ข่าว

ตัวแทนเกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจ ฟ้องเพิกถอนมติแบน 3 สาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กลุ่มเกษตรฯ ฟ้องศาลปกครองกลาง ขอให้คุ้มครองชั่วคราว เผย อดีตอธ.กรมวิชาการเกษตร-อจ.มหาวิทยาลัยรัฐ-ผู้ค้าสารเคมี-เกษตรกร พร้อมเป็นพยาน

 

 

          เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 62 - ที่ ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง พร้อมด้วยเครือข่าย กว่า 10 คน ในฐานะผู้แทนเกษตรกรเกษตรกร 6 จังหวัด รวม 1,091 คน เดินทางเข้ายื่นฟ้องคณะกรรมการวัตถุอันตราย ,คณะกรรมการ ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

ตัวแทนเกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจ ฟ้องเพิกถอนมติแบน 3 สาร

 

          จากกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 22 ต.ค.62 ให้ยกเลิกการใช้สารเคมีป้องกัน กำจัดศัตรูพืชทั้ง3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเสต และ คลอร์ไพรีฟอส พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อทุเลาการบังคับตามมติดังกล่าว ที่กำหนดจะให้เริ่มแบนสามเคมีทั้ง 3 ชนิด ในวันที่ 1 ธ.ค.62 ไว้เป็นการชั่วคราว ส่วนคำขอท้ายฟ้อง นั้นผู้ฟ้องขอให้ ขอให้ศาลมีคำสั่งคำพิพากษาให้เพิกถอนมติของ คณะกรรมการวัตถุอันตราย คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฯ ที่สั่งระงับ การผลิต - จำหน่าย -นำเข้า-ครอบครอง หรือการใช้สารเคมีทั้ง3 ชนิด ให้กลับไปเป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 ขอให้ รมว.เกษตรฯ สั่งกรมวิชาการเกษตร หรือหน่วยงานในสังกัด กำหนดแผนรองรับแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกษตรกร ได้รับผลกระทบจากการออกมติดังกล่าว เช่น การกำหนดสารทดแทน ที่มีราคาใกล้เคียง กับสารเคมีทั้ง 3 , ขอให้ ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดกำหนดแนวทางบริหารจัดการสารเคมีทั้ง 3 ชนิดในทางการเกษตร ในประเทศไทยเพื่อไม่ก่อให้เกิด ผลกระทบ ต่อเกษตรกร และผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม 

 

          ภายหลังการยื่นฟ้อง น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง เปิดเผยว่า การยื่นฟ้องในครั้งนี้ ได้มีคำขอท้ายฟ้องขอให้เพิกถอนมติแบนสารเคมีทั้ง3 ชนิด ส่วนที่ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อขอให้คุ้มครองชั่วคราวนั้น ขณะนี้ทั้งคำฟ้องและคำร้องดังกล่าว ก็ยังอยู่ระหว่างที่ศาลกำลังตรวจเอกสาร ให้ครบถ้วน โดยต้องรอว่าศาลจะกำหนด ให้มีการไต่สวนอย่างไร 

 

          โดยหากศาลให้ไต่สวนฉุกเฉิน ทางเครือข่ายก็ได้จัดเตรียมพยามไว้ 3 กลุ่มคือ อดีตข้าราชการ สังกัดกรมวิชาการเกษตร 4คน อาทิ อดีตอธิบดี กรม และ ผอ.กลุ่ม , กลุ่มที่ 2 นักวิชาการ 7 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยด้านการเกษตรและวัชพืช อาทิ ม.เกษตรฯ มช. และ ม.สงขลานครินทร์ และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มผู้สารเคมีทางการเกษตร รวมทั้งเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ เพื่อที่จะให้การเกี่ยวกับ องค์ประกอบของสารเคมี นอกจากนี้ทางกลุ่มได้ประสานจะให้มีแพทย์มาร่วมเป็นพยานด้วย แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการ 

 

          อย่างไรก็ตาม นอกจากการฟ้องคดีนี้แล้ว ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อนหน้านี้ก็ได้ยื่นหนังสือ ที่จะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , รมว.เกษตรฯ เพื่อชี้แจงเรื่องความเดือดร้อน ของเกษตรกรที่เกิดขึ้น โดยระหว่างนี้ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมอาเซียน ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ก่อน โดยยืนยันว่ากลุ่มเครือข่ายยังจะไม่เข้าไปเคลื่อนไหวในช่วงที่มีการประชุมอาเซียน

 

          โดย น.ส.อัญชุลี ระบุอีกว่า วันนี้อยากทราบว่าการสั่งแบนสารเคมีดังกล่าวถูกต้องตามกระบวนการวิทยาศาสตร์หรือไม่ หรือมีคำสั่งจากผู้ที่มีอำนาจเหนือข้าราชการประจำ โดยที่ผ่านมา 2 ครั้ง ในการพิจารณานั้น ได้มีการพูดถึงข้อมูล วิชาการ รวมทั้งกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้ว แต่เมื่อมีอำนาจการเมืองมาอยู่เหนือข้าราชการประจำ มติ จึงถูกเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งตอนนี้ ผลของมติไม่ใช่เพียงส่งผลให้เกิดการแบนสารเคมี ทั้ง 3 ชนิด ที่ส่งผลกระทบถึงเกษตรกรแต่ยังเกิดเป็น อาฟเตอร์ช็อค ช็อตที่1 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกประกาศ การระงับGSP (สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป) ในส่วนของอาหารทะเลแช่แข็ง โดยคำสั่งเหล่านี้ล้วนแต่มีที่มา

 

          พร้อมระบุหากประเทศไทยจะแบนสารเคมีทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ จะยอมรับได้หรือไม่ ว่า ผลผลิตทางการเกษตรที่เรานำเข้าจากสหรัฐอเมริกา อาทิ ถั่วเหลือง ทดทานต่อการใช้ไกลโฟเสต และเป็นพืชตัดแต่งพันธุ์กรรม (GMO) ซึ่งคนไทยในประเทศ ก็บริโภคกันอยู่ แต่ยังไม่เห็นผลกระทบในด้านใด.

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ผงะ สต็อก 3 สารพิษเหลือเพียบ
-แบน 3 สารพิษ จ่อยกระดับ เสี่ยหนู ยันสิ้นปีเมืองไทยเลิกใช้
-ก.เกษตร​มีมติ แบน​ 3​ สารเคมี​ 1​ ธ.ค.นี้
-อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยันไม่ต้านเลิกใช้ 3 สารเคมี
-แฉฝ่ายต้านแบน 3 สาร ปล่อยข่าวนักการเมืองนำเข้ากลูโฟซิเนต

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ