ข่าว

ซี ฉัตรปวีณ์ ขอเคลียร์แจง 3 ข้อดราม่าสายการบิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจ้าหญิงไอที เคลียร์ดราม่า แจง 3 ข้อ ขอกรุณาอย่าตัดสิน หรือรุมประณามจากเหตุการณ์ที่คุณไม่ได้เห็น

 

               กลายเป็นกระแสดราม่าในโลกออนไลน์ เมื่อ ซี ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ ทวีต ceemeagain @ceemeagain ระบุ “เพิ่งเคยเจอแอร์ที่เรายกของแล้วขอ ให้ช่วยกันนิดนึงของหนัก แอร์ไม่ออกแรงยกเลยจ้า ใจดีกับบีซีจุงเลย”

 

 

 

ซี ฉัตรปวีณ์ ขอเคลียร์แจง 3 ข้อดราม่าสายการบิน

 

 

 

อ่านข่าว - เด็ด ! เจ้าหญิงไอที ซี สอนจีบสาวผ่านไลน์

               ขณะที่ สาระการบินน่ารู้ @aviknowledge ทวีตถึงกรณีดราม่าดังกล่าว สัมภาระเราเราต้องดูแลเอง (1) เช้าที่สดใสมาพร้อมดราม่าใหม่เกี่ยวกับหน้าที่หรือความจำเป็นของลูกเรือในการช่วยยกสัมภาระของผู้โดยสารขึ้นที่เก็บเหนือศีรษะ...ก็ต้องมายืนยันอีกครั้งว่า "ลูกเรือไม่ได้มีหน้าที่ช่วยผู้โดยสารยกสัมภาระขึ้นที่เก็บเหนือศีรษะ" เพราะอะไร?

               (2) เพราะสัมภาระเหล่านั้นถือว่า "เป็นความรับผิดชอบของผู้โดยสาร" ในการที่จะยกสัมภาระเหล่านั้นขึ้นเก็บด้วยตัวเอง ลูกเรืออาจจะมีหน้าที่แค่ช่วยจัดสัมภาระเหล่านั้นให้เป็นระเบียบหรือช่วยหาที่เก็บเหนือศีรษะที่ว่างในกรณีที่ช่องเก็บศีรษะแถวนั้นเต็ม ถ้าลูกเรือไม่ช่วยเราก็ไม่มีสิทธิ์มาต่อว่าเขา

 

 

 

               (3) เพราะการยกสัมภาระของผู้โดยสารที่หนักและต้องยกบ่อยครั้งนั้นได้สร้างผลกระทบที่เป็นอาการเรื้อรังและรุนแรงคือ "ปวดหลัง" ซึ่งเป็นโรคที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพบเจอกันบ่อยมาก ซึ่งถ้าไม่พยายามปกป้องตัวเองโรคเหล่านี้อาจจะถามหาได้ไปตลอดชีวิต

               (4) ปกติแล้วสัมภาระที่จะเก็บบนช่องเหนือศีรษะจะถูกกำหนดให้มีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ถ้าผู้โดยสารรู้ว่าน้ำหนักเกินก็ควรที่จะนำสัมภาระชิ้นนั้นโหลดใต้ท้องเครื่อง ยิ่งโดยเฉพาะทราบว่าสัมภาระชิ้นนั้นเราไม่สามารถดูแลมันด้วยตัวเองได้

               (5) ยกเว้นสิ่งของมีค่าหรือจำเป็นที่ต้องใช้งาน เช่น Labtop ที่จำเป็นจะต้องเอาไว้บนที่เก็บเหรือศีรษะ ถ้าคิดว่ายกไม่ไหวด้วยตัวเองจริงๆ ก็สามารถขอความช่วยเหลือจากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้ครับ และที่สำคัญก็ควรต้องช่วยกันยกไม่ใช่ว่าทิ้งให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต้องยกเพียงลำพัง

 

 

 

ซี ฉัตรปวีณ์ ขอเคลียร์แจง 3 ข้อดราม่าสายการบิน

 

 

 

               (6) สุดท้ายนี้หวังว่าทวีตนี้จะช่วยให้ผู้โดยสารทั้งหลายเข้าใจถึงมุมมองของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและผู้โดยสารนะครับ เดินทางครั้งหน้าถ้ามีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินช่วยยกสัมภาระให้กล่าวคำว่า "ขอบคุณ" สักนิดจะช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยครับ

 

 

 

 

 

 

               ล่าสุด เจ้าหญิงไอที โพสต์ Ceemeagain ขอเคลียร์ดราม่าผ่านเพจนะคะ... ระบุ เป็นประสบการณ์ ที่ค่อนข้างรู้สึกว่า เงียบคงไม่ได้ช่วยอะไรให้คนเข้าใจจากการตัดสิน และไปดราม่ากระจายในเพจอื่น... ซึ่งซีเข้าใจ การละเลงดราม่าเป็นอย่างดี ซีขอยอมรับความผิดพลาดที่โพสต์ด้วยอารมณ์ไม่ได้กลั่นกรองคำพูดที่ดี ในการโพสต์ทำให้ คนตีความลบ และดราม่าครั้งนี้ แต่ด้วยความเคารพค่ะ ขออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างมุมมอง...

               1. ทราบดีว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหน้าที่ยกของให้เรา ไม่ได้เคยเรียกร้องให้ช่วย หลายสายการบินที่แอร์ทำให้เราเอง แทบยกมือไหว้กันไม่ทัน เพราะรู้สึกว่าประสบการณ์ของสายการบินเค้าคัดเลือกและเทรนนิ่งทัศนคติคนมา ดีเหลือเกิน ช่วยเหลือจนเรารู้สึกชื่นชมว่าเกินหน้าที่ไปมาก เราประทับใจอยากบินสายนั้นๆ เสมอ

 

 

 

               ทุกครั้งที่เดินทาง ไม่เกี่ยวกับคลาสไหน ชนชั้นไหนนั่งได้หมดคะ ไม่ใช่นิสัยติดคลาส ไม่มีการเหยียดแน่นอนคลาสพิเศษ แอร์ที่มามักจะ ช่วยเหลือผู้โดยสารจำนวนไม่มาก จึงมีเวลายื่นมือช่วยเหลือได้ตามน้ำใจ ที่สมควร

               2. ซีไม่ได้ยืนเฉยๆ แล้วให้เค้ายกค่ะ ซียกสูงขึ้นมาแล้ว เค้าเดินมาเหมือนเรายืนกันทาง เลยพยักหน้ายิ้มแย้มตามปกติ คาดหวังไปว่า เค้าจะ “ช่วยดันขึ้น” นิดหน่อยพอให้เคลียร์ทางได้ไวขึ้น ผลปรากฏว่า เค้าเดินมาแตะกระเป๋าเราเฉยๆ เราตกใจงง หันมองหน้าว่า คือไม่ช่วยไม่เป็นไร ทำไมมาแตะเหมือนไม่ช่วยแต่โชว์ว่าช่วย อันนี้เรื่องจริงที่เจอ ซึ่งเป็นแอร์ชาวต่างชาติ...อึ้งว่าแบบนี้ คือยังไง? (และไม่ใช่สายการบินที่เคยใช้บริการเลยมาก่อนด้วยค่ะ)

 

 

 

               3. เรากลัวกีดกันทางคน แน่นอนกระเป๋ามีน้ำหนัก และเดินทางคนเดียวประจำไม่ได้จะลำบากใคร เห็นว่าเค้าเดินมาหยุด ไม่ได้รีบก็ยิ้มรับแบบแหะๆ ดันนิดนึงก็เข้าแล้ว...ปรากฏเจออาการที่ไม่ได้คาดคิด และย้ำเลยค่ะ ไม่ได้เบ่งว่าจะคลาสไหน และเห็นว่าเค้าว่างกำลังจะเดินผ่าน เราก็พยายามจะรีบแบบพลเมืองดี แค่ช็อกกับการแตะกระเป๋าแบบส่งๆ คือไม่ช่วยน่าจะดีกว่าจริงๆ เราไม่เคยเห็นกิริยาแบบนี้ จากเจ้าหน้าที่สายการบินมาก่อนค่ะ เจอแต่คนทัศนคติดีมากๆ ช่วยเหลือสุดๆ และการเดินทางบ่อยทราบว่า คนยืนเดินบนเครื่องระหว่างทำงานเหนื่อยแค่ไหน

               บทสรุปคือ ซีขอกรุณาอย่าตัดสิน หรือรุมประณามจากเหตุการณ์ที่คุณไม่ได้เห็น ซีขอยอมรับความผิดพลาดในการใช้อารมณ์โพสต์ช่วงดึกที่ได้ลบไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ตลอดการทำงาน มีแต่เจตนารมณ์ที่ดีต่อสังคมเสมอ

 

 

 

               ถ้าผู้อ่านที่แวะเข้ามาได้อ่านสิ่งนี้ ต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวังในการใช้อารมณ์ และคำเขียนที่ไม่ดี เพราะได้รับประสบการณ์ที่ต่างจากไมตรี เจ้าหน้าที่ที่เราเคยเจอมา ด้วยสีหน้าและแววตาเจ้าหน้าที่คนนี้ทำเอาอึ้งเหมือนกัน ดังนั้น กรุณาอย่าต่อยอดสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมนี้เลย

               ขอบคุณสำหรับการแชร์กฎการบินมาให้เพิ่มเติม แต่ยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาเบียดเบียนเจ้าหน้าที่ ด้วยความคิดและกิริยาแม้แต่น้อยค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ