'จุรินทร์' เคาะจันทร์นี้ แก้รธน.

       วันที่ 7 มีนาคม 2563 เวลา 10.30 น.พรรคประชาธิปัตย์  นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว กรณีการส่งความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ได้เตรียมข้อมูลความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเสร็จเรียบร้อยแล้วซึ่งจะมีการหารือกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  หัวหน้า ปชป. ในวันจันทร์ ที่ 9 มี.ค.นี้ เกี่ยวกับปัญหาหลักเกณฑ์และแนวทาง แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อส่งให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เนื่องจากประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีหนังสือถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ส่งข้อมูลภายในวันอังคารที่ 10 มี.ค.นี้

         นายราเมศ กล่าวอีกว่า ปชป.ได้เตรียม ข้อเสนอแนะและความเห็นครบถ้วนแล้ว และนอกเหนือจากคณะกรรมาธิการทั้ง 5 ท่าน ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้สะท้อนมุมมองความคิดในเรื่องการ แก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมไปแล้วนั้น ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ มีจุดเด่นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เรายึดเป็นเงื่อนไขที่สำคัญ ที่จะต้องมีการดำเนินการ เมื่อบรรจุเป็นนโยบาย เร่งด่วนของรัฐบาล และต่อมาได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดดังกล่าว ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จะมีการพิจารณาข้อมูลหลายส่วน โดยพรรคประชาธิปัตย์มุ่งประโยชน์ ที่เกิดกับประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง

        โดย ปชป.ได้ยื่นเป็นข้อเสนอแนะเกี่ยวข้องกับเรื่อง 1.สิทธิของประชาชน 2. ระบบการเมืองระบบของการเข้าสู่ตำแหน่งหน้าที่ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

       ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าหลายเรื่องที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นกรณีของการคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวหรือ 2 ใบ เรื่องนี้ก็ควรหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการ วิสามัญเช่นกัน 3. การสะท้อนข้อมูลควรจะรับฟังว่าจะทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแก้ไขได้ง่ายขึ้น

     และที่น่าดีใจมีเยาวชน หรือบุคคลที่รวมกลุ่มกันเสนอแนะข้อมูลมายังตนเราก็อยากจะเสนอแนะ ให้มีสภาเยาวชนแห่งชาติเกิดขึ้นในรัฐธรรมนูญข้อเสนอแนะของเด็กและเยาวชนที่สะท้อนความคิดเห็นผ่านมายังพรรคประชาธิปัตย์ 

     นายราเมศ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดดังกล่าวได้หยิบยกการชุมนุม แฟลชม็อบ ของกลุ่มนิสิต นักศึกษาไปพูดคุยในคณะกรรมาธิการวิสามัญซึ่งตนเห็นด้วย เพื่อจะได้พูดคุยหาทางออกแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนิสิตนักศึกษาเพื่อรับมานำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนเรื่องไหนที่จะต้องพูดคุยและปรับความเข้าใจเพื่อให้นิสิตนักศึกษามีความเข้าใจข้อมูลต่างๆในระบอบการเมืองการปกครองหรือกระบวนการของตุลาการ ที่มีการหยิบยก ขึ้นมาเป็นข้อกล่าวอ้าง ถือว่าเป็นอีกเวทีหนึ่งที่สามารถมาพูดคุยกันได้

       ส่วนกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเพื่อให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญถือเป็นเรื่องของฝ่ายรัฐบาล และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่กลไกของระบบรัฐสภาของฝ่ายนิติบัญญัติไม่ได้มีเฉพาะการเปิดสมัยประชุมวิสามัญ กรณีเดียว เรายังมีกลไกระบบรัฐสภาคือคณะกรรมาธิการสามัญชุดต่างๆจำนวน 35 จุดซึ่งบางชุดอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาแต่มีหลายชุดเช่นกันที่สามารถหยิบยกเรื่องต่างๆมาพิจารณา รวมถึงคณะกรรมการวิสามัญอื่นๆอีกด้วยที่ได้ตั้งขึ้นมาในช่วงที่เปิดสมัยสภาอยู่ และหากคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดติดตั้งขึ้นมาแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะหยิบยกเรื่องนิสิตนักศึกษาชุมนุมมาพูดคุยได้ด้วยตนคิดว่ากระบวนการของคณะกรรมมธิการ ในสภา น่าจะเป็นกระบวนการที่จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวนี้มาพูดคุยกันเพื่อหาทางออกและแลกเปลี่ยนข้อมูลการในช่วงระหว่างปิดสมัยประชุมสภา