ข่าว

สาวกู้ภัยเผยวินาที ถูกรองผู้การฯปืนเดือด ขู่เอากล้องหน้ารถ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาวกู้ภัยเผยวินาทีระทึก ถูกรองผู้การฯปืนเดือด ขู่เอากล้องหน้ารถ

ตำรวจทุ่งมหาเมฆ เผยคดีรองผู้การฯปืนเดือด รั่วปืนสนั่นกลางสะพานไทย-ญี่ปุ่น ต้องแยกออกเป็นหลายคดี ทั้งคดีอุบัติเหตุรถชนเป็นคดีจราจร ส่วนเหตุชกต่อยเป็นคดีอาญา สำหรับเหตุยิงปืนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ระบุ ทำงานมากว่า 10 ปี แต่ครั้งนี้สุดระทึก แฉถูกนายตำรวจตบรถ แถมพูดขู่ซ้ำ “กูขอเอากล้องหน้ารถไป พวกมึงมีปัญหาอะไรไหม” สุดท้ายได้แต่ยิ้ม  โผล่อีกป้าย พ.ร.บ.รถเบนซ์ ไม่ตรงทะเบียนรถ  คาดอาจมีการสวมทะเบียน 
 

 

สาวกู้ภัยเผยวินาที ถูกรองผู้การฯปืนเดือด ขู่เอากล้องหน้ารถ

สาวกู้ภัยเผยวินาที ถูกรองผู้การฯปืนเดือด ขู่เอากล้องหน้ารถ

จากกรณี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นเจ้าของรถเบนซ์ รุ่น E200 สีดำ ทะเบียน พน 6211 กรุงเทพ ที่จอดเสียอยู่ บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น และใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ นายชนะชล เปราะแดง อายุ 26 ปี ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ และนายณัฐยุทธ เหล่ากิจเขต อายุ 43 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์นิสสัน คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ที่เกิดอุบัติเหตุขับรถเฉี่ยวชนกัน ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 18 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา

ล่าสุดทีมข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายณัญยุทธ เหล่าเขตกิจ คนขับรถนิสัน ซึ่งได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า ขณะที่ตนขับรถมาจากสาทรเพื่อจะไปสี่ย่าน พอดีพบรถข้างหน้ากำลังจอดเสีย แต่รถตนเองเบรกไม่ทัน จึงพุ่งเข้าชน รถจยย. โดยก่อนหน้านั้นก็มีรถกระบะเบรกก่อน แต่ผมเบรกไม่ทัน จึงทำให้ชนรถจักรยานยนต์ ซึ่งขณะนั้นกำลังจะเปิดประตูลงไปดูแต่คนขับรถจักรยานยนต์ก็เข้ามาต่อยผมตรงหน้า จากนั้นคนขับรถที่เป็นตำรวจ ก็เดินมาดู ผมก็เลยลงจากรถ โดยเขาพูดกับเด็กคนนั้นว่า ทำแบบนี้มันไม่ถูก รถชนก็ส่วนรถชน ไปทำร้ายร่างกายเขาไม่ถูก จะพาไปปรับ ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเขาเป็นตำรวจ ส่วนเรื่องการใช้ปืน ผมเห็นว่ายิงขึ้นฟ้า ถ้ายิงลงพื้นต้องมีรอย แต่มันไม่มีรอย


สาวกู้ภัยเผยวินาที ถูกรองผู้การฯปืนเดือด ขู่เอากล้องหน้ารถ
ในขณะเดียวกันวันนี้ นางสาวณัฐชยา ธรรมสุทธิพงษ์ อาสาสมัครกู้ชีพ มูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นผู้ไปรับแม่ของผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ได้เดินทางเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดย นางสาวณัฐชยา เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ ก็ได้ส่งรถกู้ภัยเข้าไปในที่เกิดเหตุ 1 คัน ก่อนจะได้รับการติดต่อขอกำลังเสริม เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บ 3 คน เมื่อเดินทางไปใกล้ถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืน 2 นัด ตอนนั้นยังคิดอยู่ว่าอาจจะเป็นเสียงท่อรถแต่ง ที่วิ่งอยู่ใต้สะพาน แต่จู่ๆก็เห็นรถกู้ภัยที่มาก่อนหน้านี้ ขับรถออกไปโดยที่ไม่ได้ยกคนเจ็บไปด้วย หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด ตนจึงรีบขับรถออกไป แต่ทีมที่อยู่ในรถก็พูดว่า “แล้วคนเจ็บละพี่” ตนจึงตัดสินใจหยุดรถ และถอยรถไปรับคนเจ็บ ตอนที่ลงไปก็พบกับนายตำรวจคนดังกล่าว ตอนนั้นก็ยกมือไหว้เขา และขอเข้าไปนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นนายตำรวจบอกว่าให้เอาไปได้แต่ผู้หญิง ผู้ชายห้ามเอาไป ตนและทีมจึงรีบไปช่วยผู้หญิง พร้อมกับนำตัวมาที่รถกู้ชีพ ก่อนที่จะตนจะขับรถพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล
 
ทั้งนี้ นายตำรวจคนเดิม ยังได้เดินเข้ามาตบรถ แล้วพูดว่า กูขอเอากล้องหน้ารถไป พวกมึงมีปัญหาอะไรไหม ตนจึงหันไปดูกล้องหน้ารถ ก็พบว่าหายไปแล้ว จึงได้แต่ยิ้มๆ ก่อนจะขับรถออกไป ส่วนเรื่องที่เขายิงปืนหรือไม่ตนไม่รู้ เพราะตอนลงไปไม่ได้สังเกตว่า นายตำรวจถือปืนอยู่หรือไม่ แต่จากการสอบถามกู้ภัยคันก่อนหน้านี้ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขายกปืนยิงขึ้นฟ้าจริงๆ นอกจากนี้กรณีที่ว่านายตำรวจคนดังกล่าวมีอาการมึนเมาหรือไม่ ตนอยู่ฝั่งตนขับ ซึ่งตรงข้ามกับที่นายตำรวจยืนอยู่ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้กลิ่นอะไร ทั้งนี้ ตนทำงานมา 10 กว่าปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นขนาดนี้ พอขึ้นรถมาก็ใจสั่นตลอดเวลา หลังเกิดเหตุทราบว่าบุคคลที่ใช้อาวุธปืนยิง เป็นถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ จึงทำให้ตนรู้สึกค่อนข้างเครียด และกดดันตัวเอง อยากให้เรื่องมันจบ วันนี้มาแค่สอบปากคำ ส่วนเรื่องกล้องหน้ารถ ตนไม่ติดใจแจ้งความอะไร ทั้งนี้ตนไม่แน่ใจว่าภาพในกล้องหน้ารถจะสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ตลอดหรือไม่ เพราะตอนเกิดเหตุ หน้ารถกูชีพหันหน้าไปที่ท้ายรถเบนซ์ ไม่ได้หันหน้าไปทางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทางด้านพ.ต.ท.ณรงค์ ยิ้มปั่น รองผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยว่า เมื่อวานได้มีการโทรศัพท์ไปนัดผู้บาดเจ็บมาสอบปากคำในวันนี้ แต่เมื่อช่วงเช้าได้ให้ทางพนักงานสอบสวนโทรไปอีกครั้ง พบว่า ไม่สามารถติดต่อได้ จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้บาดเจ็บจะเข้ามาในวันนี้หรือไม่อย่างไร ส่วนเรื่องคดีความตอนนี้ต้องแบ่งแยกก่อน เหตุรถชน ก็เป็นคดีจราจร ส่วนเหตุที่ชกต่อยทำร้ายร่างกายก็เป็นคดีอาญา ส่วนกรณีที่มีการยิงปืนขึ้นฟ้า ยังไม่ได้มีการแจ้งความอะไร
 

สาวกู้ภัยเผยวินาที ถูกรองผู้การฯปืนเดือด ขู่เอากล้องหน้ารถ

ดังนั้น เราต้องสอบทั้งผู้เสียหายและคนยิง ว่าเหตุใดถึงก่อเหตุ ส่วนทางนายตำรวจคนดังกล่าว ตอนนี้ได้ไปรายงานตัวที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมาสอบปากคำที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่วนรถเบนซ์ที่ใช้ขับมาจากการตรวจสอบทะเบียนแล้วพบว่าเป็นของชายสูงอายุรายหนึ่งอาศัยอยู่ย่านลาดพร้าว โดยขณะนี้กำลังติดต่อเพื่อสอบปากคำเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ป้าย พ.ร.บ.ที่ติดอยู่กระจกหน้ารถ ระบุหมายทะเบียนเลขที่ 4-กถ-4595 กทม. ซึ่งไม่ตรงกับทะเบียนรถคันดังกล่าว เบื้องต้นสงสัยว่าอาจจะมีการสวมทะเบียนหรือไม่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ