Lifestyle

ภัยเงียบจากสารพิษตกค้างในผักผลไม้แค่ล้างน้ำเปล่า ทำไมยังไม่สะอาดพอ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผักและผลไม้ที่ดูสดใหม่ฉ่ำสวยที่พวกเรามักรับประทานกันเพื่อสุขภาพที่ดี ทราบหรือไม่ว่า แท้จริงแล้วอาจมีอันตรายแฝงมาจากสารพิษตกค้าง อันเนื่องจากการใช้สารเคมีต่างๆ

ผักและผลไม้ที่ดูสดใหม่ฉ่ำสวยที่พวกเรามักรับประทานกันเพื่อสุขภาพที่ดี ทราบหรือไม่ว่า แท้จริงแล้วอาจมีอันตรายแฝงมาจากสารพิษตกค้าง อันเนื่องจากการใช้สารเคมีต่างๆ  ของเกษตรกรฉีดพ่นไปในผักและผลไม้ เพื่อให้ปลอดจากแมลงและศัตรูพืช เมื่อสะสมในร่างกายอาจก่อให้เกิดอาการของสารพิษตกค้าง ซึ่งแสดงออกได้มากน้อยแตกต่างกัน ถ้าได้รับในปริมาณน้อยไม่รุนแรง ก็จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และท้องร่วง แต่ถ้าได้รับสารพิษตกค้างมาก อาจอาการหนักถึงขั้นหายใจลำบาก  กล้ามเนื้อกระตุก ไม่มีแรง ชัก และหมดสติ ซ้ำร้ายถ้าสะสมสารพิษตกค้างอย่างต่อเนื่องทีละน้อย จะก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคภัยร้ายสารพัด อาการที่เบาสุดอาจทำให้ผิวหนังแห้งแตกตกสะเก็ด หนักกว่านั้นคือ ภาวะความจำเสื่อม เป็นหมัน  และมะเร็งลำไส้ เป็นต้น


    

รายงานการสำรวจของ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ บ่งชี้ว่า ประเทศไทยมีการใช้ ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นอันดับ 4 ของโลก ที่สำคัญจากการสำรวจในทุกปียังพบสารเคมีตกค้างในผักและสารพิษอันตรายที่ทั่วโลกห้ามใช้ 
    

ขณะที่ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือไทยแพน (Thai-PAN) แถลงผลการตรวจสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในผักและผลไม้ ประจำปี 2562 ระบุว่า จากการสุ่มเก็บตัวอย่างผัก 15 ชนิด  รวม 178 ตัวอย่าง และผลไม้ 9 ชนิด รวม 108 ตัวอย่าง ตามห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำ และตลาดสดในจังหวัดต่างๆทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น ยโสธร สระแก้ว จันทบุรี ราชบุรี และสงขลา นำส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO-17025 ที่สหราชอาณาจักร พบว่า ผักประมาณ 40%  มีสารเคมีตกค้างเกินกว่ามาตรฐาน และผลไม้ประมาณ 43% มีสารเคมีตกค้างเกินกว่ามาตรฐาน
    

รู้ข้อมูลอย่างนี้แล้ว คงได้คำตอบว่าทำไมการล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำเปล่าเพียงแค่แช่ๆ  จุ่มๆ  อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ และอาจยังไม่ปลอดภัย 100% เพราะสิ่งสกปรกต่างๆที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะสารเคมีที่ละลายได้ยากในน้ำ เช่น สารเคมีตกค้าง หรือ แว็กซ์เคลือบ ยังเกาะแน่นไม่ยอมไปไหน 

การล้างผักอย่างถูกวิธี  เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทานผักและผลไม้อย่างปลอดภัย ปราศจากสิ่งตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งสกปรก  ฝุ่นละออง  สารเคมี  ยาฆ่าแมลง  ไข่ของพยาธิ หรือแม้แต่  เชื้อแบคทีเรีย  “กิฟฟารีน” ตั้งใจพัฒนาคิดค้น ผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้ (วัตถุเจือปนอาหาร)   จากธรรมชาติ 100% “Giffarine Vegetable & Fruit Wash (Food Additive)” โดยมีสารทำความสะอาดที่    มาจากธรรมชาติ 100% อย่าง “กลุ่มอัลคิลโพลีไกลโคไซด์” (Alkyl Polyglycoside) เป็นพระเอกชูโรง   ประกอบขึ้นจากมะพร้าว  ข้าวโพด ปาล์ม และข้าวสาลี จึงช่วยชะล้างสิ่งปนเปื้อน ตลอดจนสิ่งตกค้างที่ติดมากับผักและผลไม้ให้หลุดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลไกการทำงานหลักๆ ของสารทำความสะอาดดังกล่าวคือ ช่วยชะล้างเอาสิ่งสกปรกต่างๆ ให้หลุดออกจากผักผลไม้  โดยส่วนโมเลกุลที่ไม่ชอบน้ำแต่ชอบน้ำมันในสารนี้ จะเกาะกับไขมัน แว็กซ์เคลือบ สิ่งสกปรก หรือ  สารเคมีตกค้าง และประสานกับโมเลกุลที่ชอบน้ำ  ที่ช่วยดึงสิ่งปนเปื้อน  สารเคมีตกค้างให้หลุดออกมาได้โดยง่าย แล้วถูกชำระล้างไปพร้อมกับน้ำ
    

วิธีการล้างผักที่สะดวกและง่าย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น “กิฟฟารีน” แนะนำ 3 เคล็ดลับ   “เท-แช่-ชะ” ในการล้างผักและผลไม้ให้สะอาดปลอดภัย  โดยเริ่มจาก 1) เทผลิตภัณฑ์ 2 ช้อนโต๊ะ (20 มิลลิลิตร) ต่อน้ำสะอาด 5 ลิตร  2) แช่ผักหรือผลไม้ในสารละลายประมาณ 5 นาที  3) ชะล้างผ่านน้ำสะอาดไหลซ้ำ อย่างน้อย 30 วินาที หรือล้างน้ำสะอาดซ้ำ โดยเปลี่ยนน้ำมากกว่า 2 ครั้ง ทั้งนี้ สามารถใช้ทำความสะอาดได้ทั้งผักสลัด  ผักประกอบอาหาร และผลไม้ทุกชนิด.


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นักธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ หรือ โทรกิฟฟารีน 1101  หรือ สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Facebook:giffarineofficial / Line@giffarinethailand / www.giffarine.com / Shopee และ Lazada
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ