ข่าว

โบว์ ณัฏฐา ร่ายยาวความในใจ วัฒนา เมืองสุข ความจริงมีหนึ่งเดียวตั้งแต่ต้นจนสุดทาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา โพสต์ร่ายยาวความในใจ สนับสนุน วัฒนา เมืองสุข มาตลอด เผย ความจริงมีหนึ่งเดียว ตั้งแต่ต้นจนสุดทาง ภูมิใจฐานะนักการเมือง

24 กันยายน 2563 โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา โพสต์ภาพข้อความ เขียนในฐานะเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เผย สิ่งสุดท้ายที่ วัฒนา เมืองสุข อยากทำไว้ให้คนรุ่นหลังในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง ชี้ ความจริงมีหนึ่งเดียว ตั้งแต่ต้นจนสุดทาง ขณะที่ วัฒนา เมืองสุข ฝากถึงสมาชิกรัฐสภา หากไม่ได้ออกมาพบปะกับทุกท่านอีก

เขียนในฐานะเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เมื่อเช้า 08.25 น. คุณวัฒนาโทรมาบอกว่ามีการส่งข่าวให้รีบหนีเถอะ ศาลจะตัดสินจำคุกตลอดชีวิต คำตอบคือ “ไม่หนี จะไปศาล” นั่นคือแนวทางที่เราสนับสนุนมาตลอด

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ คตส. ตั้งเรื่องหลังรัฐประหาร 49 ป.ป.ช. ชี้มูลหลังรัฐประหาร 57 จนสุดท้ายคดีที่ไม่มีความซับซ้อนมาถึงศาลในที่สุด คำว่า “หนี” ไม่เคยอยู่ในทางเลือก ไม่ใช่เพียงเพราะความเป็นนักกฎหมายที่สอบเนติบัณฑิตได้ลำดับ 7 แล้วสู้คดีด้วยตนเอง หรือความเชื่อมั่นว่าความยุติธรรมนั้นมีอยู่ลึกๆ ในใจนักกฎหมายทุกคน แต่เป็นเพราะทุกข้อกล่าวหาในคดีนี้เป็นข้อกล่าวหาที่ตรงข้ามกับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ชนิดที่เรียกว่า “ถ้าเป็นคดีปกติก็ไม่มีทางมาถึงศาลได้” เขาเชื่อในความบริสุทธิ์ของตนเอง

 

แต่ความน่าเห็นใจของ “นักการเมือง” ก็คือ เมื่อเป็นคดีที่ถูกแปะฉลากว่าทุจริต ไม่ใช่คดีแบบเราๆ ที่เป็นนักกิจกรรม ความเห็นใจจากสังคมก็แทบไม่มี และยังต้องอดทนกับศาลเตี้ยและการดูหมิ่นจากสังคมมาตลอด 14 ปี ทั้งที่เนื้อหาของคดีไม่มีน้ำหนักเพียงพอจะมาถึงศาลได้ใน 12 ปีแรก

เขาพูดตลอดว่า ปกติคดีอาญาต้องมีพยานหลักฐานพิสูจน์จนสิ้นสงสัยจึงจะเอาผิดได้ แต่ไม่ใช่คดีของคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ เขาต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่เพียง 100% แต่ต้องทำให้ได้ 200% ซึ่งเขาก็มั่นใจว่าทำได้เช่นนั้น ตามความจริงซึ่งมีหนึ่งเดียว จึงไม่เคยประวิงเวลาใดๆ เดินขึ้นศาลด้วยความเชื่อมั่นจนวันสุดท้าย แม้กระทั่งเช้านี้ที่รู้ข่าวคำพิพากษาล่วงหน้า

โบว์เคยถามว่า ทำไมไม่เอาข้อเท็จจริงมาเปิดเผย สังคมจะได้รับรู้ไปพร้อมๆ กัน เพราะหลักการพิจารณาคดีก็ต้องโปร่งใสอยู่แล้ว เขาบอกว่าต้องเคารพคำสั่งศาล ที่ห้ามการสื่อสารทุกอย่างเกี่ยวกับคดีระหว่างการพิจารณา ... แน่นอนว่า ศาลก็ไม่สามารถห้ามการค่อนขอดหรือการแชร์ข้อมูลเท็จ เช่นรูปโครงการที่เกิดในสมัยรัฐบาลอื่นหลังการรัฐประหารเพื่อดิสเครดิตกันได้เลย

 

หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่อยู่ในความรู้สึกนึกคิดของวันนี้ วัฒนา เมืองสุข คงอยากขอบคุณกัลยาณมิตรทุกคนที่ยืนเคียงข้างกันมาตลอดแม้ไม่ได้เอ่ยนาม คงอยากให้ลูกๆ ทุกคนได้ภูมิใจในความเป็นนักสู้ของพ่อ ที่ไม่เคยโอ้อวดแต่แสดงให้เห็นจริงด้วยการยืนบนความถูกต้องเพื่อหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ยอมรับการต่อรองใดๆ ตั้งแต่ต้นจนสุดทาง และสิ่งสุดท้ายที่คุณวัฒนาพยายามทำจนถึงเมื่อวาน ก็คือการต่อสู้เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

เขาบอกว่านั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากทำไว้ให้คนรุ่นหลังในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง

โบว์เลือกรูปนี้จาก iLaw มาประกอบโพสต์นี้ เพราะเป็นภาพที่คุณวัฒนาเคยภูมิใจไม่น้อยเมื่อได้เห็น ทั้ง 10 คดีที่เคยมี เกือบทั้งหมดมาจากการต่อสู้กับเผด็จการ มาจากการยืนยันในสิทธิเสรีภาพบนหลักนิติธรรมเพื่อปกป้องประชาชนในฐานะ “นักการเมือง” คำเรียกตัวเองที่เขาภูมิใจ

ส่วนบทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์ใน cover photo ที่เพจนั้น เขาขอให้ทำให้และพิสูจน์ว่าเป็นได้เช่นนั้นตลอดมา

 

ด้าน วัฒนา เมืองสุข โพสต์ภาพข้อความ ระบุ ผมกำลังไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษากับน้องเฟ ผมไม่อยากให้ลูกไปแต่ลูกขอไปเป็นเพื่อน เฟบอกพ่อว่าเฟเป็นลูกพ่อ เฟเข้มแข็งพอและรับได้ทุกอย่าง รัฐประหาร 2 ครั้ง ผมมีคดีติดตัวมาประมาณ 10 คดี คดีนี้เป็นคดีสุดท้ายและเป็นคดีที่ไม่มีความซับซ้อนแต่ใช้เวลาถึง 14 ปี จนเกิดรัฐประหารครั้งที่ 2 คดีจึงได้มาถึงศาล ทั้งที่

- ไม่มีข้อเท็จจริงใดที่ชี้ให้เห็นว่ากติกาและกระบวนการทั้งหมดของโครงการไม่ถูกต้องชอบธรรม

- ตรงกันข้ามกลับมีหลักฐานแสดงความถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลและประสิทธิผลของโครงการ การอนุมัติโครงการและรับซื้อโครงการดำเนินการอย่างถูกต้องทุกหน่วย เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจึงหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาทุกคน

- ไม่มีการรับผลประโยชน์หรือเส้นทางการเงินใดๆ เชื่อมโยงมาถึงผมหรือเจ้าหน้าที่รัฐคนใด

 

ผมจึงมาศาลด้วยความมั่นใจทั้งในความบริสุทธิ์ของตนเอง และความยุติธรรมของศาลตลอดเวลาที่ผ่านมา

แม้กระทั่งเมื่อเช้ามีคนส่งข่าวให้หนี เพราะคำตัดสินจะออกมาให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ผมก็ยืนยันที่จะมาอยู่ที่นี่ เพราะหากจะทำลายกันถึงขั้นนั้นจริง ก็อยากจะได้มารู้มาเห็นด้วยตนเอง ว่าบ้านเมืองเราจะเป็นไปได้ถึงเพียงนั้น

โครงการนี้เป็นโครงการที่ผมภูมิใจ เพราะไม่เพียงทำด้วยความสุจริตโปร่งใส แต่ยังมีประสิทธิภาพประสิทธิผลในการเปลี่ยนแปลงชีวิตประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

มันคือยุคแห่งความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่คนไทยไม่เคยได้สัมผัสอีกหลังการรัฐประหารปี 2549 และตกต่ำมากที่สุดหลังรัฐประหารปี 2557

 

หากคำตัดสินจะเป็นเช่นนั้นจริง ผมจะขอใช้สิทธิ์ประกันตัวเพื่ออุทธรณ์ เพราะเป็นคนทำคดีนี้ด้วยตนเอง

แต่หากไม่ได้ออกมาพบปะกับทุกท่านอีก ก็ขอฝากสมาชิกรัฐสภา ช่วยเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้ร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน จบยุคสมัยของความป่าเถื่อนทางกฎหมายและนำหลักนิติธรรมกลับคืนสู่ประเทศนี้ นั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจทำในฐานะนักการเมืองและนักกฎหมายที่ไม่เคยบิดพลิ้วจากอุดมการณ์

แล้วพบกันครับ วัฒนา เมืองสุข 24 กันยายน 2563

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ