ข่าว

ยกระดับผู้เลี้ยงโค ! รองรับเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กษ.ทุ่ม 25 ล้าน ยกระดับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ-โคขุน เพิ่มคุณภาพโคขุนในประเทศ รองรับเปิดเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลียปี 63

 

 

              17 ธันวาคม 2561 นางอัญชนา  ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  จากที่กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ (กองทุน FTA)  

 

 

                ได้อนุมัติงบประมาณให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อไปแล้ว 7 โครงการ 176 ล้านบาท เพื่อรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า โดยเฉพาะกรอบการค้าไทย - ออสเตรเลีย ซึ่งในปี 2563 จะสิ้นสุดมาตรการปกป้องพิเศษ (SSG) ส่งผลให้การนำเข้าสินค้าเนื้อโคจากออสเตรเลียไม่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า ทำให้ราคาเนื้อโคนำเข้าจากต่างประเทศมีราคาถูกลง

 

               โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ทางกองทุน FTA ได้อนุมัติงบประมาณกว่า 25 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2559 – 2565 แก่สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคขุนในเขตปฏิรูปที่ดินปางศิลาทอง จำกัด จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อให้สมาชิกมีอาชีพ มีรายได้ เกษตรกรมีความรู้ ทักษะในการเลี้ยงโคแม่พันธุ์ และโคขุนอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถจัดทำแปลงหญ้า ปลูกพืชอาหารสัตว์ คิดสูตรอาหารและนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเป็นอาหารโคเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยมีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการของสหกรณ์

 

                การดำเนินกิจกรรม ประกอบด้วย จัดอบรมเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถในการเลี้ยงโคเนื้อให้มีประสิทธิภาพให้แก่เกษตรกรสมาชิก โดยมีกรมปศุสัตว์เป็นพี่เลี้ยงในการติดตามและให้คำปรึกษาการเลี้ยงโค เป็นระยะเวลา 4 ปี  มีการสนับสนุนปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อเป็นพืชอาหารสำหรับเลี้ยงโคในพื้นที่ รายละ 1 ไร่ ซึ่งจะสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิต และภายหลังการฝึกอบรม กองทุน FTA  ได้ให้การสนับสนุนเงินยืมปลอดดอกเบี้ยเพื่อจัดหาโคแม่พันธุ์และโคเพศผู้ให้แก่เกษตรกรที่ผ่านการฝึกอบรม

 

              โดยจัดหาโคสาว รายละ 5  ตัว จำนวน 50 ราย รวม 250 ตัว เพื่อเร่งผลิตโคแม่พันธุ์ที่ลดจำนวนลง และจัดหาโคเพศผู้ น้ำหนักตัวประมาณ 200 - 250 กิโลกรัม เพื่อเลี้ยงเป็นโคขุน รายละ 8 ตัว จำนวน 50 ราย รวม 400 ตัว นอกจากนี้ ได้พัฒนาประสิทธิภาพ และคุณภาพในการผลิตโคเนื้อมีชีวิต ให้มีมาตรฐานสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ โดยมีศูนย์การเรียนรู้การเลี้ยงโคขุนให้แก่สมาชิกและผู้เลี้ยงโค 1 ศูนย์

 

              จากการติดตามของผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2559 - 2561 สศก. พบว่า เกษตรกรที่เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร  “การเลี้ยงโคเนื้อคุณภาพ” จำนวน 100 ราย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 96 มีการนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการเลี้ยงโคได้ตามมาตรฐานที่กำหนด และมีสมาชิกที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ มีความสนใจที่จะเข้าร่วมและหันมาสนใจอาชีพเลี้ยงโคเพิ่มขึ้น

 

              ด้านกิจกรรมการเลี้ยงโคเนื้อ พบว่า การเลี้ยงโคเนื้อแม่พันธุ์ สหกรณ์ได้จัดหาโคแม่พันธุ์ให้สมาชิกครบ 250 ตัว เพื่อผลิต โคขุนต้นน้ำ แก้ปัญหาการขาดแคลนโค โดยปัจจุบันมีลูกโคที่เกิดใหม่เพิ่มขึ้นรายละ 4 - 5 ตัว  และสหกรณ์ได้จัดหาโคเพศผู้เพื่อเลี้ยงเป็นโคขุน ให้แก่สมาชิกจำนวน 400 ตัว ซึ่งภายหลังการขุนเป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่า เกษตรกรสมาชิก มีกำไรจากการจำหน่ายโคขุนให้แก่สหกรณ์ ประมาณ 5,600 บาท/ตัว  สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโครงการที่มีกำไร ไม่เกิน 4,000 บาท/ตัว ทั้งนี้ สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจะจำหน่ายโคให้กับสหกรณ์ในราคาประกัน โดยสหกรณ์ประกันราคาโคขุนที่กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งราคาตลาดทั่วไปรับซื้อโคขุนที่กิโลกรัมละ 85 บาท

 

               นอกจากนี้ เกษตรกรยังมีรายได้จากการรวบรวมมูลโคในฟาร์มและจำหน่ายมูลโค รายละประมาณ 1,000 - 2,000 บาท ต่อเดือน จึงนับได้ว่าโครงการดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาคุณภาพในการผลิตสินค้าโคเนื้อให้สามารถแข่งขันกับ  โคเนื้อที่นำเข้าจากต่างประเทศได้

 

              สำหรับกลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์ผู้ผลิตสินค้าโคเนื้อ รวมทั้งผู้ที่จะเสนอขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ในสินค้าเกษตรอื่น ๆ สามารถจัดทำเป็นโครงการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการเปิดเสรีทางการค้า (Free Trade Area : FTA) ซึ่งโครงการที่เสนอต้องเป็นโครงการช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับเกษตรกร มีความเป็นไปได้ทั้งการผลิตและการตลาดโดยใช้ตลาดนำการผลิตและคุ้มค่าในการลงทุน  

 

              โดยสามารถเสนอโครงการฯ ผ่านหน่วยงานราชการระดับกรม เพื่อส่งต่อให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ส่วนบริหารกองทุนภาคเกษตร เบอร์โทรศัพท์ 0 2561 4727

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ