"ผ่าตัดวันเดียวกลับ" บรรลุเป้า9เดือน ผู้ป่วยรับบริการ9กลุ่มโรค2,176ราย ผ่าตัดไส้เลื่อนสูงสุด761ราย พื้นที่เขต2ให้บริการมากสุด345ราย
ผลเปรียบเทียบผ่าตัดปกติต้องนอนใน รพ. ภาพรวมลดวันนอน รพ.ได้ถึง 3,826 วัน ช่วยเพิ่มเตียงว่างดูแลผู้ป่วยโรคอื่น ทั้งลดค่าใช้จ่าย รพ. ทั้งค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายทางอ้อมของผู้ป่วยและญาติ ปี2562เตรียมขยายบริการกลุ่มโรคอื่นเพิ่มเติม
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ (one day surgery : ODS)เป็นการดำเนินตามยุทธศาสตร์รัฐบาล ตามแนวทางการพัฒนาประเทศไทยThailand 4.0ด้านการสาธารณสุข โดยในปี2560คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ สปสช. กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม ส่งเสริมการรักษาแบบผ่าตัดวันเดียวกลับ ต่อมากรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข,ราชวิทยาลัยแพทย์,สมาคมและองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือพัฒนาระบบบริการผ่าตัดวันเดียวกลับในการดูแลผู้ป่วย สปสช.ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนได้ทำการปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายชดเชยค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขรักษาพยาบาลเพื่อรองรับและได้ออกเป็นประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายบริการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ พ.ศ.2561
ทั้งนี้ การบริการผ่าตัดวันเดียวกลับประกอบด้วย12กลุ่มโรค ได้แก่1.โรคไส้เลื่อนขาหนีบ (Inguinal hernia)2.โรคถุงน้ำอัณฑะ (Hydrocele)3.โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid)4.ภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด (Vaginal bleeding)5.หลอดเลือดดำของหลอดอาหาร กระเพาะอาหารขอด (Esophageal varices, Gastric varices)6.ภาวะหลอดอาหารตีบ (Esophageal stricture)7.โรคมะเร็งหลอดอาหารระยะลุกลามที่อุดตัน (Obstructive esophageal cancer/tumor)8.ติ่งเนื้องอกลำไส้ใหญ่ (Colorectal polyp)9.นิ่วในท่อน้ำดี (Bile duct stone)10.นิ่วในท่อตับอ่อน (Pancreatic duct stone)11.ภาวะท่อน้ำดีตีบ (Bile duct stricture) และ12.ภาวะท่อตับอ่อนตีบ (Pancreatic duct stricture) โดยมีหน่วยบริการที่สามารถให้บริการได้จำนวน103แห่งกระจายอยู่ในทุกเขตทั่วประเทศ
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า จากการให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคม– 20กันยายน2561มีผู้ป่วยเข้ารับบริการผ่าตัดวันเดียวกลับจำนวน2,176ครั้ง กลุ่มโรคที่ผู้ป่วยรับบริการผ่าตัดวันเดียวกลับมากที่สุด3อันดับแรก ได้แก่ โรคไส้เลื่อนขาหนีบ มีผู้ป่วยรับบริการมากที่สุดจำนวน761ราย รองลงมาหลอดเลือดดำของหลอดอาหาร กระเพาะอาหารขอด จำนวน388ราย และติ่งเนื้องอกลำไส้ใหญ่ จำนวน349ราย ทั้งนี้จาก12กลุ่มโรคที่ให้บริการ มี3กลุ่มโรค คือ โรคมะเร็งหลอดอาหารระยะลุกลามที่อุดตัน นิ่วในท่อตับอ่อน และภาวะท่อตับอ่อนตีบ ยังไม่มีข้อมูลเบิกจ่ายจากหน่วยบริการ สำหรับในส่วนข้อมูลบริการเมื่อแยกตามพื้นที่พบว่า พื้นที่ เขต2มีอัตราบริการผ่าตัดวันเดียวกลับมากที่สุด จำนวน345ราย รองลงมาเขต5จำนวน342ราย และเขต1จำนวน296ราย
จากข้อมูลจำนวนบริการรักษาผ่าตัดวันเดียวกลับข้างต้นนี้ ได้มีการประมวลผลและเบิกจ่ายแล้ว22.89ล้านบาท แต่ผลที่ได้รับสามารถลดวันนอนและลดค่าใช้จ่ายทางอ้อมของญาติได้ รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการบริการของโรงพยาบาล ทำให้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการอื่นในการนอนโรงพยาบาล
“จากการสอบถามความพึงพอใจผู้รับบริการ ภาพรวมผู้ป่วยให้คะแนนความพึงพอใจบริการผ่าตัดวันเดียวกลับเฉลี่ย 4.58 คะแนน จาก 5 คะแนน ซึ่งการบริการผ่าตัดวันเดียวกลับนี้ได้ลดวันนอนจากการเป็นผู้ป่วยในเพื่อรับการผ่าตัดรักษาจากจำนวน 5,777 วัน เหลือเพียง 1,951 วัน คิดเป็นจำนวนวันนอนที่ลดลงถึง 3,826 วัน ช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล และทำให้มีเตียงว่างเพื่อรองรับบริการผู้ป่วยในโรคอื่นเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ยังลดค่าใช้จ่ายทั้งของโรงพยาบาลและผู้ป่วยได้ รวมถึงการเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ซึ่งในปี2562คาดว่าจะมีการขยายการผ่าตัดวันเดียวกลับไปยังกลุ่มโรคอื่นๆ เพิ่มเติมต่อไป นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อดูแลสุขภาพคนไทย” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง