ข่าว

'ช่อ'พรรณิการ์ ยืนยันเงินบริจาคเมย์เดย์ ช่วย15รายมีตัวตนจริง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ช่อ "พรรณิการ์" แกนนำคณะก้าวหน้า ยืนยัน เงินบริจาคเมย์เดย์-เมย์เดย์ เราช่วยกัน 15 รายชื่อมีตัวตน ไม่ใช่อวตาร พร้อมโชว์หลักฐานในชั้นศาล ลั่นเกมส์การเมืองราคาต่ำไม่ลงทุน จวก เห็นใจ 'หมอวรงค์' เป็น ส.ส.สอบตก ต้องการมีที่ยืนทางการเมือง

วันที่ 7 กรกฏาคม 2563 นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ชี้แจงกรณีเงินบริจาคจากโครงการ เมย์เดย์-เมย์เดย์ เราช่วยกัน 7,751,783 ล้านบาท ของคณะก้าวหน้าว่า เงินบริจาค มีหลักฐานการโอนเงินกว่า 2,431 คน รวมทั้ง 15 รายชื่อที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตผู้บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวหาว่าเป็นอวตาร โดยได้มีการชี้แจงผ่านเพจคณะก้าวหน้า และจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายแพทย์วรงค์ และนายบุญเกื้อ ปุสสเทโว อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมองว่า การออกมากล่าวหาเป็นเรื่องเกมส์การเมืองที่ไม่ลงทุน และหวังดิสเครดิตทางการเมือง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: "หมอวงรค์"ตรวจสอบพบ"ก้าวหน้า" โอนเงินให้อวตาร

นางสาวพรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน รู้สึกเห็นใจนายแพทย์วรงค์ เพราะสอบตกแพ้พรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้ง และต้องการมีที่ยืนทางการเมือง ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่นายแพทย์วรงค์เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และหากชนะก็จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

"แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นบทบาทของนายแพทย์วรงค์ ในการทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติ พร้อมกันนี้ ยังยืนยันว่า การยื่นฟ้องหมิ่นประมาททั้งสองคน ไม่ได้ต้องการใช้กฎหมายเพื่อปิดปาก แต่ต้องการให้เป็นเยี่ยงอย่างว่าไม่ควรมีใครถูกใส่ร้ายป้ายสีโดยปราศจากหลักฐาน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นฟ้องนายบุญเกื้อก่อนจะรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องนายแพทย์วรงค์ต่อไป ส่วนค่าเสียหาย ขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายจะพิจารณา"นางสาวพรรณิการ์ กล่าว

นางสาวพรรณิการ์ กล่าวยืนยันว่า ส่วนจะให้ 15 รายชื่อที่ถูกกล่าวหาต้องออกมาแสดงตัวยืนยันกับสังคมหรือไม่นั้น นางสาวพรรณิการ์ เห็นว่า จะเป็นการรบกวน แต่ขอให้สื่อไปตรวจสอบเอง และหากนายแพทย์วรงค์อยากเห็นหลักฐานการโอนเงินทั้งหมด ขอให้ไปดูในชั้นศาล

นอกจากนี้ นางสาวพรรณิการ์ยังได้เข้าสังเกตการณ์เวทีเสวนา “การเคลื่อนตัวของเกลียวคลื่นกลางกรุงกับลูกสาวแห่งทเเลจะนะ” ซึ่งเป็นเวทีสะท้อนเสียงของภาคประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร และได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถานำก่อนเปิดเวทีเสวนาด้วย

นางสาวพรรณิการ์ระบุว่า นิคมอุตสาหกรรมจะนะ เป็นโครงการที่ศอ.บต. ผลักดันอย่างแข็งขันให้เกิดขึ้น โดยเป็นโครงการตามแผนยุทธศาสตร์สร้างสันติภาพในขายแดนใต้ ศอ.บต. อ้างว่าจะพัฒนาพื้นที่ สร้างงาน 100,000 ตำแหน่ง แต่ขอถามหน่อยว่า คนในพื้นที่ที่ 70% เป็นแรงงานภาคเกษตรเป็นคนกรีดยาง เขาจะมีความรู้ในการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างไร อีก 20% เป็นชาวประมง ที่มีรายได้จากการหาปลาวันละ 3,000-5,000 บาท เขาจะต้องมาเป็นแรงงานรายวัน รับค่าแรง 400 บาทหรือ

ที่สำคัญกว่านั้น การที่ศอ.บต. ทำงานโฆษณาชวนเชื่ออย่างหนักให้คนในพื้นที่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ยังกลายเป็นสาเหตุของความขัดแย้งแตกแยกในพื้นที่ แบบนี้คือการ “แบ่งแยกแล้วปกครอง” แทนที่จะสร้างสันติภาพและความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นได้จริง

นางสาวพรรณิการ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ อย่างน้อยต้องไม่ให้ศอ.บต. เป็นเจ้าภาพ เพราะเป็นองค์กรที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จจากโครงสร้างการบริหารราชการภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ ควรให้หน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับด้านอุตสาหกรรมหรือเศรษฐกิจโดยตรงเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและคัดค้านโครงการได้อย่างอิสระกว่านี้ ไม่ต้องเกรงกลัวอำนาจเบ็ดเสร็จของศอ.บต.

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ