ข่าว

คำนูณ สิทธิสมาน ชี้ ปฏิรูปตำรวจริบหรี่ ร่าง พ.ร.บ.ถูกตัดแต่งพันธุกรรม ศรีธนญชัยแปลงสาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ชี้ ปฏิรูปตำรวจริบหรี่ ร่าง พ.ร.บ.ถูกตัดแต่งพันธุกรรม เผย 3 ขั้นตอนศรีธนญชัยแปลงสาร

22 กันยายน 2563 นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ Kamnoon Sidhisamarn ชี้ ปฏิรูปตำรวจริบหรี่ ร่าง พ.ร.บ.ถูกตัดแต่งพันธุกรรม เผย 3 ขั้นตอนศรีธนญชัยแปลงสาร

กรณีการปฏิรูปตำรวจในความหมายของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 258 ง. (4) ขออนุญาตพูดตามตรงหลังจากติดตามมาโดยตลอด และบางช่วงมีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยว่า รัฐบาลหรือท่านนายกรัฐมนตรีกระทำการไม่ตรงตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีเหตุมาจากอะไรก็ตาม ไล่เรียงมาตั้งแต่...

 

1. ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2561

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/181/T1.PDF

2. ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 20/2561 เรื่อง มาตรการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561

https://library2.parliament.go.th/giventake/content_ncpo/ncpo-head-order20-2561.pdf

ทั้ง 2 ประการนี้ ทำให้รัฐธรรมนูญ มาตรา 260 วรรคสาม ที่เป็นเสมือน ‘บทเร่งรัดกึ่งลงโทษ’ ไร้ความหมาย เสมือนถูกแก้ไขไปแล้วในทางปฏิบัติ อันจะทำให้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานตำรวจและการแต่งตั้งโยกย้ายจะเสร็จก็ได้ ไม่เสร็จก็ได้ การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจก็สามารถทำตามระบบแบ่งกองร้อยละ 33 แบบเดิมได้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

 

รายละเอียดเรื่องนี้เคยอภิปรายในที่ประชุมวุฒิสภา และเขียนเล่าใน fb นี้แล้ว

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3257209870989611&id=100001018909881

และล่าสุด...

3. มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับแปลงสารที่เสนอแก้ไขมาโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563

ประการสุดท้ายนี้ สุ่มเสี่ยงต่อการจะไม่ตรงตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 260 วรรคแรก และโดยเฉพาะมาตรา 258 ง. (4) อย่างมาก

 

ที่ว่าไม่ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 260 วรรคแรก ก็เพราะผู้ยกร่างกฎหมายไม่ใช่คณะกรรมการตามที่กำหนดไว้ หรือคณะกรรมที่รับช่วงงานต่อมา หากแต่เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งไม่ได้รับการกำหนดไว้เลยให้เป็นผู้ปรับปรุงหรือยกร่างกฎหมายเพื่อการปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญ และที่ว่าไม่ตรงตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 258 ง. (4) คือ ไม่ได้พิจารณาอาวุโสกับความรู้ความสามารถประกอบกันในทุกตำแหน่ง ยังคงใช้ระบบแบ่งกองตามเดิมแม้จะมีการปรับปรุงบ้าง โดยให้ใช้อาวุโสอย่างเดียวจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือแม้จะบอกว่าใช้อาวุโสประกอบความรู้ความสามารถแต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจนบังคับไว้ โดยตัดระบบคะแนนประจำตัวตามร่างฯ เดิมที่มาจากคณะกรรมการที่รับช่วงพิจารณายกร่างตามรัฐธรรมนูญออก

 

อันที่จริง รัฐบาลหรือท่านนายกรัฐมนตรีมีโอกาสที่จะแก้ไขการกระทำข้อ 1 และ 2 ด้วยการส่งร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับท่านอาจารย์ มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่รับช่วงต่อมาจากคณะกรรมการตามรัฐธรรมนูญเข้ามาสู่รัฐสภา ให้เวทีรัฐสภาเป็นที่ตัดสิน

แต่รัฐบาลหรือท่านนายกรัฐมนตรีไม่เลือกที่จะทำเช่นนั้น กลับเลือกทำซ้ำรอยเดิมตามข้อ 3 ทำให้ความหวังในการปฏิรูปตำรวจเหลือริบหรี่มาก นี่พูดอย่างมองโลกในแง่ดีสุดแล้วนะครับ

ทำให้เห็นว่าบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญนั้น สำหรับผู้อยู่บนบัลลังก์อำนาจแล้วเป็นแค่ตัวหนังสือบนเศษกระดาษ อะไรที่อยากทำก็ทำ อ้างอิง อะไรที่ไม่อยากทำก็ไม่ทำ ไม่พูดถึง และหลบเลี่ยงเจตนารมณ์นั้นไปด้วยกุศโลบายแบบศรีธนญชัยแปลงสาร

 

นี่คือประเด็นหลักๆ ที่ผมใช้เวลาประมาณ 40 นาที แสดงความเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ชุดท่านอาจารย์ วิชา มหาคุณ เมื่อเวลา 15.15 น. วานนี้ ที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคาร 3 เทเวศร์

คณะกรรมการจะมีข้อสังเกตรายงานท่านนายกรัฐมนตรีหรือไม่ประการใดสุดแท้แต่วิจารณญาณของท่าน ส่วนผมก็จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา

 

ปฏิรูปตำรวจริบหรี่

 

หมายเหตุ : ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเรื่อง แต่ชอบ ขอบพระคุณ ‘ยายกล้อง’ Porntip Rojanasunan

 

 

CR : Kamnoon Sidhisamarn

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ