ข่าว

อัยการ รับมอบ ก.คมนาม-รฟท.ยื่นศาลปกครองรื้อคดีโฮปเวลล์ใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ก.คมนาคม- รฟท." ร้องศาลปกครอง พิจารณาคดีพิพาทปฏิบัติคำชี้ขาดอนุญาโตฯ เคส "โฮปเวลล์" หมื่นล้าน ใหม่ ลุ้นเข้าเกณฑ์หรือไม่


"ก.คมนาม- รฟท." ร้องศาลปกครอง พิจารณาคดีพิพาทปฏิบัติคำชี้ขาดอนุญาโตฯ เคส "โฮปเวลล์" หมื่นล้านใหม่ ลุ้นเข้าเกณฑ์หรือไม่ "รองโฆษกศาลปกครอง" ระบุตามกฎหมายขอรื้อกำหนด 4 เกณฑ์

 

          5 ส.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 ให้ "การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)" ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทสัญญาสัมปทานระบบการขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับใน กทม. ชดใช้เงินค่าตอบแทนคืนให้กับ "บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด" คู่สัญญา เป็นเงินจำนวน 11,888,749,800 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนั้น

 

          ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.62 ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ในฐานะผู้คัดค้านคดีโฮปเวลล์ดังกล่าว ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ขอให้พิจารณาคดีขึ้นใหม่ โดยขณะนี้คำร้องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล และยังไม่มีคำสั่งใดๆ เกี่ยวกับคำร้องออกมา

 

          ทั้งนี้ เมื่อสอบถามขั้นตอนการยื่นคำร้อง ขอพิจารณาใหม่ (รื้อฟื้นคดี) นายเทอดพงศ์ คงจันทร์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ในฐานะรองโฆษกศาลปกครอง ได้กล่าวถึงขั้นตนตามกฎหมายว่า ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 75 บัญญัติหลักเกณฑ์การยื่นคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่ว่า คู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นผู้ฟ้องหรือผู้ถูกฟ้องก็ดี หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสีย หรืออาจถูกผลกระทบจากคดีนั้น อาจมีคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดี หรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองนั้นใหม่ ได้ในกรณีดังต่อไปนี้

 

          1.ศาลปกครอง ฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด หรือมีพยานหลักฐานใหม่ อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติไปแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ

 

          2.คู่กรณีที่แท้จริง หรือบุคคลภายนอกที่มีผลกระทบ ไม่ได้ถูกเรียกเข้ามาร่วมดำเนินกระบวนพิจารณาคดี หรือได้เข้ามาแล้วแต่ถูกตัดโอกาสโดยไม่เป็นธรรม ในการมีส่วนร่วมในการดำเนินกระบวนพิจารณา

 

          3. มีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม (การอ้างว่าศาลพิจารณาคดีผิดพลาด และจะทำให้ผู้ร้องไม่ได้รับความเป็นธรรม)

 

          4.คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น ได้ทำขึ้นโดยศาลรับฟังข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใดและต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ ซึ่งทำให้ผลแห่งคำพิพากษาหรือคำสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น (การอ้างเรื่องข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป)

 

          โดยระยะเวลาในการยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่นั้น ตามกฎหมายผู้ร้องจะต้องยื่นคำขอต่อศาลภายใน 90 วัน ตั้งแต่วันที่รู้ว่ามีเหตุที่จะยื่นพิจารณาคดีใหม่ได้ แต่ไม่เกิน 5 ปีนับตั้งแต่วันที่มีศาลคำพิพากษา

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีนั้น ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.51 และ 15 ต.ค.51 ที่ ให้ "กระทรวงคมนาคม -รฟท." ต้องชดใช้เงินค่าเสียหาย 3 ส่วน ให้กับ "บจก.โฮปเวลล์ฯ" จากกรณีบอกเลิกสัญญา ด้วยเหตุที่เห็นว่าไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดได้ ประกอบด้วยเงินค่าตอบแทนที่ "บจก.โฮปเวลล์" ชำระไว้จำนวน 2,850,000,000 บาท และให้คืนหนังสือค้ำประกัน คืนค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือค้ำประกัน จำนวน 38,749,800 บาท และเงินในการก่อสร้างโครงการจำนวน 9,000 ล้านบาท รวมจำนวน 11,888,749,800 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยในส่วนของดอกเบี้ยเงินค่าตอบแทนกับเงินค่าธรรมเนียมนั้นให้นับตั้งแต่วันที่ได้รับเงินค่าตอบแทนแต่ละงวด และวันที่จ่ายเงินค่าธรรมเนียมให้กับธนาคาร ส่วนดอกเบี้ยของเงินก่อสร้างโครงการให้นับตั้งแต่วันที่คณะอนุญาโตฯ ชี้ขาด

 

          โดยศาลปกครองสูงสุด ให้ "กระทรวงคมนาคม -รฟท." ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตฯ ให้เสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด (22 เม.ย.62)

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ