ข่าว

สาวใจบุญรับเลี้ยงน้องออมสินเล่าชีวิตสุดลำบาก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาวใจบุญรับเลี้ยงน้องออมสิน เล่าชีวิตสุดลำบาก โดนผลาญเงินไป 40 ล้าน สุุดท้ายคนที่ช่วยเหลือเราก็คือลูก

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nicha Cha Cha Nirasawong ได้แจ้งข่าวหดหู่เป็นอย่างมาก   “เศร้าใจ…ผัวใหม่ไม่ยอมรับ ฐานะยากจน เอาลูก 2 ขวบมาทิ้ง หน้าสถานสงเคราะห์ จ.ลพบุรี พร้อมจดหมายใจความว่า…“ถึงเจ้าหน้าที่ ดิฉันขออนุญาตยก เด็กหญิงกฤษณา โฉมประเสริฐ หรือน้องออมสิน ให้กับทางสถานสงเคราะห์ดูแลอย่างถาวร

เพราะดิฉันไม่สามารถดูแลได้เด็กคนนี้มีอนาคตที่ดีได้ เนื่องจากมีฐานะยากจน ดิฉันมีครอบครัวใหม่มีที่อยู่ไม่เป็นแหล่ง ส่วนพ่อใหม่ของน้องก็ปฏิเสธไม่รับเลี้ยงไม่ยอมรับน้องเป็นลูก ขอโทษที่ทำแบบนี้ และดิฉันคิดว่ามันเป็นหนทางสุดท้ายที่ดีที่สุด แม่รักลูกนะ แต่แม่มีความจำเป็น”

 

ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้เผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียล แน่นอนว่าแม่เด็กรายนี้ถูกสังคมโจมตีเป็นอย่างมาก หลังจากเจ้าตัวออกมาเปิดใจถึงเหตุผลที่ไม่อยากเลี้ยงน้องออมสินต่อ เพราะน้องออมสินหน้าตาเหมือนสามีเก่าของตนเอง ที่เคยทำร้ายร่างกายตนเองทุกวัน จึงตัดสินใจพาน้องออมสินให้ไปอยู่สถานสงเคราะห์จะดีซะกว่าอยู่กับตนเอง 

สาวใจบุญรับเลี้ยงน้องออมสินเล่าชีวิตสุดลำบาก

ล่าสุดพบผู้ใจบุญที่จะนำน้องออมสินไปเลี้ยงดูแล้ว นั้นก็คือนางชญาณ์พิมพ์ ชินปิติวงษ์ ประธานมูลนิธิสุขใจ เดินทางมาเพื่อติดต่อกรณีเด็กถูกทิ้งไว้ที่หน้าสถานสงเคราะห์เด็กลพบุรี ซึ่งนางชญาณ์พิมพ์ เล่าว่า ตั้งเป้าจะรับเลี้ยง 2 ปี ต่อ 1 คน ตอนนี้ก็เห็นว่ามันถึงเวลาแล้ว ตนต้องการรับน้องไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม เพราะต้องการแบ่งปันความรักให้กับเด็กรู้สึกอบอุ่น เพราะสงสารเด็ก ตนนั้น เป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว เด็กที่บ้านที่ตนเลี้ยงนั้น ตนเลี้ยงด้วยความรู้สึกของคนเป็นแม่ แต่ก่อนตนเป็นเศรษฐี มีเงินมากมาย จึงอยากจะเปิดบ้านแห่งหนึ่ง เพื่อให้เด็กที่ถูกทอดทิ้งนั้นมาอยู่ด้วยกัน

ต่อมา เมื่อปี 2551 ตนประสบอุบัติเหตุ ต้องผ่าตัด ขณะนั้น สามีของตน ผลาญเงินไปกว่า 40 ล้าน ตนเหลือเงินเพียงแค่ 3 บาทเท่านั้น แต่คนที่มาช่วยเหลือตนนั้น คือลูกๆ ที่ตนเลี้ยงดูมา จากคนที่เคยรวย กลับจน ต้องกินข้าววัด ตนจึงเข้าใจ ว่าความจน มันทำให้คนอ่อนแอ และทำให้คนทำร้ายหรือฆ่าลูกตัวเองได้

เมื่อเห็นจดหมายที่แม่ของเด็กทิ้งไว้แล้ว สำหรับตนนั้น เมื่อเห็นว่าไม่พร้อมเลี้ยง เอามาให้นั้น ถูกแล้ว แต่สิ่งที่ผิด คือการทำร้ายร่างกายลูก ตนเห็นกรณีนี้มามากมายแล้ว โดยที่มูลนิธิมีเด็กในมูลนิธิ 15 คน แต่ละคน คือคนที่ครอบครัวไม่ต้องการ และถูกฆ่ามาแต่ไม่ตาย บางคนถูกแม่กินยาแท้ง แต่ไม่แท้ง พอโตมา ก็ไม่ค่อยปกติ มีปัญหาทางสมอง ซึ่ง ตนก็ดูแลเป็นอย่างดี ดูแลเหมือนแม่ดูลูก พี่ดูแลน้อง เราจะดูแลไปจนตอนที่เด็กสามารถดูแลตัวเองได้ หรือในตอนที่เขาอยากออกไปจากเรา หรือ จนตาย

ทั้งนี้ เรื่องมูลนิธิยืนยันว่าเป็นมูลนิธิที่ถูกต้องตามกฎหมายเพราะเพิ่งจดทะเบียน และยังได้รับการอนุเคราะห์ เพราะมูลนิธิเริ่มจากการไม่มี และรับประทานข้าววัด จึงมั่นใจได้ว่าจะดูแลเด็กคนนี้อย่างดี และไม่ทอดทิ้งไปไหน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ