ภท.ดีใจ สภาตั้งกมธ.วิสามัญแบนสารเคมีเกษตร

 

"อ่างทอง" คือจังหวัดในภาคกลางที่ไม่ห่างไกลจากกทม.มากนัก ระยะทางเพียงหนึ่งชั่วโมงเศษก็สามารถแวะเวียนมาถึงจังหวัดนี้ที่มีของดีหลายอย่างที่หลายคนยังไม่รู้ ....

 

          คนอ่างทองนั้น ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่สร้างรายได้เป็นอันดับต้นๆ ของพื้นที่ และตอนนี้กระแสโลกกำลังนิยมการท่องเที่ยววิถีเกษตรปลอดสารพิษ แต่เมืองไทยยังมีปัญหาด้านนี้อยู่...

ดังนั้นสองรัฐมนตรีของภูมิใจไทย คือ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ควงแขน มนัญญา ไทยเศรษฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เร่งเครื่องต้านการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเกษตรกรรมและรับข้อเสนอจากภาคส่วนในสังคมในการต้านสามสารเคมีที่ก่อปัญหาให้เกษตรกร ผลผลิตและสิ่งเเวดล้อม

เพราะผลวิจัยเกี่ยวกับการใช้อันตราย 3 ชนิด คือ "พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต" นั้นหลายชาติในโลกล้วน "แบน" สามสารเคมีเพราะผลวิจัยระบุว่าก่อพิษมากกว่าให้คุณ

 

ดังนั้น "ภราดร ปริศนานันทกุล" ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทยยืนยันที่จะหนุนการแบนสามสารเคมีเพื่อสร้างให้เมืองไทยและบ้านเกิดคือ จ.อ่างทอง ปลอดภัย

"เกษตรกรรมคือรายได้หลักของประเทศเป็นหนึ่งในสี่เครื่องยนต์หารายได้เข้าประเทศ วันนี้หลายชาติมีการห้ามนำเข้าพืชที่มีการปนเปื้อนสารเคมีเเบบนี้หากบ้านเรายังใช้อยู่ การส่งออกสินค้าเกษตรชะงักแน่นอน เกษตรกรขาดรายได้ รัฐบาลต้องหางบไปช่วย ปัญหามันวนเวียนหากไม่มีแนวทางเเก้ไขแบบถาวร

 

ผมดีใจที่รัฐสภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีในภาคการเกษตร หลังจากพิจารณาญัตติด่วนในกลุ่มเรื่องการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคการเกษตร ซึ่งผู้เสนอญัตติได้แสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของสารเคมีทั้ง 3 ชนิด คือ ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า และยาฆ่าเชื้อรา เพราะสารเคมีเหล่านี้จะกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง" ภราดร ระบุ

ภราดร กล่าวว่า นโยบายด้านการเกษตรที่พรรคบอกสังคมในตอนหาเสียงนั้น ตอนนี้ร่างกฎหมายการแบ่งปันผลประโยชน์ข้าวและร่างกฎหมายการแบ่งปันผลประโยชน์มันสำปะหลังที่ใช้ที่นโยบายแบ่งปันผลกำไร (Profit Sharing) ได้ผลักดันร่างกฎหมายเข้ารัฐสภาแล้ว การแก้ไขราคาสินค้าเกษตรที่ผ่านมามักดำเนินการในระยะสั้นเสมอ เช่น ระบบประกันราคาหรือระบบการจำนำ วันนี้เกษตรกรเจอปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รัฐบาลก็ช่วยเหลือด้วยวิธีข้างต้นแต่ความจริงมันก็ยังเป็นปัญหาเดิมๆที่ส่งผลให้งบประมาณประเทศขาดดุล ดังนั้น สิ่งที่พรรคผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้ออกมาเป็นกฎหมายโดยต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภานั้น มีทั้งปาล์ม อ้อย ยางพารา ข้าว มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชเกษตรกรรมหลักของประเทศที่พรรคดำเนินการให้ครบ

 

ภราดร กล่าวว่า เมื่อดำเนินการผลักดันร่างกฎหมายสินค้าเกษตรหลักห้าชนิดของประเทศแล้ว ก็ต้องมาดูระบบการผลิตที่ดำเนินการล่วงหน้าได้เลยในตอนนี้ เช่น การลดใช้สารเคมีนั้น โดยตอนนี้มีการหนุนห้ามการใช้ "พาราควอต ,ไกลโฟเซต ,คลอร์ไพริฟอส" และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าต้องยุติการใช้สามสารเคมีนี้ในสิ้นปีนี้นั้น ตนได้หารือเกษตรกรในพื้นที่พบว่าเกษตรกรรู้ปัญหาเหล่านี้ เกษตรกรกังวลยกเลิกการใช้สามสารเคมีนั้น การกำจัดศัตรูพืชรวมทั้งการเร่งให้พืชเติบโตนั้น จะมีสิ่งใดมาทดแทน แนวทางนี้เชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องวางแผนไว้แล้วและรอการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม โดยตนหวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือให้เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ และควรเพิ่มการรณรงค์ให้สังคมรับรู้พิษจากการใช้สารเคมีเหล่านี้

 

"เพราะความจริงผู้บริโภคภายในและภายนอกประเทศรับกระทบไปด้วยจากการบริโภคสินค้าเกษตรที่ปนเปื้อนสารเคมีที่เกินอัตรา หากผู้บริโภคต่อต้านสารพิษในสินค้าเกษตร เกษตรกรก็ขายสินค้าไม่ได้ เพราะส่งออกไม่ได้และคนในประเทศก็ไม่ซื้อ ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำก็วนกลับมายังจุดเดิม รัฐบาลก็ต้องตั้งงบช่วยเหลือ เรื่องแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลงมานับสิบๆ ปีแล้ว ดังนั้นการยกเลิกการใช้สามสารเคมีและส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืนแบบครบวงจรนั้น ต้องดำเนินการจริงจังให้เกิดขึ้นแบบถาวร” ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ระบุ

 

ภราดรมองว่าส่วนการหารายได้ให้ชาวอ่างทองด้วยวิธีนี้คือเกษตรปลอดสารพิษน่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับพื้นที่

 

"ผมมองว่าการพัฒนาจังหวัดอ่างทองนั้นมีหลายทิศทางที่จะนำเสนอต่อรัฐบาล  อ่างทองคือพื้นที่เกษตรกรรมเป็นหลัก แต่วันนี้คนรุ่นใหม่มาทำอาชีพนี้น้อยมาก ไม่เช่นนั้นในอนาคตบ้านเราจะไม่มีเกษตรกร ผมยอมรับว่าคนรุ่นใหม่ที่เรียนจบ มีน้อยมากที่กลับมาทำงานในพื้นที่และทำงานเกษตรกรรม ดังนั้นตอนนี้การที่จะโปรโมทอ่างทองให้สังคมรับรู้มากขึ้น ทั้งด้านท่องเที่ยวและวิถีชีวิตชุมชนรวมทั้งเกษตรกรรมที่ตอนนี้กระแสโลกจับจ้องการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมากขึ้น เพราะมันสร้างรายได้เข้าประเทศ ชุมชนก็ยั่งยืน คนรุ่นใหม่ก็ไม่ทิ้งบ้านเกิดไปหางานทำในพื้นที่อื่น ผมกำลังหาแนวทางไปหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นแบบยั่งยืน สิ่งหนึ่งที่จะสร้างให้ยั่งยืนคือเกษตรปลอดสารพิษที่วันนี้ทั่วโลกยอมรับ หากทำได้จริง อ่างทองจะทำทันทีและจะสร้างแหล่งท่องเที่ยวสินค้าเกษตรปลอดสารพิษในพื้นที่ด้วย"

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-แฉ ! กระทรวงเกษตรฯยังนำเข้าพาราควอต
-โยกย้าย ล็อตแรก เขย่าแรงบิ๊กเกษตร
-"เฉลิมชัย" ลุยน้ำท่วม พบเกษตรกรมอบถุงยังชีพ
-เฉลิมชัย ลุยน้ำท่วมลั่นแก้ไขปัญหาชดเชยให้เร็วที่สุด