ข่าว

ดีเอสไอ แถลงพรุ่งนี้ผลคดีกะเหรี่ยงบิลลี่ ล่องหน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พรุ่งนี้ ดีเอสไอแถลงผลคดีกะเหรี่ยงบิลลี่  หายตัวไปกว่า 5ปี เผย ข่าวดีหัวกะโหลกชี้ให้เห็นถึงการเสียชีวิต  และผลดีเอ็นเอ ค่อนข้างตรง

       

        หลังประเทศไทยถูกเอ็นจีโอทั้งในประเทศและต่างประเทศ กดดันถึงการอุ้มหาย แกนนำนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการหายตัวของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในวันที่ 17 เมษายน 2557  หลังปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปกว่า 4 ปี ในการประชุมคดีพิเศษ ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.61 คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)  จึงได้มีมติให้ดีเอสไอรับคดีการหายตัวไปของ  ‘บิลลี่’  เป็นคดีพิเศษ โอนสำนวนคดีอาญาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มาให้อยู่ในการดูแลของดีเอสไอ

     คดีการหายตัวไปกว่า 5  ปี ของกะเหรี่ยง “บิลลี่” กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง หลังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไม่ได้รับการรับรองให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สาเหตุหนึ่งมาจากคดี “บิลลี่” หาย ยังไร้ร่องรอย 

          

 

      เมื่อเปิดไทม์ไลน์ ติดตามการสอบสวนคลี่คลายคดีของดีเอสไอ หลังรับคดีไว้สอบสวน นานปีเศษ จะพบว่า ดีเอสไอ เริ่มต้นด้วยขีดเส้นกำหนดกรอบการสอบสวนด้วยการนำหลักฐานที่เคยลงพื้นที่สืบสวนหลังเกิดเหตุใหม่ๆ ภายใต้ความเชื่อมั่นว่า รูปคดียังพอไปได้ ยังมีพิรุธในพยานหลักฐานอีกหลายจุดที่พอจะขยายผลให้เกิดความชัดเจน 

      จากนั้นศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษศูนย์ภาค ได้ส่งชุดสอบสวนเข้าไปในพื้นที่แก่งกระจานเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าแสวงหาหลักฐานในทางลับ  พร้อมกับเก็บรายละเอียดถึงสภาพภูมิประเทศที่เป็นเขาสูงชันและป่าทึบ  นั่นเพราะ… แก่งกระจานเป็นอุทยานที่ยังคงสภาพป่าสมบูรณ์ และเป็นป่าผืนใหญ่ที่สุดในประเทศ สภาพพื้นที่เต็มไปด้วยหน้าผาและหุบเหว ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสำรวจตรวจค้น 

        จากนั้นนำข้อมูลจากชั้นสืบสวนและสอบสวนมาวิเคราะห์ ถึงความน่าจะเป็นของพยานหลักฐานที่น่าจะหลงเหลืออยู่ในป่าแก่งกระจาน อย่างน้อย..คนตายต้องพบศพ ไม่พบชิ้นส่วนเศษซาก ก็ควรเจอรถมอเตอร์ไซด์.. พาหนะคู่ใจของ “บิลลี่”  โดยพิกัดต้องสงสัยเป็นร่องน้ำลึกใกล้สะพานแขวน ซึ่งสภาพตลอดทั้งปีน้ำไหลแรง เศษซากต่างๆตลอดลำน้ำ ต้องถูกกระแสน้ำพัดพามาตกตะกอนรวมตัวที่ก้นร่องน้ำ  แต่ด้วยสภาพสายน้ำที่ลึกและเชี่ยวกราก  จึงยากต่อการส่งชุดประดาน้ำเข้าไปตรวจพิสูจน์ ดีเอสไอจึงต้องคอยเวลาให้ถึงช่วงที่น้ำลดต่ำลงที่สุดในรอบปี  นั่นก็คือเดือนเมษายนของทุกปี 

       เมื่อน้ำลดระดับลงจนตื้นเขินที่สุด ดีเอสไอได้ใช้เทคโนโลยีสแกนใต้น้ำ เอ็กซเรย์กันอย่างละเอียดทุกตารางนิ้ว จนกระทั่งภาพจากเครื่องสแกนใต้น้ำ ชี้ให้เห็นถึงเศษซาก คล้ายชิ้นส่วนกระดูก จากนั้นนักประดาน้ำจึงเข้ามารับไม้ต่อ ซึ่งผลจากการดำน้ำเก็บกู้ซากกระดูกได้ผลลัพธ์…ดีเกินคาด เพราะชิ้นส่วนกระดูกที่งมขึ้นมาได้จากร่องน้ำลึก .. ในแก่งกระจาน  เป็นหัวกะโหลกมนุษย์

        ขั้นตอนต่อไปเป็นการส่งตรวจเพื่อเปรียบเทียบสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอกับญาติสายตรง “พ่อ แม่ พี่น้อง ของ บิลลี่” ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาอย่างไรขอให้รอฟังการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของดีเอสไอ ในวันพรุ่งนี้  (3 ก.ย.) 

      โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า ..เป็นข่าวดี หัวกะโหลกชี้ให้เห็นถึงการเสียชีวิต  และผลดีเอ็นเอค่อนข้างตรง     

     ก่อนหน้านี้ในการลงพื้นที่สืบสวนของดีเอสไอในปี 2557 ซึ่งเข้าปฏิบัติการพร้อมทีมนักนิติวิทยาศาสตร์ ได้ใช้อุปกรณ์พิเศษตรวจพบคราบเลือดในห้องโดยสาร ตำแหน่งหลังที่นั่งคนขับ ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้ถือว่าน่าเสียดาย เพราะในช่วงหลังเกิดเหตุใหม่ๆ เจ้าหน้าที่ไม่ได้อายัดรถของทางราชการเพื่อรอการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้รถคันดังกล่าวผ่านการล้างทำความสะอาดมาแล้วหลายครั้ง จนการพิสูจน์คราบเลือดไม่สามารถตรวจจับคู่ดีเอ็นเอได้  อ่านแปลผลได้เพียงว่า เป็นคราบเลือดมนุษย์ ... เพศชาย
        นอกจากนี้กล้องวงจรปิดภายในอุทยานฯ แก่งกระจาน เป็นอีกประเด็นที่ต้องนำมาย้อนภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อลำดับเหตุการณ์ตามช่วงเวลา ซึ่งต้องนำมาเปรียบเทียบกับคำให้การของพยานทั้งที่ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน และคำเบิกความในชั้นศาล โดยคดีนี้พบข้อพิรุธจากคำให้การของพยานหลายปากที่พูดไม่ตรงกันนั่นเพราะในคดีของ “บิลลี่” มีการร้องทุกข์กล่าวโทษและฟ้องคดีกันหลายศาล ปรากฏว่า พยานให้การในชั้นสอบสวน และเบิกความในศาลแต่ละครั้งไม่ตรงกัน ซึ่งถือว่าผิดธรรมชาติ ...จัดเป็นภาวะผิดปกติของพยาน เพราะพยานที่พูดความจริงหรือเบิกความในเรื่องที่เห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ ไม่ว่าจะถูกถามซ้ำกี่ครั้ง ก็ย่อมต้องพูดได้ตรงกันทุกครั้ง
          โดยภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมคำให้การของพยานบุคคลทุกปาก ได้ถูกนำมาทบทวนเพื่อสรุปให้ได้ถึงเวลาที่แท้จริงในการควบคุมตัวบิลลี่ รถยนต์ที่ขับเข้าไปรับตัวมีทั้งหมดกี่คัน เวลาในการรับตัว-ปล่อยตัว        รวมถึงตำแหน่งที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ระบุถึงการปล่อยตัวบิลลี่ เนื่องจากบิลลี่เคยมีข้อพิพาทกับเจ้าหน้าที่อุทยานและหายตัวไปก่อนขึ้นเบิกความเป็นพยานในคดีที่กลุ่มชาวบ้านยื่นฟ้อง “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

         นอกจากนี้ การหายตัวไปของ “บิลลี่” ก็ไม่ใช่รายแรก ก่อนหน้านั้นราว 2 ปี ก็เคยเกิดเหตุในลักษณะใกล้เคียงกัน มีการฟ้องดำเนินคดีกันในชั้นศาล แต่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เป็นฝ่ายชนะคดี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ