ข่าว

หลุยส์ ตาทิพย์ เครือข่ายไม่ได้ประกัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังกองปราบฝากขัง 10 คน ยื่นประกัน ศาลอาญาให้ประกัน 4 คนหลักทรัพย์ 3 แสน ส่วน "น้าหลุยส์-ชายหญิง 6 คน" ศาลกลัวหนี คดีเสัยหายสูง ไม่ให้ประกัน

 

 

16  พฤศจิกายน 2562 จากกรณี พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ควบคุม นางพันธุ์ทิพา นัยยทิพย์ หรือน้าหลุยส์ อายุ 66 ปี , น.ส.ปรีดาภรณ์ คำหอม อายุ 35 ปี , นายณัฐพงษ์ อำไพ อายุ 53 ปี , นางนภาดา แต้มเจริญ อายุ 48 ปี

 

 

นายสายัณห์ นิราช อายุ 51 ปี , นายธนกร สุขสมบูรณ์ อายุ 53 ปี , นางชลเทวี อินทโพธิ์ อายุ 57 ปี , นายละมัย ชูอิ่ม อายุ 54 ปี , นายประภาส ศรีวรรณา อายุ 42 ปี , นายอุดร ธนะฤกษ์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1290-1299/2562 เครือข่าย "หลุยส์ ตาทิพย์" 10 คน อ้างเป็นผู้นำจิตวิญญาณ ได้หลอกลวงประชาชา อ้างเอกสาร ธปท. ระดมทุนจากชาวบ้านให้บริจาคเงินหุ้นละ 1,000 บาทจะได้เงินตอบแทนมหาศาล 1-4 ล้านบาท มายื่นฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก เมื่อวานที่ผ่านมา (15 พ.ย.)  โดยฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-26 พ.ย.นั้น

 

ล่าสุด (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงการยื่นประกันตัวกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ระหว่างยื่นฝากขังเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย ได้ยื่นประกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวชั้นฝากขังเพียง 4 คน คือนายธนกร , นายสายัณห์ , นายประภาส , นายอุดร ตีราคาประกันคนละ 300,000 บาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ

 

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 6 คน คือนางพันธุ์ทิพา หรือน้าหลุยส์ กับชายอีก 2 คน , หญิงอีก 3 คน ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเห็นว่า หากปล่อยชั่วคราวแล้วจะหลบหนีื ซึ่งคดีมีมูลค่าความเสียหายมาก

 

 

โดยเมื่อศาลไม่อนุญาต ผู้ต้องหาซึ่งเป็นชายถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนผู้ต้องหาหญิง นำไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ระหว่างการฝากขังนี้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพฤติการณ์เครือข่าย "หลุยส์ตาทิพย์" นั้น ได้อ้างเป็นผู้นำจิตวิญญาณมีพลังวิเศษ หมอดูไสยศาสตร์ จนมีผู้หลงเชื่อ กระทั่งอ้างถึงการระดมทุนข่วยเหลือประชาชนยากไร้ ซึ่งอ้างถึงเงินสำรองระหว่างประเทศ 23 ล้านล้านบาทของประเทศไทย และอ้างว่า เวิล์ดแบงก์ (ธนาคารโลก) ให้เงินกับประเทศเพื่อนำมาพัฒนา จึงระดมทุนร่วมบริจาคเงินหุ้นละ 1,000 บาท แล้วจะได้เงินตอบแทน 1-4 ล้านบาท สุดท้ายพบมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ