เพจ Drama-addict แชร์เรื่องราวประสบการณ์ตรงจากทหารท่านหนึ่ง ที่เจ้าตัวป่วยเป็นโรคเอสแอลอี (SLE) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง จึงพยายามที่จะหันมาวิ่งสู้โรคตามกระแส
เพจ Drama-addict แชร์เรื่องราวประสบการณ์ตรงจากทหารท่านหนึ่ง ที่เจ้าตัวป่วยเป็นโรคเอสแอลอี (SLE) หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง จึงพยายามที่จะหันมาวิ่งสู้โรคที่เป็นอยู่ตามกระแสยอดฮิตของคนไทยในตอนนี้ แต่ปรากฏว่าร่างกายของทหารนายนี้กลับพังกว่าเดิมและเกือบเอาชีวิตไม่รอด
เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วงนี้คนไทยกำลังฮิตการวิ่งเพื่อสุขภาพ ทว่าทหารหนุ่มคนนี้พอวิ่งเพื่อสุขภาพ ร่างกายกลับพัง เลยอยากฝากเตือนทุกท่านว่าการออกกำลังกายมีหลายวิธี เลือกแบบที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายตัวเองไม่ต้องวิ่งตามกระแสก็ได้
"ผมเป็น SLE ครับ (โรคแพ้ภูมิตัวเอง)
อยากจะเตือนเกี่ยวกับเทรนด์การวิ่งสู้โรคนะครับว่ามันไม่เหมาะกับทุกโรคเสมอไป เรื่องของเรื่องคือ ผมเป็น SLE แล้วเคยแบบนี้เหมือนกัน ออกมาวิ่งทุกวันเดิมก่อนจะเป็น ผมก็วิ่งทุกวันอยู่แล้ว เพราะผมรับราชการทหารมันทำให้อะไรดีขึ้นจริง โรคฟื้นตัวเร็วรู้สึกดีมากๆ แต่ไม่นาน ไม่ถึงปี ผมปวดสะโพกมาก สรุปเป็น AVN (Avascular necrosis) หรือ ภาวะหัวกระดูกข้อสะโพกตายจากการขาดเลือด
หัวกระดูกสะโพกตาย จากการที่รับประทานยากลุ่ม สเตียร์รอยด์ในการรักษาโรค SLE สุดท้ายต้องผ่าเปลี่ยนข้อสะโพกทั้งสองข้าง และไม่สามารถวิ่งได้อีกตลอดชีวิต อันนี้คือประสบการณ์ตรงของผมครับ ปัจจุบันโรคสงบแล้ว และก็ออกกำลังกายทุกวันเหมือนกันครับ
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่การวิ่งไม่ได้เหมาะสมกับทุกโรคเสมอไปการวิ่งสู้โรคมันกลายเป็นเทรนด์ ใครป่วยอะไรแล้วออกมาวิ่งแบบนี้ อย่าลืมว่าคนป่วย คือคนที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ปกติเหมือนคนธรรมดาแล้ว การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ แต่จะออกกำลังกายอะไร จะทานอะไรต้องศึกษาให้ดีว่าเหมาะสมกับโรคที่เป็นอยู่ ว่าจะได้รับผลกระทบตามมาหรือไม่
เช่น SLE เป็นโรคข้อ และ ออนสเตียรอยด์ เสี่ยงต่อการเป็น AVN ไม่ควรวิ่ง ควรเดินในเครื่องปั่นกึ่งวงรีที่ไม่มีแรงกระแทก เป็นต้น (epileptical) การออกกำลังการเป็นสิ่งที่ดี ดีมากๆ ผมก็ออกกำลังกายอยู่ทุกวันนี้การออกกำลังกายมันมีหลายวิธี ว่าสิ่งที่เราทำมันเหมาะสมกับโรคที่เราเป็นอยู่หรือไม่ อยากให้เรื่องของผมเป็นกรณีตัวอย่างครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง