ข่าว

ส.ว.ห่วงม็อบบายปลาย แนะนายกฯเปิดสภาฯ ถกหาทางออก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ส.ว. ห่วงเหตุชุมนุมบานปลายซ้ำรอย 6 ตุลา ขอเปิดอภิปรายทั่วไปของรัฐสภา ตามม. 165 แนะใช้ไม้แข็ง ไม้นวมและอ้อมกอดจัดการพวกจาบจ้วงสถาบัน สอบเส้นทางการเงินคนหนุนหลัง ห่วงไม่เร่งหาทางออกเจอรัฐประหาร

11 ส.ค.63 ในการประชุมวุฒิสภาวันนี้ มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ช่วงแรกเปิดให้สมาชิกหารือ โดยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. หารือว่ารู้สึกอึดอัดและคับข้องใจ และเชื่อว่าประชาชนก็ตกอยู่ในสภาวะเช่นเดียวกัน หลังจากติดตามข่าวการชุมนุมทางการเมือง 3 ครั้งในรอบ 7 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะล่าสุดคือเมื่อ  3 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 9 ส.ค. ที่จังหวัดเชียงใหม่ และล่าสุด 10 ส.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต และยิ่งอึดอัดยิ่งขึ้นเมื่อทราบว่าในตอนจบมีการประกาศชุมนุมในลักษณะเดียวกันวันพรุ่งนี้ (12ส.ค.)ที่สวนลุมพินี ซึ่งใกล้โรงพยาบาลจุฬา ก่อนจะถึงวันชุมนุม 16 ส.ค.
 

นายคำนูณ กล่าวว่า การชุมนุมเมื่อวานนี้ (10ส.ค.) มีเนื้อหารุนแรงที่สุดเท่าที่เคยฟังมาในชีวิต มีข้อเรียกร้องที่ไม่มีคนไทยคนไหนเรียกร้องในการชุมนุมสาธารณะ เลยเถิดเกินการขับไล่รัฐบาล เกินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือยกร่างใหม่ทั้งฉบับ และชวนให้คิดได้ว่า การไม่ยอมรับเพียงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยขอแต่เพียงยกร่างใหม่ทั้งฉบับนั้นเป้าหมายสูงสุดคืออะไร สรุปคือเกินขอบเขตการต่อสู้ทางการเมืองตามปกติที่คนไทยเคยเห็น นอกจากนั้นการชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่มีรูปแบบการชุมนุมบางช่วงนำประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดมายาวนาน ด้วยความเคารพศรัทธาสูงสุดของคนทั้งประเทศมาล้อเลียนบนเวที และยังเป็นการร่วมกระทำการของผู้ต้องหา2คน ที่เพิ่งได้รับการประกันตัวออกมา อันมีลักษณะเข้าข่ายผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว และยังมีการไลฟ์สดของผู้ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ ที่เป็นฮีโร่ของเยาวชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเคยกล่าวในอดีตทำนองว่าประเทศนี้ต้องลงเอยด้วยความรุนแรงและสงครามกลางเมือง

ทั้งนี้ นายคำนูณ  กล่าวต่อว่า เช้าวันนี้ (11ส.ค.) มีคำถามมากมายมีประชาชนถามผ่านมาว่า เราจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้หรือ ซึ่งตนทราบว่าเรื่องนี้เป็นความยากลำบากในการบริหารจัดการของรัฐบาล การใช้กฎหมายเคร่งครัดสถานเดียวและการใช้การเมืองก็เข้าทางเขา ดังนั้นต้องใช้กฎหมายและมาตรการทางการเมืองควบคู่กันไป และทราบความยากในการบริหารจัดการรัฐบาล จึงขอหารือผ่านประธานวุฒิสภาไปยังนายกรัฐมนตรี ให้ใช้ตัวช่วยตามระบบการเมืองที่มีอยู่ดำเนินมาตรการทางการเมืองควบคู่กันไป โดยเสนอให้รัฐบาลดำเนินมาตรการทางการเมืองด้วยการรับฟังความเห็นข้อเสนอจากสมาชิกรัฐสภาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ด้วยการขอเปิดอภิปรายทั่วไปของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 โดยเร็ว แม้สมาชิกของทั้ง 2 สภาจะมีความเห็นหลากหลายแตกต่างกันในหลายกรณีแต่เชื่อว่า ทั้ง2 สภา มีความเห็นร่วมกันว่าการกระทำบางอย่างของผู้ชุมนุมบางคนในการชุมนุม 3 ครั้งที่ผ่านมาเกินขอบเขตที่ควรจะเป็นไป ทำให้ข้อเรียกร้องปกติของประชาชนส่วนใหญ่ต้องถูกทำให้เสียหาย สุ่มเสี่ยงจุดชนวนความรุนแรง ซ้ำรอยเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 อันจะสร้างแผลลึกส่งต่อลูกหลานต่อไป โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้จะซ้ำเติมประเทศไทยจมดิ่งลงสู่หุบเหวแห่งหายนะหากแก้ไขไม่ทัน ดังนั้นจึงเห็นว่ารัฐสภาควรเป็นเวทีที่หาทางออกให้บ้านเมืองก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่า  6 ตุลา ภาค2ขึ้นมาในเร็วๆนี้ และหากถึงวันนั้น หากรัฐสภาและรัฐธรรมนูญยังคงอยู่ 


ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า การชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และก่อนหน้านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือการจาบจ้วงล่วงละเมิดเกินเลยกว่าที่จะรับได้ สิ่งที่คนไม่กี่คนชักจูงสังคมไทยไปถึงจุดขัดแย้ง เกินกว่าที่ 70 ล้านคนจะรับได้ จากคนไม่กี่ร้อย กี่พันคนปลุกระดมความคิด ผ่านกระบวนการล้มสถาบันจากในและนอกประเทศ การชุมนุมเกินเลยกว่าการเรียกร้องยุบสภา ขับไล่ ส.ว. และล้มรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา116 ชัดเจน ในเรื่องกระทำการกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดจะก่อความไม่สงบเพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นเดินซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี 

“ที่ผมพูดเช่นนี้เพราะเห็นว่าต้องเร่งแก้ปัญหา ถ้าจะจบในรุ่นเราก็พร้อมจะจบ เพราะเขากำลังเอาเด็กนักเรียนนักศึกษา ซึ่งก็คือลูกหลานเราเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก คนที่อยู่เบื้องหลังเป็นอีแอบไม่กล้าออกมาเผชิญความจริง ทั้งที่จงใจและอยู่เบื้องหลังการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ สิ่งที่ยั่วยุวันนี้ ต้องการให้เกิดเหมือน 6 ตุลา 19 และพฤษภา 35 เพื่อนำไปสู่ความฝันอันเพ้อเจ้อ เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น 14 ตุลา 16 และฝันไกลไปถึงล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มล้างการปกครองแบบ 2475 ซึ่งเขาแอบอ้างว่ายังทำภารกิจไม่สมบูรณ์ เพราะเขาต้องการระบอบประชาธิปไตยที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ หรือต้องการเอาพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้กฎหมาย ภายใต้การบังคับของพวกเขา ถามว่าเด็กเหล่านี้รู้หรือไม่”นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย เสนอให้ใช้ไม้แข็ง ดำเนินการกับหัวโจกชุมนุม คือ ให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบเส้นทางการเงินที่สนับสนุนการชุมนุมทั้งหมด เพราะมีการใช้จอแอลอีดี ค่าเช่ามูลค่าหลายแสน ฉายสิ่งไม่บังควรล้อเลียนพระบรมฉายาลักษณ์ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ปอท. ดำเนินการจัดการสื่อสารทางโซเชียล ต่อผู้กระทำผิดเผยแพร่โฆษณาโดยเร็ว และให้ตำรวจดำเนินการถอนประกัน นายอานนท์ นำภา และไมค์ ระยอง เพราะผิดเงื่อนไขการประกัน เนื่องจากได้ตรวจสอบคลิปวีดีโอแล้วพบว่ามีการพูดจาบจ้วงสถาบัน ชัดเจน ชักชวนประชาชนให้ก่อเหตุการณ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐาน 
 

นายสมชาย ยังขอให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยทุกแห่งที่จะจัดการชุมนุม รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจากการชุมนุม เพราะการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองอธิการบดีออกมาขอโทษไม่เพียงพอ ซึ่งต่อจากนี้หากมีการชุมนุมทั้งอธิการบดี และผู้บริหารต้องรับผิดชอบ สิ่งที่ชุมนุมเกินขอบเขต พร้อมขอให้สื่อหยุดสื่อสารข่าวสารของการชุมนุมเพราะทำให้การชุมนุมที่มิชอบฮึกเหิมและบานปลายรวมทั้งขอให้กระทรวงการต่างประเทศประสานไปยังประเทศญี่ปุ่นที่นายประวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และประเทศที่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อยู่ ซึ่งทั้ง2คนก่อตั้งรอยัลมาร์เก็ตเพลส ที่ปลุกระดมมวลชนผ่านเครือข่ายและวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์มายังกลุ่มผู้ชุมนุมเวทีธรรมศาสตร์ จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศประท้วงและแจ้งไปว่าคนไทยไม่ยินยอมให้ใช้ประเทศเหล่านั้นให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยและถ้ารัฐบาลไม่ดำเนินการไม่ใช้ไม้แข็งไม้นวมและอ้อมกอดที่ดี ต้องเปิดเวทีให้นักศึกษาที่ต้องการแสดงความเห็นตรงไปตรงมาเรื่องการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งเปิดเวทีให้นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ประธานสภาฯ ประธานวุฒิสภาและกรรมาธิการทั้งหมด ร่วมประชุมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัย ทุกแห่ง ประธานสภาอาจารย์ทุกสถาบัน นายกองค์การนิสิต นักศึกษา จัดเวทีหาทางออกประเทศไทย ทางการเมือง แต่ต้องไม่มีเรื่องจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์และข้อเสนอ 1 0ข้อ ของกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีทางเป็นไปได้เพราะประชาชนไม่มีทางยินยอม

จากนั้นนายพรเพชร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ รีบถอดเทปข้อหารือดังกล่าวโดยด่วนเพื่อส่งไปยังรัฐบาลพิจารณาตามข้อเสนอนี้ต่อไป

ขณะที่  นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียน นักศึกษาเริ่มรุนแรงยิ่งขึ้น มีการแบ่งฝักฝ่ายแตกกันชัดเจน  โดยเฉพาะเหตุการณ์ชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อคืนวันที่ 10ส.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเดือด แตกหักทั้งภาพ เสียง เอกสารแสดงออกชัด ถ้าคนในชาติแตกกัน ประเทศจะหายนะ อุบัติเหตุทางการเมืองไม่น่าจะเกิดในบางครั้ง แต่ก็เกิด เชื่อว่า คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้มีการรัฐประหาร ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ ทุกคนมีเป้าหมายเดินไปสู่ประชาธิปไตย และมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่ต้องยอมรับมีคนบางกลุ่มไม่เยอะนัก เป็นบ่อนทำลายสร้างภัยคุกคามทั้งในและต่างประเทศ เป็นขบวนการ เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของนักศึกษาปฏิเสธกระบวนการทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่มีคนบางกลุ่มอาศัยจังหวะโอกาสสอดแทรกในการเคลื่อนไหวดังกล่าว ขอให้ผู้มีอำนาจแก้ไขปัญหาบ้านเมืองจับกุมคุมขัง ใช้อำนาจเด็ดขาดกับคนกลุ่มนี้ เพราะทำผิดกฎหมายชัดเจน สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเรื่องข้องกับฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาประเทศ จึงขอสนับสนุนให้ใช้เวทีรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา165 มาแก้ปัญหา เพื่อใช้เวทีรัฐสภาแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งทางรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์และการเมืองมาแก้ปัญหาร่วมกันดีกว่าให้บ้านเมืองเกิดอุบัติเหตุ ไปสู่จุดที่ไม่คาดหวัง อยากให้นายกฯใช้เวทีรัฐสภาเป็นกลไกแก้ปัญหาบ้านเมือง
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ