ให้นโยบาย "คอร์ทมาแชล-Court Marshal" วางมาตรฐานรักษาความปลอดภัย – ติดตามผู้หลบหนีประกัน ช่วง 5 ปีตั้งเป้ามี ตำรวจศาล 309 อัตรา
6 สิงหาคม 2562 ที่ห้องประชุมสำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก เจ้าพนักงานตำรวจศาล รุ่นที่ 1 หรือ คอร์ทมาแชล (Court Marshal) จำนวน 35 คนที่มีทั้งชาย-หญิง (ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร , เจ้าหน้าที่ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน เช่น ปปง. ปปส. รับโอนสังกัดมา)
เข้ารายงานตัวต่อ "นายสราวุธ เบญจกุล" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม โดยมี "นายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล" ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักการเจ้าหน้าที่ ซึ่งดูแลส่วนของเจ้าพนักงานตำรวจศาล ร่วมในโอกาสนี้ด้วย
โดย "นายสราวุธ" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวต้อนรับ เจ้าพนักงานตำรวจศาล รุ่นที่ 1 พร้อมให้นโยบายสรุปได้ว่า ตำรวจศาลเป็นความหวังของระบบรักษาความปลอดภัยและบังคับใช้กฎหมายในศาล ทุกคนมีหลักประกันการทำงานเหมือนกับข้าราชการศาลยุติธรรม ในเดือน ก.ย. จะมีการไปศึกษาดูงานตำรวจศาลของสหรัฐอเมริกาด้วย กฎหมายตำรวจศาลนั้นประธานศาลฎีกาได้ผลักดันให้กฎหมายผ่านหลังเรารอมา 10 กว่าปี ต้องการเห็นการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาล
หากศาลใดมีคดีสำคัญแล้วมีการร้องขอใช้เจ้าพนักงานตำรวจศาลมาก็จะส่งไป ถ้าทำอย่างมีประสิทธิภาพ จะเพิ่มจำนวนคนเป็นหลักพันได้ วัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องสำคัญ ขอให้เข้าใจเพื่อให้การทำงานราบรื่นมีประสิทธิภาพ ศาลอาญาเองก็เคยถูกอาวุธ ระเบิด อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแล ที่กรรมการคัดเลือกมานั้นต้องการทักษะหลายด้าน เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง โอกาสเป็นของทุกคนในการแสดงฝีมืออย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ "นายสราวุธ" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ยังกล่าวตอบถามที่ตั้งของสำนักงานศูนย์รักษาความปลอดภัย สังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งจะดูแลกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาลว่า อยู่ใกล้ศูนย์ควบคุมติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ EM ด้านข้างอาคารศาลอาญา ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจศาลจะปฏิบัติหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ.2562 และนโยบายของเจ้าพนักงานตำรวจศาลคือ 1.วางมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น 2.การบังคับตามหมายจับ ติดตามผู้หลบหนีประกันตัวที่ติดกำไล EM และที่ไม่มาศาลตามนัด โดยขณะนี้หากศาลทั่วประเทศแห่งใดประสงค์จะขอกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาลไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ ก็สามารถยื่นความประสงค์มาที่สำนักงานศาลฯ ก็จะจัดสรรให้ แต่เนื่องจากขณะนี้กำลังยังมีน้อย ก็จะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาประจำศาลซึ่งในอดีตได้รับการประสานจากสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่นั้น ส่งมาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณศาล กับเจ้าหน้าที่ รปภ. ของศาล ที่ได้รับการจัดสรรมาจากองค์การทหารผ่านศึก ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่เช่นเดิม ควบคู่กับเจ้าพนักงานตำรวจศาล
อย่างไรก็ดีตนหวังว่าเจ้าพนักงานตำรวจศาลชุดแรกทั้ง 35 คน จะวางระบบมาตรฐานให้ชัดเจนขึ้น เป้าหมายในการจัดกำลังตำรวจศาลกำหนดไว้ภายใน 5 ปี จะต้องมีให้ครบ 309 อัตรา โดยไม่จำกัดจำนวนชายหญิง เพราะทุกคนมีความสามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งในส่วนของเจ้าพนักงานตำรวจศาลรุ่นแรก 35 คน แม้ในช่วงสมัครจะมีการกำหนดประเภทฝ่ายวิชาการและระดับปฏิบัติงาน แต่จริงๆ แล้ว ทั้งหมดได้รับการฝึกฝนและอบรมอย่างเข้มข้น พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามได้ทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันที่ 14 ส.ค. นี้ ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีสำคัญเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 24 คน ในข้อหาร่วมกันก่อการร้าย สำนักงานศาลฯ จะจัดสรรตำรวจศาลมาประจำการบริเวณศาลอาญาเพื่อดูแลความเรียบร้อยหรือไม่ "นายสราวุธ" กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ ซึ่งภารกิจของเจ้าพนักงานตำรวจศาล คือการดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณศาลด้วย
เมื่อถามถึงตำแหน่ง ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย สังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งจะดูแลกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล "นายสราวุธ" กล่าวว่า จากเดิมที่ลาออกไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค.นี้ เราก็จะพิจารณาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาดำรงตำแหน่ง ผอ.คนใหม่ ในวันที่ 1 ต.ค.62 ตามรอบการโยกย้ายของสำนักงานศาลฯ ซึ่งปกติมี 2 รอบ คือ 1 เม.ย. กับ 1 ต.ค. โดยคุณสมบัติที่อาจจะนำมาพิจารณาอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ที่จบสาขานิติศาสตร์ โดยการพิจารณาบุคคลขณะนี้เราจะดูจากบุคลากรภายในก่อน
เมื่อถามถึงข้อมูลผู้ต้องหา/จำเลย ที่สวมกำไล EM หลบหนีการประกันตัว กับอำนาจดำเนินการของตำรวจศาลในการจับกุม "นายปุณณพัฒน์" กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใส่กำไล EM ของศาลที่หลบหนี 160 ราย ตำรวจศาลก็จะติดตามจับกุม
ส่วนกรณีที่มีข่าว บริษัทเอกชน ร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมให้ตรวจการเช่ากำไล EM ของกรมคุมประพฤติ ไม่ได้มาตรฐานเมื่อถูกทำลายไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนมายังศูนย์ แล้วในส่วนกำไล EM ของศาลที่ใช้มีปัญหาหรือไม่ "นายปุณณพัฒน์" กล่าวว่า ในส่วนกำไล EM ของศาลไม่มีปัญหา
ขณะที่ "นายสราวุธ" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวเสริมเรื่องนี้ว่า เจ้าพนักงานตำรวจศาลมีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับข้อมูลของผู้ต้องหา/จำเลยที่หลบหนีประกันศาลที่ศาลออกหมายจับไว้แล้ว โดยจะมีหน้าที่ประสานตำรวจนครบาลในพื้นที่เพื่อติดตามจัดการตามหมายจับของศาลต่อไป ขณะที่เจ้าพนักงานตำรวจศาลมีอำนาจจับกุมได้ด้วยเช่นกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ส่วนกำไล EM ของกรมคุมประพฤติเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ติดกับข้อมือ แต่ในส่วนของศาลเป็นอุปกรณ์ที่ติดกับข้อเท้า ลักษณะคนละประเภท
โดย "นายปุณณพัฒน์" ยังตอบคำถามถึงเครื่องแบบของตำรวจศาลด้วยว่า ได้กำหนดเครื่องแบบไว้ 3 ชุด คือชุดที่หนึ่งพร้อมปฏิบัติงานภาคสนาม เป็นเสื้อคอพับแขนยาวหรือแขนสั้น กางเกงขายาว เข็มขัดด้ายถักสีน้ำเงินแกมดำ (ชุดเวส ลักษณะคล้ายกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจนครบาล) , ชุดที่สอง ชุดปฏิบัติงานปกติ จะเป็นเสื้อคอแบะ ปล่อยเอว กางเกงขายาว ติดเครื่องแบบโลหะ , ชุดที่สามเป็นสูทคอแบะ แขนยาว กางเกงขายาว ติดเครื่องแบบโลหะเช่นเดียวกัน โดยชุดทั้งหมดเป็นสีน้ำเงินแกมดำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือ คอร์ทมาแชล (Court Marsha) นั้นตาม พ.ร.บ.เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ.2562 มาตรา 5 มีสาระสำคัญ คือ รักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาล, ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในบริเวณศาล, รักษาความปลอดภัยและคุ้มครองข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พนักงานและลูกจ้าง รวมทั้งอาคารสถานที่และทรัพย์สิน
ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการแจ้งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ จับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยศาล แล้วหนีหรือจะหลบหนี หรือจับผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นได้ ให้นำผู้ถูกจับไปยังศาลโดยเร็ว และเมื่อศาลได้ออกหมายจับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกหรือคำสั่งศาล ให้ศาลมีคำสั่งตั้งตำรวจศาลเป็นผู้จัดการตามหมายจับ ศาลอาจให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้จัดการตามหมายจับด้วย โดยมีตำรวจศาลเป็นผู้สนับสนุนก็ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง