ข่าว

"ฉาย บุนนาค" ย้อนอดีตเจอหมดสารพัดคำปรามาส "นักปั่นหุ้น?"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ฉาย บุนนาค" ย้อนอดีตเจอหมดสารพัดคำปรามาส "นักปั่นหุ้น?" จนรู้ทุกกระบวนท่าลงทุน (ไม่) ขาดทุน

กลับมาอีกครั้งกับประสบการณ์ตรงของ “ฉาย บุนนาค”  นักลงทุนตลาดหลักทรัพย์ที่หลายคนได้ยินแต่ชื่อ แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงวิธีคิด และเส้นทางการก้าวเดินกว่าจะขึ้นมาเป็นหนึ่งในบุคคลที่วงการหุ้นไทยให้การยอมรับ   จนกระทั่งวันหนึ่ง “ฉาย  บุนนาค”  ตัดสินใจยอมจัดสรรเวลามาเขียนบอกเล่าเรื่องราว  แง่มุมความคิดต่าง ๆ  จากการมีโอกาสได้เข้ามาเดินบนเส้นทางที่อาจสร้างฐานะร่ำรวยให้กับหลายๆ คน  แต่ก็มีอีกไม่น้อยต้องเจ็บตัวเพราะการขาดทุน !!!

จากขีดขั้นของความรู้  ความเข้าใจในตลาดหุ้นที่ “ฉาย  บุนนาค”  เรียกว่าเป็นระดับอนุบาล  เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ๆ ก่อนจะเริ่มต้นพ้นหนทางที่ทำให้ตัวเลขการลงทุนมีผลกำไรเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม “เงิน”  หรือ คำว่า “กำไร”   ก็ไม่ได้สำคัญที่สุดสำหรับ  “ฉาย บุนนาค” ในทางตรงข้ามเขาค้นพบคำว่า "ชีวิต"  ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก ??

ล่าสุด  "ฉาย  บุนนาค"   เขียนบทความชิ้นใหม่ที่บทลงท้ายน่าสนใจว่า    " “เค้า” คนนี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เค้าก็คือความโลภของคุณเอง … คือตัวร้ายที่แท้จริงแห่งตลาดหุ้น ผม...เผชิญกับจุดเปลี่ยนและความล้มเหลวครั้งใหญ่อีกครั้งในชีวิต  แต่นั้นทำให้ผมได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่าง … สิ่งนั้นชื่อว่า “เด็กชายพอเพียง” !!!

ชีวิตบนทางแยกริมขอบเหวของ Angry Young Man  คนหนึ่ง ที่ไร้ครูชี้นำ ที่ซึมซับทุกศาสตร์แห่งตลาดทุน จากทุกกูรู ไม่ว่าด้านมืดและด้านสว่าง กลับมาโลดแล่นอีกครั้งหลังใช้หนี้หมด   ผมทำกำไรหลายสิบล้านบาท มากเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ หากถามถึงเป้าหมาย ณ วันนั้น มีคำเดียวจะสังเขปได้ดีที่สุด คือ “MORE” หรือมากกว่านี้ ผมเล่นหุ้นอีกครั้งอย่างมั่นใจและไร้สติ ผมมีพรรคพวกนักลงทุนมากมาย

ในด้านวัตถุชีวิต  ผมสุขสบายขึ้นมากเป็นทวีคูณ   ควบคู่ไปกับกิเลส   ตัวโลภะ ที่ทำหน้าปิดตาและกระซิบข้างหูตลอดเวลาให้ผมไม่รู้จักพอ…

ในด้านจิตใจผมร้อนรุ่มและแสวงหาโอกาสในทุกเวลาลมหายใจเข้าออก…ผมชนะเชิงทฤษฎี ชนะทางตัวเลขกำไร … แต่ผมกำลังจะแพ้ในเชิงกฎหมายอย่างไม่รู้ตัว !!

โชคที่เข้าข้าง  ส่งผลกำไรอันมากมาย   หลั่งไหลมาพร้อมคำชื่นชมและสรรเสริญ  สร้างความมั่นใจจนเกินพอดี ทำให้ผมสำคัญตนผิด คิดว่าเรานั้นช่างเก่งกล้า  ทุกความคิดสะท้อนเป็นการแสดงออกที่น่าหมั่นไส้ของผม

ช่วงนั้นผมเล่นหุ้นเหมือนการพนัน ผมไม่เคยรู้กฎระเบียบ และไม่คิดจะศึกษามัน ความผิดพลาดนั้นส่งผลให้ผมถูกเปรียบเทียบปรับจาก ก.ล.ต. ผมผิดพลาดเพราะติดกับอยู่ในแนวคิดว่า “การที่เห็นคนอื่นทำสิ่งผิดแล้วไม่ถูกจับ…ไม่ได้หมายความว่าเราทำได้แล้วไม่ผิด”

 

ฉาย บุนนาค กล่าวอีกว่า หลายคนคิดว่าผมคือไม้เบื่อไม้เมากับ ก.ล.ต. … ผมไม่เคยโกรธหรือไม่ชอบ ก.ล.ต. … แม่ผมทำงานเป็นผู้ตรวจสอบภายในของ บง. เอกธนกิจ กว่า 15 ปี โดยน้ำพักน้ำแรงจากอาชีพนี้ หล่อเลี้ยงให้ผมเติบโตและได้รับการศึกษาเล่าเรียน … แล้วผมจะไม่เข้าใจผู้มีหน้าที่ตรวจสอบได้อย่างไร!

 

ผมสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนที่ยั่งยืนและการปกป้องผู้ถือหุ้นทุกรายเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายย่อย… หากแต่นโยบายที่ดีกับความตั้งใจที่ดีจะส่งผลร้ายมากกว่าหากดุลพินิจการบังคับใช้เป็นไปอย่างไม่เป็นธรรม  … โดยคนในโลกไม่มีใครเลวไปซะทุกอย่าง  และไม่มีใครดีไปทุกอย่าง

 

ช่วงปี พ.ศ.2550-2552 ผมได้เข้าศึกษาปริญญาโทจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ คู่ขนานไปกับการศึกษางานที่ปรึกษาการเงินด้านโครงสร้างทุน โดยผมใช้วิธีเดิมคือการช่างค้นคว้าและช่างซักชักถาม


 

ฉายา "พ่อมดน้อย" และนิทานเรื่องราวมหากาพย์มากมายถูกเล่าขานเกี่ยวกับผมอย่างเกินจริง ทั้งในบทบาทของ"เทพและมารร้าย" ราวกับผมคือผู้หยั่งรู้ทุกอย่าง และสามารถเนรมิตหุ้นขึ้น-ลงได้ดั่งใจหวัง 

 

ความจริงผมก็คือมนุษย์อาชีพนักลงทุน ที่พลาดพลั้งและตัดสินใจผิดเป็นเหมือนคนปกติ ผมกลายเป็นบุคคลที่ทั้งควรรัก ทั้งควรเกลียด คนมากมายมองผมเป็น “นักปั่นหุ้น” ที่น่ากลัว…  แต่ทุกคนก็จะถามผมทุกครั้งที่พบหน้าว่า "ซื้อหุ้นตัวไหนดี ?"

 

อีกด้านของความจริงในสังคมผลประโยชน์ คือ  มีเจ้าของบริษัทในตลาดหุ้นมากมายกว่า 50 บริษัท  เคยพยายามทาบทามและขอผมให้ซื้อหุ้นหรือเข้าไปเก็งกำไร   หากแต่เวลาพวกเขาพบเจอผมในที่สาธารณะจะทำเป็นไม่รู้จักผม เพราะกลัวเสียภาพพจน์ … 
 

บทบาทน่าเศร้าของ   ฉาย บุนนาค      บทเรียนเหล่านี้สอนให้ผมเข้าใจโลกมากขึ้นในวันนี้ … คนเหล่านี้จะทิ้งคุณแน่นอน หากมีปัญหาหรือเมื่อคุณหมดประโยชน์เกี่ยวกับการแนะนำการลงทุน   ผมขอเตือนผู้อ่านทุกท่านว่าหากรักใครอย่าชวนกันซื้อหุ้น 

 

"หุ้น" แปลว่า "หน่วยลงทุนซึ่งร่วมกัน" แต่ทุกครั้งที่ชวนซื้อร่วมกันมักทะเลาะกัน นี่แหล่ะคือความอัปลักษณ์ของตลาดหุ้น… 
หลายครั้งที่ผมเห็นคนทะเลาะ โกรธแค้น เกลียดแทบฆ่ากันก็เพราะหุ้นและผลประโยชน์ แม้แต่สายเลือดก็หยุดปัญหานี้ไม่ได้
แล้วมันคุ้มหรือ ที่นำมิตรภาพมาเสี่ยงกับแค่ความหวังดีในการแนะนำหุ้นที่เราควบคุมไม่ได้กับผลลัพธ์มัน? 
  


ประโยคยอดนิยมที่เรามักได้ยินกันคือ "เค้าบอกให้เก็บหุ้น… เค้าบอกว่าเจ้ามือจะเล่น… เค้าบอกว่าหุ้นนี้ดี…" แล้ว “เค้า”ที่ว่าคือใคร?

“เค้า” คนนี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เค้าก็คือ ความโลภ ของคุณเอง … คือตัวร้ายที่แท้จริงแห่งตลาดหุ้น ??
 
 

หลังจบมาได้ไม่นาน   ผมก็เผชิญกับจุดเปลี่ยนและความล้มเหลวครั้งใหญ่อีกครั้งในชีวิต แต่นั้นทำให้ผมได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่าง … สิ่งนั้นชื่อว่า “เด็กชายพอเพียง” !!?!!

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ