"ฉาย บุนนาค" ทำวงการหุ้นเหลียวมอง เปิดตัว "ตราสารบุญ" ฟันธงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด !?!
“ลึกซึ้ง ถึงแก่นแท้ชีวิต” .. ถือเป็นจุดเด่นสำหรับคอลัมน์ “พอเพียง อย่างพอใจ” ของ “ฉาย บุนนาค” ที่ตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตทั้งสุขและทุกข์ บนเส้นทางที่ก้าวเดินจากจุดเริ่มต้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แบบฉบับอนุบาล จนวันนี้ผ่านมานานถึง 12 ปี “ฉาย บุนนาค” ถือเป็นนักลงทุนหุ้นคนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับเรื่องมุมมองและผลสำเร็จในแง่การตัดสินใจลงทุน
ล่าสุด “ฉาย บุนนาค” ถ่ายทอดอีกหนึ่งบทเรียนการลงทุนตลาดหลักทรัพย์ในหัวข้อ “การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด” มีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจดังนี้...
“การลงทุน คือการใช้สอยทรัพยากรในวันนี้ เพื่อผลตอบแทนที่มากกว่าในวันข้างหน้า” ในเชิงพาณิชย์ การลงทุนคือการซื้อสินทรัพย์บางอย่างเพื่อหวังผลตอบแทนในอนาคต ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม เนื่องจากมนุษย์มีความต้องการที่หลากหลายและความพึงพอใจที่แตกต่างตามสถานะที่ไม่เหมือนกัน สินค้าเพื่อการลงทุน (Investment Products) มากมาย จึงถูกคิดค้นขึ้นเพื่อจับคู่กับความต้องการของนักลงทุน
ยกตัวอย่างเช่น ตราสารทุน (Equity Instruments) คือ ตราสารสิทธิ์ในกิจการ โดยผู้ถือตราสารทุนจะมีฐานะเป็น “เจ้าของกิจการ” ซึ่งจะมีส่วนได้เสียหรือมีสิทธิในทรัพย์สินและรายได้ของกิจการ แบ่งแยกได้หลายประเภทเช่น หุ้นสามัญ (Common Stock), หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock), ใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอแรนท์ (Warrant) และอื่นที่สามารถแปลงเป็นหุ้นหรือสิทธิ์การเป็นเจ้าของ
ตราสารหนี้ (Debt Instruments) คือ ตราสารทางการเงิน ในรูปของสัญญาทางการเงินระหว่างผู้ออกตราสารหนี้ และผู้ถือตราสารหนี้ จะเรียกง่ายๆ ก็คือสัญญากู้ยืมเงินที่ผู้ออกตราสารอยู่ในฐานะ “ลูกหนี้” เนื่องจากผู้ออกตราสารต้องการนำเงินไปลงทุน ส่วนผู้ซื้อจะอยู่ในฐานะ “เจ้าหนี้” แบ่งแยกได้หลายประเภทเช่น พันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) หุ้นกู้ (Corporate Bond) และตั๋วแลกเงิน (Bills of Exchange หรือ ตั๋ว B/E)
ฉาย บุนนาค กล่าวต่อว่า ก่อนที่ท่านจะเบื่อ ผมคงจะไม่อภิปรายลงลึกในรายละเอียดไปไกลกว่านี้ เพียงแต่ต้องการชี้ให้เห็นว่าการลงทุนมีได้หลายรูปแบบ ใครชอบเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ลุ้นมากลุ้นน้อย ใครถนัดแบบไหน คุ้นเคยแบบไหนก็เลือกกันเอา…
ส่วนตัวผมผ่านร้อนผ่านหนาวในทุกรูปแบบการลงทุน ประสบการณ์ที่ดีและร้ายมากมายที่เคยเล่าไปก่อนหน้า … ผ่านจุดตกต่ำและสูงสุดขีด ผมเสียเวลากว่า 12 ปี ตามหาหาสูตรสำเร็จของการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงและให้ผลลัพท์ที่น่าพอใจ … สุดท้ายเพียงเส้นผมที่บังภูเขา …
ผมในฐานะพุทธศาสนิกชน ผมเชื่อในกฏแห่งกรรม บาปบุญคุณโทษ เรื่องภพชาติในอดีตและอนาคต ผมโชคดีมีโอกาสได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อทิวา อาภากโร เรื่องการลงทุน … ใจความคำสอนกล่าวว่า นักธุรกิจที่ดี ที่ฉลาด นอกเหนือจากค้าขาย ก็ควรเร่งทำความดี มีสติ รักษาศีล หมั่นภาวนา และไม่เบียดเบียนผู้อื่น เพื่อสะสมบุญพร้อมเดินทางสู่ชาติหน้าและเข้าสู่กระแสของโลกุตรภูมิ
ผมไม่ได้หมายความให้นักลงทุนผู้อ่าน ทุ่มทำทานบริจาคทรัพย์จนเกินตัว เพื่อหวังว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นมหาเศรษฐี… หากแต่หวังในผู้อ่านอย่ามุ่งเน้นผลตอบแทนการลงทุนด้านวัตถุจนลืมคุณธรรม ศีลธรรมและจริยธรรม… หากมองรอบตัวท่านในแวดวงการลงทุน สิ่งที่หายากรองจากความยุติธรรมของผู้คุมกฏคือศีลธรรมในใจ … พูดได้ว่าหานักลงทุนรักษาศีล 5 บริสุทธิ์ นั้นยากจริงๆในวันนี้…
โดยสรุป การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของฉาย บุนนาค คือลงทุนในตราสารบุญ และละเว้นหลีกเลี่ยงการลงทุนในตราสารบาป … แน่นอน อดีตแก้ไขไม่ได้ แต่ปัจจุบันเราเลือกได้ในการลงทุนเพื่ออนาคตในวันข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง