเจอมา มีการขึ้นมึง-กูกับผู้โดยสารผู้โพสต์อีกด้วย เจ้าตัวถึงกับตัดพ้อ ถ้าไม่ชอบงานบริการแล้วจะมาทำทำไม
ขอระบายหน่อยเกี่ยวกับรถเมล์ 133 สายเคหะบางพลี-พระโขนง กระเป๋ารถเมล์ชื่อ "ยุวดี โสภาพรม" (ไม่แน่ใจนะเพราะแกะลายทางบนเสื้อนางได้แค่นี้)
เรื่องมันมีอยู่ว่า กระเป๋ารถเมล์บริการได้แย่ของยอดแย่มาก (เคยเจอมาเยอะแต่ไม่เคยเจอหนักขนาดนี้) เราเริ่มขึ้นตั้งแต่สะพานลอย มหาลัยไทย-ญี่ปุ่น ขึ้นมาถึงเดินไปนั่ง ด้วยความที่กระเป๋าตังค์อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างอีกที ก็เลยค้นหากระเป๋าตังค์นาน ทีนี้กระเป๋ารถเมล์เดินมาเก็บตังค์ บ่นให้เราได้ยินเลยว่า "อีนี่หาเงินนานเนาะ" เราได้ยินก็เฉยๆ ให้ตังค์ปกติ แต่ระหว่างทางที่เดินทางกลับ ผู้โดยสารคนอื่นที่ขึ้นกระเป๋ารถเมล์ก็บ่นผู้โดยสารบ้าง ด่าผู้โดยสารบ้าง เราก็เพึ่งเคยเจอเคสหนักๆ จริงก็กระเป๋ารถเมล์คันนี้แหละ
ประเด็นเรื่องอยู่ตรงนี้ รถจะถึงป้ายบ้านเราแล้ว เราก็ลุกมาเตรียมตัวจะลงก่อนป้ายนานมาก (เพราะกลัวไม่ได้ลง) ทีนี้ใกล้จะถึงป้ายบ้านเราแล้ว เราก็กดกริ่งรถปกติ 1-2 ครั้ง ทีนี้คนขับรถไม่จอด แล้วรถเมล์ก็เลยป้ายบ้านเราไป กระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาด่าว่า "ก็มึงห่วงเล่นโทรศัพท์เอง ไม่ยอมกดกริ่ง คนขับเลยไม่ได้ยิน" เราก็ตกใจ คือ เรากดไปแล้วตั้ง 2 ครั้ง คนขับจะไม่ได้ยินก็เป็นไปไม่ได้ กระเป๋ารถเมล์บอกว่าไปลงป้ายหน้าเองนะ เราก็ตอบกลับไปว่ากดแล้วนะ กระเป๋ารถเมล์ก็พูดว่า "มึงไม่ได้กด มึงเล่นโทรศัพท์" (คือขึ้นมึง ขึ้นกูเลย) แล้วก็ชี้หน้าด่า (จากรูปกระเป๋ารถเมล์ที่กำลังชี้หน้าด่าอยู่พอดีเลยถ่ายไว้) เราก็หยิบโทรศัพท์ถ่ายรูป ซึ่งกระเป๋ารถเมล์ก็หยิบโทรศัพท์ถ่ายเหมือนกันพูดว่า ฟ้องเลย กูจะฟ้องกลับ แล้วเราก็ยก 2 นิ้วให้กระเป๋ารถเมล์ให้นางถ่าย บ๊าย บาย นางก่อนลงรถ
1. เข้าใจอาชีพบริการนะ คือบอกเราดีๆ ก็ได้แบบ "น้องสงสัยคนขับไม่ได้ยิน น้องลงป้ายหน้าเอานะ" แต่กระเป๋ารถเมล์คนนี้ มาถึงก็ตะคอกใส่แถมด่าเราอีก หาว่าเราเล่นโทรศัพท์ (คือเราก็กลัวตายเหมือนกันนะ ที่ไปเล่นโทรศัพท์ตรงทางลงประตู)
2. ยอมรับว่าใส่หูฟัง แต่ได้ยินหมดทุกอย่างที่กระเป๋ารถเมล์คนนี้ด่าเรา
3. ทั้งหมดที่เล่าไปไม่ได้เพิ่มเติมไรเลย เล่าจากที่เจอมาเลย
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Sutas Chaumordoo
ข่าวที่เกี่ยวข้อง