กรมคุกไล่ออก-ปลดออก 18 ผู้คุม

          8 ก.พ. 61 - พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยภายหลังการประชุม อ.ก.พ.กรมราชทัณฑ์ ครั้งที่ 1/2561 ณ ว่า ที่ประขุมมีมติพิจารณาลงโทษข้าราชการกรณีกระทำผิดวินัย จำนวน 18 ราย โดยให้ไล่ออกจากราชการ จำนวน 14 ราย มีพฤติการณ์ต่างๆ ได้แก่ 1.เรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องขัง เพื่อให้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ต้องขังคณะทำงานภายนอกเรือนจำ 2.นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ 3.ถูกร้องเรียนใช้อำนาจหน้าที่ราชการในการเรียกรับเก็บเงินจากผู้ว่าจ้างแรงงานผู้ต้องขังเย็บรองเท้า นอกเหนือจากที่ได้ทำสัญญากับเรือนจำ 4.รู้เห็นเป็นใจปล่อยปละละเลยให้ผู้ต้องขังมีและใช้โทรศัพท์มือถือในเรือนจำ (จำนวน 3 ราย)

          5. ลักลอบนำยาทรามาดอล ซึ่งรับประทานแล้วมีอาการมึนเมา จำนวน 1,993 เม็ด เข้ามาให้ผู้ต้องขังภายในเรือนจำ 6.ไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการติดต่อกันเกิน 15 วัน (จำนวน 3 ราย) 7.ร่วมกันข่มขืนใจและหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น 8.เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์เข้าไปในเรือนจำโดยผิดกฎหมาย 9.ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม และ 10.เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2559 ชุดปฏิบัติการกรมราชทัณฑ์ จู่โจมตรวจค้นเรือนจำ พบโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ซิมการ์ดและอุปกรณ์ชาร์จอีกจำนวนหนึ่ง

          อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมมีมติปลดออกจากราชการ จำนวน 1 ราย  มีพฤติการณ์ต่างๆ ได้แก่ มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับภรรยาของผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีมติให้ออกจากราชการ เพราะมีมลทินมัวหมอง จำนวน 3 ราย มีพฤติการณ์ต่างๆ ได้แก่ 1.ซุกซ่อนแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อก่อนเข้าเรือนจำ 2. มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยสนทนากันทางอินเทอร์เน็ตกับบุคคลภายนอกว่าสามารถจัดหายาบ้าและยาไอซ์ให้ได้ และ 3.เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ชุดปฏิบัติการกรมราชทัณฑ์จู่โจมตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือและสิ่งของต้องห้ามหลายรายการในเรือนจำ
          ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ยังได้พิจารณาดำเนินการทางวินัยข้าราชการไม่ร้ายแรงตามพระราชบัญญัติข้าราชการกรมราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2482 และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 อีกจำนวน 193 ราย ซึ่งกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งลงโทษข้าราชการดังกล่าวแล้วตามประเภทความโทษ ได้แก่ ลดเงินเดือน 8 ราย ตัดเงินเดือน 36 ราย ภาคทัณฑ์ 8 ราย เพิ่มเวรยาม 73 ราย กักบริเวณ 2 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 14 ราย และกำชับถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ 52 ราย  
          พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวด้วยว่า กรมราชทัณฑ์ได้วางแนวทางการดำเนินการตามนโยบายอย่างชัดเจนในเรื่องของการปฏิบัติงานตามแนวทาง 3 ส 7 ก ซึ่งทิศทางของ 3 ส ในการปฏิบัติงาน ได้แก่ สะอาด สุจริต และเสมอภาค โดยเน้นย้ำให้ข้าราชการในสังกัดกรมราชทัณฑ์ ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด แต่ยังมีข้าราชการส่วนน้อยที่มีพฤติการณ์กระทำผิด และกรมราชทัณฑ์ มิได้นิ่งเฉยต่อการกระทำของบุคคลเหล่านั้นแต่อย่างใด ซึ่งในแต่ละปีกรมราชทัณฑ์ ดำเนินการพิจารณาลงโทษข้าราชการที่กระทำผิด เพื่อมิให้เป็นแบบอย่างกับข้าราชการอื่นๆ ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมภายนอกในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่กรมราชทัณฑ์.