ข่าว

บอร์ดมิราเคิลฮับ ไฟเขียว ชาวมะกัน-ญุี่ปุ่น ปลอดวีซ่า90วัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อนุทิน"เผยบอร์ดมิราเคิลฮับ ไฟเขียว"ชาวมะกัน-ญุี่ปุ่น"ปลอดวีซ่า90วัน ดันไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลกในปี 2563 ระบุท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนำเงินเข้าไทยปีละ 28,110 ล.บ.

 


             วันที่  26 กันยายน 2562 - ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบายMedical Hub)ครั้งที่ 2/2562

 

           และให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับส่งเสริมนวัตกรรมและศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ซึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 3.42 ล้านครั้ง สร้างรายได้เข้าประเทศ 28,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.02 

 

          อีกทั้งมีสถานบริการสุขภาพผ่านมาตรฐานJCI68 แห่ง ซึ่งมากที่สุดในอาเซียน ได้กำหนดให้ปี ค.ศ. 2020 ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพของโลก (Medical Hub)ติดอันดับ 1 ใน 10 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยจะร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขับเคลื่อนการดำเนินงานเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านบริการรักษาพยาบาล บริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน

 

           โดยยกระดับhome stayที่ได้มาตรฐานให้เป็นHealthy home stayเน้นความสะอาด ปลอดภัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพสูงไปวางจำหน่ายในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ยุโรป รวมทั้งเตรียมการรองรับการประกาศผลการพิจารณารับรองบริการนวดไทยเป็นมรดกโลกจากUNESCOที่จะมีผลพิจารณาในเดือนธันวาคม 2562

 

              นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้เพิ่มเติมประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ให้เข้าประเทศไทยเพื่อรับการรักษาพยาบาลได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าระยะเวลา 90 วัน สำหรับผู้ป่วยและผู้ติดตามรวมไม่เกิน 4 ราย รวมเป็น13ประเทศจากเดิมที่มี 11 ประเทศ คือ กลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ 6 ประเทศ กลุ่มประเทศCLMVและสาธารณรัฐประชาชนจีน

 

         นายอนุทิน กล่าวต่อว่า รวมทั้งเห็นชอบให้เพิ่มเติมอีก 4 ประเทศได้แก่ เกาหลี เบลเยียม สาธารณรัฐออสเตรีย และนิวซีแลนด์ เป็น18ประเทศที่สามารถขอวีซ่าแบบพำนักระยะยาว 10ปี (Long stay visa)จากเดิมที่มี 14ประเทศ คือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา สหรัฐอเมริกา ตลอดจนมีการเพิ่มประเภทขอวีซ่าแบบใหม่เป็นประเภทรักษาพยาบาล (Medical Visa) Non - MTชนิดใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (Multiple Entry)คราวละไม่เกิน 1 ปี เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยที่เข้ามารักษาพยาบาลในไทย โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในหลักการต่อไป

 

         สำหรับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub)ให้จัดทำฐานข้อมูลสถานพยาบาลในแต่ละบริการรักษาพยาบาลและบริการWellnessที่มีศักยภาพสูงและดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Magnet)ได้แก่ เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ สปาทางการแพทย์ การแพทย์ทางเลือก โรคหัวใจ กระดูกและกล้ามเนื้อ ทันตกรรม การรักษาผู้มีบุตรยาก โรคมะเร็ง ศัลยกรรม/ศัลยกรรมเสริมสวย/ผ่าตัดแปลงเพศ โรคตาต้อกระจก การแพทย์แม่นยำ

 

          รวมทั้งยกระดับผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพให้ไปวางจำหน่ายในต่างประเทศ กำหนดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีศักยภาพสูง และประชาสัมพันธ์ข้อมูลผ่านช่องทางหลักไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งพิจารณาประเด็นการจัดตั้งทูตสาธารณสุข (Medical Attaché)เพื่อทำงานร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ เป็นตัวแทนประเทศไทยในการชี้แจงข้อมูลด้านสุขภาพรองรับนโยบายMedical Hubในประเทศเป้าหมาย 5 ประเทศ ได้มอบให้ฝ่ายเลขาฯ หารือกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงาน กพ. และนำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป 

 

       ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยว ฯ จะผลัดเปลี่ยนกันจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ฯ ทุกไตรมาส เพื่อขับเคลื่อนมาตรการสำคัญที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทย

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ