สถานการณ์ฝุ่นละอองพื้นที่กรุงเทพมหานครดีขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศ ดี-ปานกลาง แต่ยังเกินมาตรฐาน 2 เขต
ฝนกระหน่ำกรุงกลางดึก ส่งผลสถานการณ์ฝุ่นละอองพื้นที่กรุงเทพมหานครดีขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศ ดี-ปานกลาง แต่ยังเกินมาตรฐาน 2 เขต ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
อ่านข่าว อากาศยอดแย่ กทม.ดูแลกลุ่มเสี่ยง สู้ฝุ่น PM2.5
วันที่ 13 ม.ค. 2563 จากการรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง
ตรวจวัดได้ 31-54 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 2 พื้นที่ คือ
1. เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
2. เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร: มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศ ดี-ปานกลาง มีเพียงเขตวังทองหลางและเขตพระนคร ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
คำแนะนำในการปฏิบัติตน ให้ประชาชนทั่วไปในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐาน เฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยทางเดินหายใจ และใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากเกิดความจำเป็น
อ่านข่าว "ฝนหลวง" ลดฝุ่น คาดฝนโปรยค่ำนี้
ประชาชนทั่วไปสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศของ กทม. แบบ Real Time ได้ที่
www.bangkokairquality.com
www.air4bangkok.com
Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง
Facebook : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม.
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำนักการแพทย์ได้เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5
โดยดำเนินการวินิจฉัยและให้การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองตามอาการที่เกิดขึ้น พร้อมรายงานสถิติผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นละออง เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยยามจำเป็น
โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีฝุ่นละออง PM 2.5 เกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเกิน 3 วัน โดยขณะนี้ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ เปิดให้บริการคลินิกมลพิษทางอากาศ เพื่อให้คำปรึกษาและนำไปสู่การรักษาพยาบาลต่อไป ดังนี้
- โรงพยาบาลตากสิน (จันทร์ อังคาร เวลา 13.00 – 15.30 น.)
- โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ (พุธ เวลา 13.00 – 15.30 น.)
- โรงพยาบาลกลาง (วัน เวลา 13.00 – 15.30 น.)
จากรายงานสถิติผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นละอองของโรงพยาบาลในสังกัด ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2562 ถึง 9 มกราคม 2563 มีผู้ป่วยเข้ารับบริการจำนวน 38,803 ราย (ข้อมูลสถิติ : สำนักงานพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์)
อ่านข่าว เตือนใส่หน้ากาก ฝุ่นพิษพุ่ง 70 ไมโครกรัม
สำหรับเขตที่มีปริมาณฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน 2 เขต ในวันนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ดังนี้
1. บริเวณด้านหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง (52 มคก./ลบ.ม.) เขตดำเนินการเพิ่มความถี่ในการล้างทางเท้าและถนน และฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละอองบริเวณถนนลาดพร้าวฝั่งขาเข้าตลอดแนวในพื้นที่เขตวังทองหลาง
2. ภายในสำนักงานเขตพระนคร เขตพระนคร (54 มคก./ลบ.ม.) เขตดำเนินการ
- ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อดักจับฝุ่นละออง บริเวณถนนสามเสน เพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก
- เพิ่มความถี่ในการล้างถนนและดูดฝุ่นถนน บริเวณรอบศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า และถนนดินสอ และถนน ทางเท้าในพื้นที่เขต
- ผู้ประกอบการในพื้นที่ร่วมกันติดตั้งเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำและเปิดเครื่องพ่นละอองน้ำอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมดูแลสุขภาพประชาชน วันที่ 13 ม.ค. 2563 เวลา 08.00 - 12.00 น.
- ศูนย์ฯ 62 ตวงรัชฎ์ฯ ร่วมกับ เขตภาษีเจริญ ออกรณรงค์ให้ความรู้เรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แนวทางการปฏิบัติตัวในการป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมสาธิตการใช้หน้ากากอนามัย ให้กับประชาชนบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้ามหาวิทยาลัยสยาม เขตภาษีเจริญ
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 4 ดินเเดง งานอนามัยโรงเรียนให้ความรู้เรื่องฝุ่น PM 2.5 และให้คำแนะนำการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง แก่อาจารย์เเละนักเรียนโรงเรียนวิชากร โรงเรียนสามัคคี เวลา 08.00 - 12.00 น.
ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม. รายงาน สถานการณ์ประจำวันที่ 13 มกราคม 2563
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล : เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (07.00 น.) : พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนตกปานกลางถึงหนัก ปริมาณฝนสูงสุดที่จุดวัด ปตร.พระยาสุเรนทร์ เขตสายไหม 74.0 มม. สำนักงานเขตคลองสามวา 68.5 มม. คลองลำชะล่า เขตคันนายาว 60.5 มม.
ไม่มีรายงานจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลัก ที่สำนักการระบายน้ำรับผิดชอบ
รายงานความเค็มสูงสุดของแม่น้ำเจ้าพระยา วันที่ 12 มกราคม 2563 (ค่าความเค็มเกิน 1.2 กรัม/ ลิตร ควรระมัดระวังในการใช้กับพืชทั่วไป)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง