จุฬาฯลั่น จัดแฟล็ชม็อบ หากเสี่ยงจริงต้องสั่งงดเรียน-สอบ

 

 

             29 ก.พ.2563-น.ส.สิรินทร์ มุ่งเจริญ รองประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และตัวแทนผู้จัดงานจุฬารวมพล กล่าวถึงการจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ ว่า ในสัปดาห์หน้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะมีการสอบมิดเทอม หลังจากนั้นทางสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะมีการจัดกิจกรรมใหญ่ ทางจุฬาฯ เองก็จะเข้าไปร่วม และจะแยกจัดกิจกรรมของตัวเองหลังสัปดาห์หน้าด้วย  

 

 

 

 

 

 

 

          ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ซึ่งให้อำนาจเจ้าพนักงานควบคุมโรค สามารถสั่งการเพื่อการควบคุมป้องกันโรคได้ ผู้ขัดขืนจะมีโทษ แต่กระทรวงสาธารณสุขยังใช้วิธีการขอความร่วมมือ โดยขอให้เลื่อน หรืองดชุมนุมทางการเมือง เพราะสถานการณ์มีความเสี่ยง การรวมกันของคนหมู่มากมีโอกาสทำให้มีการติดเชื้อได้ น.ส.สิรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการทำแฟลชม็อบ การลงถนนนอกสถานศึกษา ตอนแรกมีแผนว่าจะทำกัน เมื่อมีการขอความร่วมมือมาตนก็เข้าใจ และมีความเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพ เรื่องสถานการณ์การระบาดของโรค ถ้าทำไม่ได้อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการมาแสดงสัญลักษณ์อย่างอื่นร่วมกันที่สามารถทำได้พร้อมกันแต่ไม่ได้รวมพลกัน  

 

 

 

 

 

 

         แต่ที่น่าสนใจคือในเมื่อไม่ได้พูดถึงเรื่องการเรียนการสอน เช่นตอนนี้การสอบมิดเทอมสัปดาห์หน้าก็ยังเป็นไปตามปกติ การเรียนการสอนก็ยังไม่มีการประกาศว่าหลังมิดเทอมจะเป็นอย่างไร อย่างการสอบที่ไม่มีการเลื่อน คนจำนวนมากก็มารวมตัวกัน โรงอาหาร มหาวิทยาลัยต่างๆ โรงเรียนต่างๆ ก็มีนักเรียน นิสิต นักศึกษารวมตัวกัน ในห้องเรียน ในห้องสอบก็มีคนจำนวนมากเหมือนกัน ดังนั้นถ้าตรงนี้ยังไม่ห้าม เราก็อาจจะมีการแสดงออกในสถานศึกษาอยู่

 

 

 

         

 

 

          เมื่อถามว่ากรณีการเรียน การสอบ และการชุมนุม แตกต่างกันหรือไม่ อย่างการสอบคนรวมกันมากแต่อยู่กันเงียบ ในระยะที่ห่าง ส่วนการชุมนุมจะมีคนอยู่รวมกันจำนวนมากในระยะใกล้ชิดอีกทั้งยังมีการใช้เสียงเยอะ มองเรื่องนี้อย่างไร น.ส.สิรินทร์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการสอบ แม้ว่าช่วงสอบจะไม่มีการพูดคุย แต่หลังการสอบ เราไม่สามารถจะห้ามเพื่อนๆ ร่วมกัน รับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งระหว่างรับประทานอาหารต้องถอดหน้ากากอนามัยอยู่แล้ว แต่ในการชุมนุมที่ต่างๆ มีการวางจุดกดเจลล้างมือ แจกหน้ากากอนามัย และมีการรณรงค์ให้คนสวมหน้ากากอนามัย ตรงนี้น่าสนใจว่าหากเป็นห่วงเรืองแฟลชม็อบ ก็ควรจะเป็นห่วงเรื่องการเรียนการสอนด้วย หากอยู่ในจุดที่โรคมันอันตรายตามระดับที่ว่าเราก็จะดำเนินการตาม ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะเห็นว่าสุขภาพของคนเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่แล้ว

 

 

                “ถ้าไม่ได้ห้ามเรื่องการสอนด้วยแปลว่ามันไม่ได้จริงจังขนาดนั้นหรือเปล่า ถ้าจริงจังจริงๆ จะต้องระงับการเรียนการสอน เพราะลักษณะมันคล้ายกันในเรื่องของการรวมตัวกัน และอย่างที่บอกว่าในการชุมนุมกันก็มีมาตรการระแวดระวัง มีมาตรการป้องกัน” รองประธานสภานิสิตจุฬา ฯ กล่าว.