ข่าว

ประยุทธ์ ประเมินใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ถ้าจำเป็นใช้ต่อเนื่อง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่" เผย ประเมินการใช้  "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ทุกสัปดาห์ ชี้ ถ้าจำเป็น จะใช้ต่อเดือนที่ 2-3 ย้ำ ต่างชาติ เข้าไทย ต้องกักตัว 14 วัน ห่วง "พระ" คนทำบุญ สวดมนต์ ต้องห่างกัน

 

           31 มี.ค.2563 เวลา 14.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านไลฟ์สดทางเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ว่า การประเมินผลด้านต่างๆหลังประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ได้ประเมินผลทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ทั้งในที่ประชุมครม. และที่ประชุมอนุกรรมการต่างๆ ในคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ที่มีนายกฯเป็นผู้นำอยู่แล้ว มีการทบทวนทุกสัปดาห์

อ่านข่าว-นายกฯสั่งทภ.4 ปิดทุกเส้นทางเข้าออก ภูเก็ต-3 จชต. 
 

 

 

 

ประยุทธ์ ประเมินใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ถ้าจำเป็นใช้ต่อเนื่อง

 

              โดยพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อำนาจตามกฎหมายใช้ได้ 3 เดือน แต่วันนี้ประกาศใช้ 1 เดือนก่อน หากประเมินผลแล้วถ้ายังจำเป็นก็จะประกาศต่อในเดือนที่ 2 และเดือนที่ 3 โดยมาตรการเข้มข้นขึ้นตามลำดับ เพราะฉะนั้นเวลานี้ยังไม่มีแนวโน้มจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ทั้งนี้จะให้หน่วยงานไปพิจารณาเรื่องอะไรที่ทำแล้วได้ผลและดีขึ้น อาจผ่อนผัน แต่ถ้าอันไหนยังไม่ดีขึ้นก็เข้มงวดมากขึ้น

 

 

             พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการควบคุมคนต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย วันนี้มีเฉพาะที่มีการทำงานในประเทศไทยอยู่แล้วเท่านั้น แต่ในส่วนอื่นๆ หากเข้ามาโดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว 14 วัน ทั้งสถานที่ของรัฐและที่บ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแล และเมื่อสู่ภูมิลำเนาทุกคนต้องถูกกระทรวงสาธารณสุข บันทึกข้อมูลโดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ผ่านแอปพิลเคชันติดตามตัวควบคุมยังถิ่นที่อยู่อาศัย

 

 

              นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการทำบุญทางศาสนาของเราตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่คู่สังคมไทยมานาน ได้รับความเชื่อมั่นและเชื่อถือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการนับถือศาสนาพุทธ ฉะนั้นเรื่องของวัดตนเป็นห่วงเรื่องของพระ ได้เน้นย้ำไปแล้วมาตรการในการทำบุญ การสวดมนต์ต่างๆ ต้องมีการแยก กำหนดจำนวน กำหนดวิธีการทำบุญต่างๆให้เหมาะสม ทั้งเรื่องการใส่บาตรหรือโรงทาน ตนรู้ทุกคนมีเจตนาที่ดี แต่เราจำเป็นต้องช่วยกันคิด เพราะนายกฯจะไปลงรายละเอียดมากๆคงไม่ไหว ดังนั้น ขอให้ทุกส่วนราชการ ทุกหน่วยงาน ประชาชน ประชาสังคม ธุรกิจเอกชน ช่วยกันหามาตรการของตัวเองออกมาเพื่อรองรับนโยบายหลักของรัฐบาลในทุกประเด็น


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ