ข่าว

ปปช.ลุยเองลงพื้นที่สุ่มเสี่ยงแป๊ะเจี๊ยะโรงเรียนดัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ป.ป.ช."ตั้ง"บุณยวัจน์"นั่งปธ.อนุกรรมการหามาตรการป้องกันเรียกรับ"แป๊ะเจี๊ยะ"เข้าโรงเรียนดัง จ่อลงพื้นที่สุ่มเสี่ยง หวังป้องปรามก่อนทำข้อเสนอชงครม.

           15 มี.ค.61 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงถึงปัญหาการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา (แป๊ะเจี๊ยะ) ว่า เป็นปัญหาสำคัญ จากรายงานขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : TI) ประจำปี 2017 เปิดเผยข้อมูลความเห็นของคนไทยว่าการจ่ายสินบนเพื่อให้ได้รับบริการของรัฐและบริการของโรงเรียน เป็นปัญหาลำดับต้น ๆ สมควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษามาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา โดยมี พล.อ. บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ

​             นายวรวิทย์ กล่าวว่า ผลการศึกษาพบว่าแม้การเรียก รับหรือยอมจะรับ แป๊ะเจี๊ยะ จะเป็นการสมยอมกันของผู้ปกครองกับผู้มีอำนาจของสถานศึกษา เพื่อให้บุตรหลานได้เข้าเรียนในสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง ดี เด่น ดัง ซึ่งมีการแข่งขันสูง เป็นเพราะผู้ปกครองมีความเชื่อว่า คุณภาพทางการศึกษาของแต่ละสถานศึกษามีความแตกต่างกัน ทำให้เกิดช่องทางในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในรูปแบบของการเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด รวมถึง เงินบริจาค ให้สถานศึกษาหรือสมาคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อแลกกับการได้รับโควตาพิเศษให้บุตรหลานได้เข้าเรียน ซึ่งการบริจาคเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์หรือมีเงื่อนไขผูกพันที่จะให้ประโยชน์ต่อผู้ใดโดยเฉพาะ จึงมิใช่ความหมายของการบริจาคที่แท้จริง 

             ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยวินิจฉัยคดีไว้เมื่อปี 2550 ว่าเงินบริจาค หมายถึง เงินที่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ แต่หากเป็นการให้เงินเพื่อตอบแทนการกระทำการใด ๆ จึงเป็นเงื่อนไขต่างตอบแทนไม่อาจถือเป็นเงินบริจาคได้ ผู้รับมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานรับสินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ผู้ให้มีความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 และยังมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. ด้วย

              ​เพื่อเป็นการป้องปรามและลดปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะในช่วงรับนักเรียน ปีการศึกษา 2561คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเห็นชอบมาตรการระยะสั้นเร่งด่วน ดังนี้ 1.ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2561 ของสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานศึกษาที่มีอัตราการแข่งขันสูง

              2.เร่งประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจให้เจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครองนักเรียน และประชาชน ทราบถึงความผิดและบทลงโทษ รวมทั้งการแจ้งเบาะแสกรณีการเรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียน โดยเฉพาะกรณีการบริจาคเพื่อให้ได้ประโยชน์ตอบแทน ถือว่าเป็นสินบน มีความผิดทั้งผู้ให้และผู้รับสินบน ตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมาย ป.ป.ช. 

            "สำหรับมาตรการในระยะยาวและมาตรการอื่น ๆ เพื่อป้องกันปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการ เร่งพิจารณาจัดทำมาตรการและข้อเสนอแนะเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามลำดับ ซึ่งการเสนอมาตรการต่อคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามกฎหมาย" เลขาฯป.ป.ช. กล่าว

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ