ระดมทำฝนทั่วประเทศเพิ่มน้ำ 197 เขื่อน

 

                     28  เมษายน 2562 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2562 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 7 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก ลพบุรี กาญจนบุรี อุดรธานี นครราชสีมา จันทบุรี หัวหิน

 

                  ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง บรรเทาฝุ่นละออง เพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่ป่าไม้ และยับยั้งความรุนแรงของพายุลูกเห็บ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคบางส่วนของ จ.ลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ กาญจนบุรี อุทัยธานี นครราชสีมา สระแก้ว เพชรบุรี พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ อ่างเก็บน้ำกระเสียว ตลอดจนยับยั้งความรุนแรงของพายุลูกเห็บทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณ จ.เพชรบูรณ์และสกลนคร

 

                     ทั้งนี้ ปัจจุบันพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ออกประกาศ พื้นที่ภัยแล้งใน 5 จังหวัด (รวม 15 อำเภอ 46 ตำบล 322 หมู่บ้าน) ได้แก่ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ นครราชสีมา ตราด และชลบุรี จากข้อมูลปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มรับน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุ ขณะนี้มีเขื่อน/อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 14 แห่ง และขนาดกลาง จำนวน 183 แห่งทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและจะขึ้นปฏิบัติการช่วยเหลือทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย

 

 

                     สำหรับแผนปฏิบัติการฝนหลวงวันที่ 26 เมษายน  ภาคตะวันออก มีความชื้นและการยกตัวของเมฆที่เข้าเงื่อนไขระดับกว่า 60% ตัดสินใจขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณ อ.ปลวกแดง พัฒนานิคมบ้านค่าย จ.ระยอง และอ.บางละมุง สัตหีบ จ.ชลบุรีรวมทั้งพื้นที่ภาคกลาง ขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณ อ.ไทรโยค เมืองกาญจนบุรี พนมทวน เลาขวัญ หนองปรือ จ.กาญจนบุรี และอ.ด่านช้าง ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี และหน่วยปฏิบัติการฯ จ.ลพบุรี จึงตัดสินใจขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณ อ.ท่าตะโก ตากฟ้า ไพศาลี หนองบัว จ.นครสวรรค์ และอ.หนองม่วง บ้านหมี่ จ.ลพบุรี       

 

                     พื้นที่ภาคเหนือ ขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคบริเวณ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และอ.พรหมพิราม วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก และพื้นที่การเกษตรของ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ด้านหน่วยปฏิบัติการฯ จ.เชียงใหม่ ขอติดตามสภาพอากาศ หากมีความเหมาะสมจะวางแผนช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร รวมถึงพื้นที่ประสบปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควัน ไฟป่าทันที

 

 

                     พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อดรธานี ขึ้นปฏิบัติการเพื่อเติมน้ำ  ในบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ และหน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา ตัดสินใจขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคบริเวณ อ.เฉลิมพระเกียรติ สูงเนิน เมืองนครราชสีมา โนนสูง จ.นครราชสีมา และอ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ รวมถึงพื้นที่การเกษตรบริเวณ อ.ปราสาท  จ.สุรินทร์

 

                     พื้นที่ภาคใต้ หน่วยฯหัวหิน ขึ้นปฏิบัติการเพื่อเติมน้ำในพื้นที่อ่างเก็บน้ำสำนักห้วยไม้เต็งและพื้นที่อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก บริเวณ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และพื้นที่การเกษตรบริเวณ อ.โพธาราม จอมบึง ปากท่อ จ.ราชบุรี ด้านหน่วยปฏิบัติการฯ จ.สงขลาและหน่วยฯ จ.สุราษฎร์ธานี ขอติดตามสภาพอากาศ หากมีความเหมาะสมจะวางแผนช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร พื้นที่ป่าพรุ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป