ข่าว

สะพัด พปชร.ทาบ"ผู้ว่าฯหมูป่า" ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ที่มา : หน้า 1 หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2562

 

 

          สะพัด พปชร.ทาบ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ด้านเจ้าตัวยันไม่ทราบเรื่อง ขณะที่ “ณัฏฐพล-ธนกร” เชื่อข่าวปล่อยหวังเช็กกระแส แต่ไม่ปิดทางยอมรับเป็นคนมีคุณภาพ ส่วน ปชป.คาดดึง “มาร์ค” ลงสนามเมืองกรุง เมินพรรคร่วมล็อบบี้ไม่ให้ส่งสมัครตัดคะแนนกัน

 

 

          สถานการณ์การเลือกตั้งท้องถิ่นและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เริ่มเข้มข้นขึ้นหลังจากบรรดาพรรคการเมืองเริ่มเฟ้นหาตัวบุคคลเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยมีการจับตาบรรดาหัวเมืองใหญ่ที่ใช้เป็นฐานคะแนนเสียงของพรรคการเมืองเป็นพื้นที่มีการแข่งขันสูงและต้องใช้บุคคลที่มีฐานเสียงหรือเป็นบุคคลซึ่งเป็นที่รู้จักและมีผลงานปรากฏให้เห็นด้วย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่เป็นเมืองหลวงซึ่งมีปัญหารอการแก้ไขหลายด้าน ทั้งนี้ตามไทมไลน์การเมืองคาดว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2562 ก่อนและหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เสร็จสิ้น จึงจะมีการเลือกตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่นต่างๆ ทั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) สมาชิกสภาเขต(ส.ข.) รวมทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) และล่าสุดมีกระแสข่าว พปชร.ทาบทามผู้ว่าฯ หมูป่าให้ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.นั้น


          เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐทาบทาม นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา หรือ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคว่า เท่าที่ทราบขณะนี้พรรคยังไม่มีการหารือในเรื่องนี้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเตรียมแถลงนโยบายรัฐบาล แต่ในความเห็นส่วนตัวเห็นว่านายณรงค์ศักดิ์เป็นคนที่มีความสามารถจากผลงานที่เราประจักษ์กันแล้วในภารกิจถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ก็เห็นว่ามีความเหมาะสม

 

 


          ด้านนายอุดร ออลสัน อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า พรรคได้แต่งตั้งนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นประธานคณะทำงานเพื่อพิจารณาคัดสรรตัวบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง อปท.ในรูปแบบพิเศษทั้ง กทม.และเมืองพัทยาภายในปี 2562 จากนั้นจะมีการเลือกตั้งนายก อบจ. เทศบาล และ อบต.


          รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแจ้งว่า สำหรับสนามเลือกตั้ง กทม. ล่าสุดพรรคได้ทาบทามนายณรงค์ศักดิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจ นอกจากนี้ยังมีนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) อดีตทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันทำหน้าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันพรรคจะส่งผู้สมัคร นายก อบจ.อีกหลายจังหวัด


          แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พรรคได้วางแผนที่จะผลักดัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แต่จากการสำรวจความนิยมเป็นการภายในและสอบถามจาก ส.ส.กทม.ในพรรค ต่างเชื่อว่าหากเสนอชื่อ พล.ต.อ.อัศวิน ก็แทบไม่มีโอกาสชนะเลย เพราะผลงานไม่เข้าตาในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในสายตาพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงชนชั้นกลางใน กทม. ที่ไม่พอใจการแก้ไขปัญหาเรื่องการจราจร และน้ำท่วม


          ดังนั้นมั่นใจว่าพรรคจะทาบทามนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ พะเยา ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม 2562 มาเป็นตัวแทนของพรรคในการลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. เพราะนายณรงค์ศักดิ์สร้างชื่อจากปฏิบัติการถ้ำหลวง ในการบริหารจัดการภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า อะคาเดมี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ เชียงราย แสดงให้เห็นถึงความมีภาวะผู้นำอย่างสูง จึงเป็นไปได้อย่างมากที่พรรคจะทาบทามมาลงชิงเก้าอี้แข่งกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ประเมินกันว่าต้องส่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคลงสมัครค่อนข้างแน่นอน


          “หากเราไม่สามารถส่งคนมีชื่อเสียงที่สูสีมาลงแข่งกับนายชัชชาติได้ เชื่อว่าเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ต้องอยู่ในมือของพรรคเพื่อไทยแน่ ส่วนของพรรคอนาคตใหม่นั้นเชื่อว่าจะไม่ส่งใครลงชิง แต่จะช่วยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย พรรคจึงต้องหาคนที่บิ๊กเนมพอจะชนกับนายชัชชาติได้” แหล่งข่าวในพรรคพลังประชารัฐระบุ


          ขณะที่ นายณรงค์ศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่รู้เรื่องดังกล่าว สื่อมวลชนนำไปเขียนเอง ตนไม่ทราบ ส่วนเรื่องความคิดเห็นต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น ขอไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ


          ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ว่า เรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นและสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคยังไม่ประชุมกันเลย การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คงต้องเปิดให้ผู้ที่สนใจมาสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐเพื่อให้แสดงวิสัยทัศน์ และขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรควางหลักเกณฑ์ 


          “ข่าวนี้ยังไม่ตรงเท่าไร และหากนายณรงค์ศักดิ์ต้องการลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จริง ก็ไม่รู้ว่าจะสนใจสมัครในนามพลังประชารัฐหรือไม่ อย่างไรก็ตามนายณรงค์ศักดิ์ถือเป็นคนที่มีคุณภาพจากผลงานเท่าที่สัมผัสได้ แต่ต้องมาดูการบริหารภาพรวมทั้งหมดด้วย ที่รับราชการมาหลายสิบปี ไม่สามารถดูได้ว่าจะมีพลังใน กทม.พอหรือเปล่า เพราะต้องยอมรับว่า กทม.มีความพิเศษในตัวเอง มีปัญหาอยู่มากมาย ท่านพร้อมหรือเปล่า ขณะเดียวกันก็มีคนที่พรรคดูๆ อยู่ มีที่ยังไม่แสดงความจำนงที่ชัดเจน และอยากจะลงในนามพรรคพลังประชารัฐหรือเปล่า เพราะพลังประชารัฐเป็นพรรคใหม่ หลายคนที่เรามองว่ามีศักยภาพอาจอยากไปลงพรรคอื่น เรี่องกระบวนการยังอีกนานมากกว่า” นายณัฏฐพลกล่าว


          เมื่อถามว่า เป็นการปล่อยข่าวเพื่อโยนหินถามทางเช็กกระแสนิยมหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ทุกคนที่มีชื่อออกมาขณะนึ้ ไม่ว่าจะผ่านกระบวนการของสื่อมวลชนหรือของพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อลองเช็กกระแสถ้ามีชื่อมาจริงประชาชนจะยอมรับหรือไม่ เป็นขั้นตอนธรรมดาเหมือนทำโพลล์อย่างไม่เป็นทางการ สำหรับพลังประชารัฐต้องมีการทำโพลล์เช่นเดียวกัน เมื่อได้บุคคลที่ชัดเจนที่สนใจจะมาลงในนามพรรคพลังประชารัฐเพราะเราต้องมั่นใจว่าคนที่เราจะส่งลงมีความสามารถ สร้างโอกาสในการชนะได้แค่ไหน ในฐานะที่เป็นพรรคที่มี ส.ส.กทม.เป็นจำนวนมากและมีคะแนนนิยมพรรคใน กทม.มากพอสมควร ต้องวางยุทธศาสตร์ดีๆ ตนผ่านการเลือกตั้งใน กทม.มากพอสมควร ทั้งสนามใหญ่และสนามเล็ก หรือ ส.ก. เราต้องระมัดระวังในการเดินหาคนที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ตรงนี้


          มีรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ว่า ในส่วนแคนดิเดตชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ยังสองจิตสองใจ เพราะแกนนำพรรคพลังประชารัฐได้มีการล็อบบี้ขอความร่วมมือไม่ให้ส่งคนชิงเก้าอี้ดังกล่าว เพราะจะเป็นการตัดคะแนนกันเอง แต่นายจุรินทร์และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าหากพรรคไม่ส่งชื่อใครลงชิงเลย อาจทำให้พรรคสูญพันธุ์ใน กทม.อย่างแท้จริงเหมือนการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมาก็ได้ จึงยังแบ่งรับแบ่งสู้กับพรรคพลังประชารัฐในเรื่องนี้อยู่


          แหล่งข่าว ระบุว่า ตอนนี้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ก็คิดหนักถึงผู้ที่จะลงชิงเก้าอี้เช่นกัน เพราะคนที่จะส่งลงพรรคต้องมั่นใจว่าจะชนะทั้งพรรคพลังประชารัฐและเพื่อไทย โดยมีตัวเลือกคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค แต่ประเมินกันว่านายอภิสิทธิ์จะไม่สนใจ เพราะเป็นนักการเมืองในระดับชาติ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี หากมาลงสนามท้องถิ่นอาจดูเหมือนลดศักดิ์ศรี แต่พรรคจะพยายามทาบทาม เพราะเชื่อว่าหากนายอภิสิทธิ์ลงก็มีความเป็นได้สูงที่พรรคจะชนะ


          “พรรคยังมีรายชื่อสำรอง คือ นายกรณ์ จาติกวณิช รวมถึง นายอภิรักษ์ เกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. หากนายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าจะไม่ลงสนามท้องถิ่น ซึ่งในส่วนของนายกรณ์ ทางพรรคก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะสนใจในการเมืองท้องถิ่นหรือไม่ ขณะที่นายอภิรักษ์ แม้เป็นอดีตผู้ว่าฯ กทม. และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่พรรคกลัวว่าจะถูกพรรคคู่แข่งนำผลงานในยุคนายอภิรักษ์มาโจมตี หากเสนอชื่อนายอภิรักษ์ก็ยังไม่รับประกัน ต่างจากนายอภิสิทธิ์ที่หากตัดสินใจลงสนาม เชื่อว่าจะทำให้พรรคฟื้นชีพใน กทม. และยังส่งผลดีต่อการเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข.ที่จะตามมาด้วย” แหล่งข่าวพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ