ข่าว

เลขาฯศาลยธ. ยัน ผู้พิพากษาตัดสินคดีอิสระ แทรกแซงไม่ได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลขาศาลยุติธรรม เผย "อธ.ศาลภาค 9 - หน.ศาลยะลา" รายงานเคสผู้พิพากษาคณากร ยิงตัวเองบาดเจ็บแล้ว รอแจ้ง ก.ต.จันทร์นี้ ระบุ ผู้พิพากษาตัดสินคดีแทรกแซงไม่ได้

 

"สราวุธ" เลขาธิการศาลยุติธรรม เผย "อธ.ศาลภาค 9 - หน.ศาลยะลา" รายงานเคส ผู้พิพากษาคณากร ยิงตัวเองบาดเจ็บเเล้ว รอแจ้ง ก.ต.จันทร์นี้ ย้ำหลักอิสระผู้พิพากษาตัดสินคดีแทรกแซงไม่ได้ ระบุคดีโทษสูง-คดีสำคัญ พระธรรมนูญศาลยุติธรรมให้อำนาจอธิบดีศาลแนะนำได้ แต่ห้ามก้าวก่ายการตัดสิน

 

          เมื่อวันที่ 5 ต.ค.62 - นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการรายงายข้อเท็จจริง กรณีนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง ภายในศาลจังหวัดยะลา ซึ่งมีการรายงานอ้างถึงสาเหตุเกิดจากความเครียดในการพิจารณาคดีและวิพากษ์วิจารณ์การถูกกดดันเเทรกเเซงการพิจารณาพิพากษาคดีที่ทำอยู่ว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเหตุการณ์ผู้พิพากษายิงตัวในห้องพิจารณาที่ศาลจังหวัดยะลา จากนายเพิ่มศักดิ์ สายสีทอง อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 9 และนายอนิรุธ ใจเที่ยง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยะลาแล้ว ซึ่งจะนำข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์นี้เสนอ ต่อคณะกรรมการตุลาการศาล (ก.ต.) ในวันจันทร์ที่ 7 ต.ค.นี้

 

          นายสราวุธ กล่าวอีกว่า โดยก่อนหน้านี้ได้รับรายงานทางโทรศัพท์ในเบื้องต้น ซึ่งตนได้รายงาน นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ทราบตามลำดับแล้ว สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อได้รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อที่ประชุม ก.ต.แล้ว ก็ต้องดูว่า ก.ต.จะพิจารณาอย่างไร ซึ่งตนได้เตรียมรายละเอียด เช่นคำแถลงการณ์ต่างๆ ของผู้พิพากษาคนดังกล่าว เพื่ออธิบายแก่ ก.ต.แล้ว และต้องรับข้อมูลจากอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้องอีกด้วย

 

          เมื่อถามถึงเรื่องที่อ้างมีการแทรกแซงคดี จนเป็นสาเหตุกดดันนั้น นายสราวุธ กล่าวว่า คำพิพากษาถือเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยก่อนการอ่านคำพิพากษาได้ไม่เช่นนั้นจะรู้ผลล่วงหน้า และเป็นวิธีปฏิบัติของศาลที่จะปรึกษาหารือกันได้ ซึ่งในกระบวนการทำงานคดีที่มีโทษสูง คดีสำคัญ กฎหมายพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 11 (1) ให้อำนาาจ อธิบดีนั่งพิจารณาและพิพากษาคดีใดๆ ของศาลนั้น หรือเมื่อได้ตรวจสำนวนคดีใดแล้วมีอำนาจทำความเห็นแย้งได้ และสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้พิพากษาในศาลนั้นในข้อขัดข้องเนื่องจากการปฏิบัติหน้าของผู้พิพากษา

 

          โดยในมาตรา 14 ระบุไว้ด้วยว่า ให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค เป็นผู้พิพากษาในศาลที่อยู่ในเขตอำนาจด้วยผู้หนึ่ง โดยให้มีอำนาจและหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 11 วรรคหนึ่ง รวมทั้งได้ให้อำนาจรองอธิบดีผู้พิพากษาภาคไว้ด้วยเพราะปริมาณคดีมีมาก ดังนั้นอธิบดีจึงมีสิทธิที่จะตรวจสำนวน คำพิพากษา ถ้าแม้ไม่ได้ขึ้นไปนั่งพิจารณาคดีก็มีข้อแนะนำได้ หากการเขียนคำพิพากษามีจุดบกพร่อง ก็แนะนำให้แก้ไขได้ ซึ่งกฏหมายให้อำนาจไว้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน แต่อธิบดีไม่สามารถไปก้าวก่ายการตัดสินของผู้พิพากษาได้ ไม่สามารถแทรกแซงการทำงานได้ เพราะหากผู้พิพากษาไม่เห็นตามนั้น ก็สามารถยืนยันความเห็นของตนเองได้

 

          "ซึ่งมีตัวอย่างในคดีที่ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ถูกฟ้องคดี 157 ท่านชีพ จุลมนต์ อดีตประธานศาลฏีกา ซึ่งเป็นอธิบดีศาลอาญาในขณะนั้นเคยมีความเห็นแตกต่างจากองค์คณะว่าควรลงโทษ แต่องค์คณะเห็นว่าควรยกฟ้อง อธิบดีจึงมีความเห็นว่าให้เอาไปทบทวน ทางองค์คณะ ยืนยันเหมือนเดิมว่ายกฟ้อง ท่านชีพ อธิบดีศาลอาญา ขณะนั้นจึงทำความเห็นแย้งไป สำหรับในภาค 9 มีคดีความมั่นคงจำนวนมาก การที่อธิบดีมีอำนาจตรวจสำนวนและทำความเห็นแย้งได้ จึงถือเป็นเรื่องปกติในกระบวนการทำงาน เปรียบเสมือนการตรวจให้มีความรอบคอบได้มาตรฐาน ถ้าผู้พิพากษาที่พิจารณาสำนวนยังยืนยันคำพิพากษาก็ต้องเป็นไปตามที่เขียนไว้อยู่แล้ว ผมขอบอกไว้เลยในศาลใครจะมาสั่งผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะในการตัดสินคดี มันสั่งไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องอำนาจบังคับบัญชาตามลำดับชั้น ดุลพินิจของเจ้าของสำนวนจะมีความเป็นอิสระ เรื่องนี้เป็นมานานแล้ว และไม่ใช่เฉพาะเรื่องภายในเท่านั้น ในทางภายนอกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตำรวจ ทหาร หรือฝ่ายบริหารยิ่งสั่งเราไม่ได้" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าว

 

          เมื่อถามว่าเหตุผู้พิพากษายิงตัวในห้องพิจารณาโดยอ้างว่ามีเหตุจากการทำคำพิพากษานั้น จะกระทบต่อผู้พิพากษาอื่นหรือไม่ นายสราวุธ กล่าวว่า ผู้พิพากษาทั่วประเทศมีขวัญกำลังใจดีไม่มีปัญหาอะไร เรื่องอำนาจของอธิบดีผู้พิพากษา มีกำหนดชัดเจนในกฎหมายพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ตนก็เป็นผู้บรรยายกฎหมายวิชาพระธรรมนูญศาลฯ ในเนติบัณฑิตยสภา ส่วนจะมีการแก้ไขกฎหมายพระธรรมนูญศาลฯหรือไม่ ให้รอฟังผลการประชุม ก.ต.ก่อน ตนขอย้ำว่าผู้พิพากษามีความเป็นอิสระปราศจากการแทรกแซงแน่นอน

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระธรรมนูญศาลยุติธรรม คือ กฎหมายกำหนดระเบียบแบบในการทำงานของผู้พิพากษา เกี่ยวกับเขตอำนาจศาล การนั่งพิจารณาขององค์คณะ ขอบเขตอำนาจของตัวผู้พิพากษาคนเดียวหรือร่วมกันเป็นองค์คณะ การจ่ายสำนวน การเรียกคืนสำนวน เป็นต้น

 

          โดยประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับคดีนี้ น่าจะอยู่ที่อำนาจของอธิบดีผู้พิพากษาภาค ในมาตรา13 ที่ให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคมีอำนาจ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 11 ที่เป็นอำนาจของอธิบดีศาลชั้นต้น และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลด้วย เช่น มาตรา11(1) มีอำนาจในการทำความเห็นแย้งคำพิพากษาของเจ้าของสำนวนและ (4) อธิบดีผู้พิพากษาภาคมีอำนาจในการให้คำแนะนำ ผู้พิพากษาในข้อขัดข้องเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ