ปตท. ร่วมเป็นหนึ่งพลังลดโลกร้อน 'ปิดไฟเพื่อโลก' เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

นับเป็นกิจกรรมรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมระดับนานาชาติ ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกกับการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม 60+ EARTH HOUR ที่จัดเป็นประจำทุกๆ ปี ในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา

60+ EARTH HOUR เป็นโครงการรณรงค์ให้ร่วมปิดไฟเป็นเวลา 60 นาที เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทั่วโลกหันมาตระหนักถึงปัญหาเรื่องภาวะโลกร้อนมากขึ้น ด้วยการร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ผ่านการลดการใช้ไฟฟ้า เพื่อลดโลกร้อน และลดก๊าซเรือนกระจก 

โครงการดังกล่าว ริเริ่มขึ้นโดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ร่วมกับพันธมิตร จัดกิจกรรมครั้งแรกขึ้นที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2550 โดยได้ดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 14 ปีแล้ว และได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือจากทั่วทุกมุมโลกเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ซึ่งล่าสุดในปี 2564 นี้ มีประเทศและเขตการปกครองเข้าร่วมมากกว่า 190 ประเทศ

และในประเทศไทยได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ครั้งแรกในปี 2551 ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชนร่วมกันปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น โดยตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการ ตั้งแต่ปี 2551 – 2563 ประเทศไทยสามารถลดการใช้กระแสไฟฟ้าได้ถึง 22,369 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าไฟฟ้าที่ลดลง 80.97 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12,227 ตัน

ในปีนี้กรุงเทพมหานครร่วมกับองค์การ WWF ประเทศไทยและภาคีเครือข่ายร่วมจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน” (60+ Earth Hour 2021) ตั้งแต่เวลา 20.30 – 21.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อลดโลกร้อน โดยปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับอาคาร ป้ายโฆษณา รวมถึงการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน และลดการใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือนพร้อมกัน

และหนึ่งในบริษัทรัฐวิสาหกิจอย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน จึงได้มีการปิดใช้งานไฟเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ในอาคารสำนักใหญ่ของ ปตท. ด้วยเช่นกัน

โดยผลของโครงการ 60+ Earth Hour 2021 จากการปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าสามารถลดการใช้ไฟฟ้าไปได้ 29.4 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการปัญหาโลกร้อนได้ถึง 8.4 ตัน เมื่อเทียบกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้า ซึ่งปีนี้ได้ปรับวิธีการวัดเป็นไปตามหลักสากล จึงไม่สามารถนำผลของปีนี้ไปเทียบกับปีที่แล้วได้
ถือเป็นโครงการความร่วมมือระดับโลก ที่ผู้คนจากทั่วทุกทวีปได้ร่วมส่งต่อความห่วงใยต่อสภาพแวดล้อมของโลกใบนี้ ผ่านกิจกรรมที่จะช่วยกระตุ้นจิตสำนึกให้ทุกคนได้ร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่า ถอดปลั๊ก ปิดสวิตช์ ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมร่วมกัน