อดีตทหารหลอกรุ่นน้องลงทุนแชร์ลูกโซ่สูญเงิน 100 ล้าน

 

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 15 กรกฎาคม 2562  กลุ่มนายช่างทหารอากาศ รวมตัวเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอ หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเป็นเอเย่นต์จัดจำหน่ายสุราและเบียร์ในพื้นที่ภาคอีสาน เสียหายกว่า 100 ล้านบาท  

 

โดยผู้เสียหายซึ่งปัจจุบันเป็นนายช่างทหารอากาศ ตำรวจ ทหารบก และนายช่างการบินไทย เปิดเผยว่า ขณะอบรมหลักสูตรทหารช่างในช่วงใกล้จบหลักสูตรมีการเชิญ จ.ต.กานต์ ฤกษ์ใหญ่ ซึ่งเคยเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนที่พวกตนเรียนอยู่ มาเป็นวิทยากรจากภายนอกมาบรรยายในหัวข้อ "ทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ"

 

โดยวิทยากรได้ชักชวนให้นักเรียนร่วมลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายเหล้าและเบียร์ ในจ.อุบลราชธานี ที่จ่ายปันผล 4% ทุกๆวันที่ 10 ของเดือน พร้อมนำภาพการไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ภาพการก่อสร้างโกดังเก็บสินค้า และขับรถยนต์หรูมาสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ร่วมลงทุน  ทำให้กลุ่มนักเรียนช่างเกือบ 200 คน หลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนตั้งแต่ 2 แสนบาท จนถึง 10 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท  

"ในช่วงแรก จ.ต.กานต์จ่ายเงินปันผลตรงเวลา จนกระทั่งเดือนก.พ. ที่ผ่านมาได้เริ่มผัดผ่อนขอค้างจ่ายเงินปันผล โดยอ้างว่าต้องนำเงินไปสต๊อกสินค้า ผู้เสียหายพยายามติดต่อทวงถามจนกระทั่งในเดือนเม.ย.ไม่มีใครสามารถติดต่อได้อีก ก่อนหน้านี้ได้ไปแจ้งความในท้องที่เกิดเหตุ แต่พบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกลวงกระจายในหลายจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ และพนักงานการบินไทย จึงรวมตัวกันมาร้องทุกข์ ที่กองปราบปราม และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่คดียังไม่คืบหน้าจึงมายื่นเรื่องที่ดีเอสไออีกครั้ง"ผู้เสียหายระบุ

 

 

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้เสียหายวงเงิน 100 ล้านบาท จากการลงทุนเทรดเงินแลกทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศ เข้ายื่นหนังสือต่อดีเอสไอ หลังถูกหลอกให้ลงทุนซื้อทัวร์ท่องเที่ยวไม่จำกัดเงินลงทุนขั้นต่ำ โดยผู้ลงทุนจะได้รับปันผลเป็นทริปท่องเที่ยวต่างประเทศปีละ 2 ครั้ง และยังได้เงินปันผลอีกร้อยละ 1.25 ต่อวัน ทำให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก

 

โดยนายณวัสน์  โรจธัญอังกูร ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า น.ส.ธนิดา พรมภิชัย อ้างว่าประกอบธุรกิจลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ หรือเทรดเงิน โดยชักชวนให้ผู้ร่วมลงทุนที่สนใจเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศนำเงินมาซื้อโปรแกรมทัวร์ แต่จะได้รับเงินปันผลรายวันเพิ่มเติม ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อไปชักชวนเพื่อน และญาติพี่น้องให้นำเงินมาร่วมลงทุน ซึ่งตนได้ไปเที่ยวตุรกีและสิงคโปร์จริง จึงทำให้ยิ่งหลงเชื่อและเพิ่มเงินลงทุนเป็น 5 ล้านบาท จนสุดท้ายไม่สามารถติดต่อกับน.ส.ธนิดา ได้

 

"ผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินไปร่วมลงทุนเพราะจากการติดตามเฟซบุ๊กของ น.ส.ธนิดา พบว่า ขับรถหรู ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย และโพสภาพขณะนำผู้ลงทุนไปท่องเที่ยวในต่างประเทศจริง หลังหลงเชื่อรวมลงทุนไปแล้วจึงรู้ว่าน.ส.ธนิดา มีประวัติหลอกลวง และฉ้อโกงมาตั้งแต่ปี 2559 แต่ไม่เคยถูกจับดำเนินคดี จนกระทั้งถูกจับตัวที่กระบี่และนำตัวฝากขังเมื่อ 3ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกปล่อยตัวเมื่อใด เพราะน.ส.ธนิดา มีญาติเป็นเจ้าหน้าที่ผู้คุม" นายณวัสน์กล่าว

 

 

น.ส.อิสรีย์ เหมศิริรัตน์ เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ระบุว่า ตนได้ร่วมลงทุนเทรดเงินกับน.ส.ธนิดา จำนวน 5 ล้านบาทจะต้องได้ตั๋วไปเที่ยวประเทศรัสเซียและสิงคโปร์ แต่น.ส.ธนิดา ถูกดำเนินคดีฉ้อโกงและเช็คเด้ง ขณะนี้ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ กลุ่มผู้เสียหายจึงมีความกังวลว่า หากน.ส.ธนิดาออกจากเรือนจำก็จะมีพฤติการณ์ไปหลอกลวงผู้อื่นอีก จึงต้องรวมตัวกันไปร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้ดีเอสไอ รับสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดทรัพย์ที่ได้ไปจากการกระทำความผิด