ข่าว

ฝากขัง เจ้าของบริษัทไนซ์รีวิวลวงลงทุนกดเแชร์โปรโมทสินค้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คุมตัวฝากขังครั้งแรก เจ้าของบริษัทไนซ์รีวิวแจ้ง 4 ข้อหา เสียหายกว่า 120 ล้าน หลังจับตัวได้พร้อมเงิน-สมุดบัญชีเงินฝากอื้อ ค้านประกัน ชี้ ผิดหลายท้องที่

 

23 พฤศจิกายน 2562 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ต.สถิตย์ กุลชาญวุฒิ พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้ควบคุมตัว "นายณรงค์ อินลี" อายุ 34 ปี ภูมิลำเนามีนบุรี กทม. เจ้าของบริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จํากัด หลอกลวงชวนลงทุน เปิดเว็บไซต์และเฟซบุ๊กไนซ์ รีวิว (Nice Review) กดไลค์-แชร์โปรโมทสินค้า 

 

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1720/2562 ลงวันที่ 13 พ.ย.62 คดีร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็น 12 วันนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.- 4 ธ.ค.นี้  เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องสอบสวนปากคำพยานอีก 20 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติอาชญากรเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนให้เสร็จสิ้น

 

โดยพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากผู้กระทําความผิดต่อเนื่องกันหลายท้องที่ มีผู้เสียหายจำนวนมากและเกิดความเสียหายต่อประชาชนทั่วไป และคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะหลบหนี

 

ทั้งนี้คำร้องได้ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 8 ก.ย.61 - 11 พ.ย.62 "นายณรงค์" ผู้ต้องหา ทั้งในฐานะส่วนตัวและกรรมการผู้มีอำนาจ จัดการบริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จํากัด ได้ร่วมกันเปิดเว็บไซต์ ให้ปรากฏแก่บุคคลทั่วไปเพื่อแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จและหลอกลวงว่า จะให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกเข้าร่วมทำงานกับบริษัทฯ โดยเข้าไปกดไลค์ กดแชร์สินค้าของบริษัทต่างๆ และหลอกลวงให้บุคคลที่เข้าร่วม วางเงินประกันการทำงานในอัตราสูง

 

และเมื่อผู้เข้าร่วมซึ่งถูกหลอกลวงทำงานตามที่ผู้ต้องหากำหนด ผู้ต้องหาก็นำเงินประกันที่ได้รับ มาเวียนจ่ายให้แก่ผู้ถูกหลอกลวงบางส่วนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่ามีการจ้างงานและมีรายได้จริง เพื่อทำให้เกิดแรงจูงใจที่จะวางเงินประกันเพิ่มอีก

 

หลังจากได้ทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวงแล้วก็ได้ยักย้ายทรัพย์สินที่ได้นั้นไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นและเริ่มไม่จ่ายเงินให้กับผู้สมัครตามกำหนด กระทั่งประกาศปิดเว็บไซต์และหลบหนีไป ทำให้ผู้สมัครทราบว่าถูกหลอกลวงซึ่งได้รับความเสียหาย เข้าร้องทุกข์แล้วจำนวน 299 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 120,936,000 บาท 

 

ภายหลังเมื่อได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนได้ขอให้ศาลออกหมายจับ และต่อมาวันที่ 22 พ.ย.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการภูธรภาค 4 ในร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าเดินทาง หลุยส์ วิตตอง และสมุดบัญชีเงินฝากและบัญชีกองทุนเปิด 4 ธนาคาร จำนวน 11 บัญชี

 

บัตรเครดิตและบัตรเดบิต 5 ธนาคาร รวม 9 ใบ , เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค อีก 3 เครื่อง , เครื่องบันทึกข้อมูล หรือฮาร์ดิส 3 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ iPhone , นาฬิกายี่ห้อปาเต๊ะ ฟิลลิป (Patek Phillippe)  , ธนบัตรเงินไทย 60,000 บาท กับธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์ 9,000 ดอลลาร์ และธนบัตรดอลล่าสหรัฐ 18,800 ดอลลาร์ แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

 

ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนของข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

 

ร่วมกันฟอกเงิน รวม 4 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ประกอบมาตรา 83 , พ.ร.บ.กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2537 มาตรา 4, 12 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 (ฉบับที่ 2) มาตรา 14 (1) พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3(3) , 60 เหตุเกิดที่บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จก. เลขที่ 388/14 ซ.นวลจันทร์ 26 ถ.นวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. โดยชั้นสอบสวน "นายณรงค์" ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ 

 

ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้

 

"ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนฝากขังแล้ว ไม่มีญาติ หรือทนายความของผู้ต้องหา มายื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวนายณรงค์ ผู้ต้องหาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงได้ควบคุมตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างการฝากขัง" 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ