ข่าว

อธิบดีควบคุมมลพิษ เผยปลายสัปดาห์ฝุ่นพิษกลับภาวะปกติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อธิบดีควบคุมมลพิษ" เผย ปลายสัปดาห์นี้ ฝุ่น "PM2.5" กลับสู่ภาวะปกติ ลั่นอยากให้ปัญหาจบต้องเลิกใช้รถยนต์ดีเซล

 

 

          เมื่อเวลา 16 00 น.วันที่ 30 กันยายน ที่ห้องวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาค่าฝุ่นละออง PM 2.5 กลับมาเกินเกณฑ์มาตรฐานอีกครั้ง ในหลายพื้นที่กทม.และปริมณฑล ร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และตัวแทนหน่วยงาน พร้อมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นและหมอกควันรวม 16 จังหวัด

 

          โดย นายกฯ กล่าวเปิดประชุมว่า ช่วงที่ผ่านมา เราเจอปัญหาอุทกภัยในหลายจังหวัด ปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น บางส่วนยังต้องระบายน้ำเพิ่มเติม ขณะที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ขณะนี้อยู่ในระดับที่เกินมาตรฐาน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมการรับทราบสถานการณ์ก่อนสั่งการอะไรเพิ่มเติม

 

          จากนั้น เวลา 17.00 นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า สถานการณ์ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน จนค่า PM2.5 สูงเกินมาตรฐาน 15 พื้นที่ และในวันนี้ขยายตัวเป็น 33 พื้นที่ แต่ยืนยันว่าค่าที่เกินมาตรฐานยังไม่เป็นอันตรายสุขภาพ แต่จะเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะค่าเกิน 50 ไมโครกรัมไปแล้ว อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายที่ผ่านมา พบว่าค่าฝุ่นละอองลดลงทุกพื้นที่ เพราะมีฝนตกลงมาช่วย ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) จะมีปริมาณฝนตกลงมามากขึ้น คาดว่าปลายสัปดาห์นี้จะกลับสู่สภาพปกติ เพราะขณะนี้ถือว่าอยู๋ในช่วงเฝ้าระวัง ยังไม่เข้าขั้นวิกฤติ เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินมาตรการใดๆ

 
          ทั้งนี้ นายกฯ แจ้งที่ประชุมว่า สาเหตุของการเกิดฝุ่นละอองเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งที่เราควบคุมได้คือ การใช้ยานพาหนะโดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหา มีสัดส่วน 54 % และการเผาไหม้ในที่โล่ง 35 % ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรม และอื่นๆสร้างฝุ่นละออง 3-5 % เท่านั้น      
         

 

          นายประลอง กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมได้รับทราบแนวทางแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ที่จะมีแนวทางแก้ปัญหาใน 3 ระยะ คือก่อนเกิดวิกฤติ ช่วงเกิดวิกฤติ และหลังวิกฤติ อาทิ การแก้ปัญหาในเชิงพื้นที่กทม.หากค่าฝุ่นเกิน 50 ไมโครกรัม จะเพิ่มจุดตรวจควันดำ จากเดิม 10 จุด เป็น 21 จุด และหากปริมาณฝุ่นเกิน 75 ไมโครกรัม ผู้ว่าฯกทม.มีอำนาจตามพ.ร.บ.สาธารณสุข สามารถออกคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การประกาศปิดโรงเรียน 437 แห่งเมื่อปีแล้ว ส่งผลให้ค่าฝุ่นลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากให้ปัญหานี้จบ คือต้องเลิกใช้รถยนต์ดีเซล ซึ่งก็ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ขอให้ตระหนักกับสถานการณ์ที่้เกิดขึ้น และสามารถติดตามค่าฝุ่นละอองได้ด้วยตัวเอง ผ่านแอพพลิเคชั่น Air4Thai ที่จัดทำโดยกรมควบคุมมลพิษ  

     
          ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกฯกำชับเรื่องการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือใช้ชีวิตกลางแจ้ง ในช่วงที่มีฝุ่นมีฝุ่นละออง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก คนชรา และผู้ป่วย ในเบื้องต้นหากปริมาณหน้ากากไม่เพียงพอ จะประสานกระทรวงสาธารณสุข นำมาแจกจ่าย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ