ข่าว

หนุ่มทุบรถสาวจอดที่คนพิการผมยอมจ่ายค่าเสียหาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนุ่มทุบรถสาวจอดที่คนพิการ ผมยอมจ่ายค่าเสียหาย แต่จะไม่ยอมให้มีคนแบบนี้อยู่

กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตพอสมควร เมื่อหนุ่มรายหนึ่งทนไม่ไหว หลังเจอคนมาจอดรถในที่คนพิการ ถึงแม้ว่าจะพยายามตามให้มาเลื่อนรถเท่าไหร่ก็ไม่มา จนสุดท้ายขอทุบรถสั่งสอน จ่ายค่าเสียหายให้

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Peerapong Amornpich ได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โยระบุว่า

ผมทุบรถ คนไม่พิการ มาจอดรถที่คนพิการ ผมยินดีจ่ายค่าเสียหาย แต่ไม่ขอยินยอมปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดในสังคมไทย โดยที่ผมไม่ยอมทำอะไร

หนุ่มทุบรถสาวจอดที่คนพิการผมยอมจ่ายค่าเสียหาย

ลำดับเหตุการณ์

1. ผมเห็นรถคู่กรณีมาจอดในที่คนพิการ ห้าง Big C แล้วเดินออกไป 2 คน มองจากด้านหลัง สูงยาว เข่าดี ไม่ได้พิการ หรือ ท้อง

2. ผมมากับครอบครัว อุ้มลูกอยู่ ไม่สามารถตามไปทันได้ จึงจำหมายเลขทะเบียนรถแล้วเดินไปแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประกาศ ตามเจ้าของรถมาเลื่อนรถ โดยรออยู่นานก็ไม่มาสักที ผมจึงฝากประชาสัมพันธ์จัดการและกลับไปหาครอบครัวที่รออยู่ที่สุกี้ MK

3. หลังจากนั่งทานไปสักพัก ผมก็เดินไปดูรถก็ยังอยู่ที่เดิม ผมก็ไปที่ประชาสัมพันธ์อีกครั้งถามว่าเป็นอย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่มาเลย ผมเลยแจ้งว่าให้ประกาศอีกครั้งและทำอย่างไรก็ได้ให้เขามาเลื่อนรถภายใน 10 นาที ถ้าไม่มาผมจะทุบรถ

4. ครบกำหนด ผมเดินไปที่รถเพื่อทุบ ขณะกำลังจะทุบ ผู้จัดการ big c ก็มาขอร้องว่า อย่าทุบเลย เดี๋ยวเธอโดนไล่ออก ผมก็เลยหยุดและบอกว่าให้อีก 10 นาที ถ้าไม่มาเลื่อนรถ คราวนี้ทุบจริง

5. ผมกลับไปทานสุกี้กับครอบครัว ให้เวลาเขานานๆ เลย มากกว่า 10 นาทีมากๆ ทานจนเสร็จ เช็คบิล ผมก็เอาลูกให้ภรรยาอุ้ม และ ผมขอตัวเป๊ป

6. กลับมาที่รถคันดังกล่าว ก็ยังอยู่ที่เดิม ผมก็ทุบเลย

7. หลังจากนั้น ผมก็จะเอากุญแจรถให้ภรรยาขับกลับบ้านไปก่อน ส่วนผมรอคุยกับคู่กรณีที่เกิดเหตุ แต่ภรรยาแจ้งว่าให้พี่น้องที่โบสถ์มารับกลับบ้านแล้ว

8. คุยกับตำรวจ รออยู่สักพัก ก็ตัดสินใน live ลง facebook ว่าผมได้ตัดสินใจทุบรถ และ ทุบรถแล้ว โดยผมยินดีจ่ายค่าเสียหาย แต่ไม่ยินดีปล่อยให้เมืองไทยเป็นแบบนี้ โดยที่ผมไม่ยอมทำอะไร

9. ระหว่างนั้น คู่กรณีก็มาถึง ถามว่าใครเป็นคนทำ ผมได้ยินหันกลับไปแล้วก็เป็นอย่างในวีดีโอ ซึ่งผมแจ้งว่าน้องจอดรถในที่คนพิการ ผมยินดีจ่ายค่าเสียหายที่ผมทุบ น้องเขาบอกว่าไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามต่อมาที่โรงพักน้องเรียกร้องเงิน 70,000 บาท โดยเป็นค่าซ่อม 20,000 + ค่าเสียเวลาและเช่ารถ 50,000 บาท ถ้าไม่ให้จะฟ้องศาล และขู่ว่าถ้าผมไม่จ่ายจะต้องจ่ายมากกว่านี้อีกเยอะ

10. จากการคุยกับน้องผู้หญิงที่โรงพัก น้องบอกว่าบ้านอยู่แถว big c และ มาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ

11. แต่ใน live สด ตามที่ปรากฏ น้องทั้งสองอ้างว่าไม่รู้เลยว่าตรงนั้นเป็นจอดรถคนพิการ และ แม้นว่าที่จอดรถคนพิการจะโล่งมาก และ มีสีน้ำเงิน และ สัญลักษณ์ต่างๆ ให้เห็นเด่นชัดเจนว่าเป็นที่จอดรถคนพิการ หลังจากเดินลงจากรถแล้วก็มองเห็นอยู่ดี ไม่ได้เป็นตามที่กล่าวอ้าง และ แก้ตัวเร็วมากจนทำให้ผมเชื่อว่าเตรียมคำแก้ตัวไว้ล่วงหน้ามาแล้วจึงตอบได้ทันทีแบบไม่ต้องนึกย้อนไปที่เหตุการณ์เลยว่าทำไมตัวเองจึงตัดสินใจทำแบบนั้น ผิดธรรมชาติที่ถ้าคนไม่ได้ตั้งใจ เขาจะงงงง และ ทบทวนเหตุการณ์สักพัก ถึงจะตอบได้ ไม่ใช่ตอบได้ทันทีแบบที่เห็นใน live สด

12. กลับไปที่โรงพัก หลังจากน้องเรียกร้องเงิน 7หมื่นบาท โดยเฉพาะค่าเสียเวลา+ค่าเช่ารถ 5หมื่นบาท ร้อยเวรได้ยินก็เรียกทั้งสองไปคุยอีกครั้ง และ ต่อมาก็เรียกผมเข้าไปบอกว่า ลดค่าเสียเวลา+เช่ารถ เหลือ 1 หมื่นบาท ซึ่งผมก็ได้โอนเงินจ่ายให้น้องเขาไป (เจ็บจี๊ดๆ แบบบอกไม่ถูก ตอนโอนเงิน)

13. ตำรวจบอกว่าผมทำไม่ถูกต้อง ควรใช้วิธีอื่นๆ ผมก็ถามกลับไปว่าผมควรทำอย่างไร ตำรวจก็ไม่ได้ให้คำตอบ

14. ผมทำในส่วนของผมแล้วให้สังคมไทย ได้เริ่มที่จะหยุด “คนไม่พิการมาเบียดเบียนแย่งจอดรถในที่คนพิการ” ถ้ามีวิธีอื่นที่ผมเลี่ยงได้ได้ผมก็จะทำแต่นี่มันไม่มี ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ เหตุการณ์ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม คือ มีแต่คนบ่นว่าคนร่างกายดีมาจอดรถที่คนพิการ โดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย

15. ผมต้องการสังคมไทยที่ดีให้ ลูกหลานผม และ ตัวผมเอง ได้อยู่อาศัย แต่ผมทำคนเดียวไม่ได้ ก็อยู่ที่คนในสังคมแล้วว่าจะเดินไปพร้อมกับผมมั้ย

 

 

CR.Peerapong Amornpich 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ