แฉ บิ๊กตู่ ตั้งเพื่อนคุมแปรรูป ยาสูบเอื้อที่ดินเจ้าสัว

                 27 ก.พ.2563-รัฐสภา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีเอื้อเจ้าสัวฮุบที่โรงงานยาสูบว่า หลังจากการยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งเพื่อนรัก "พล.อ. ว." ที่เดินไปไหนด้วยกันบ่อยๆ ไปคุมการยาสูบ และตั้ง "พล.ท. ส." เป็นประธานกรรมการอำนวยการกิจโรงงานยาสูบ จากนั้นก็แต่งตั้ง "น.ส. ด." จนกระทั่งได้เป็นผอ.โรงงานยาสูบ หากใครจะประมูลงานของโรงงานยาสูบ จะต้องผ่าน บริษัทชื่อย่อ "อัพ ด." แทนที่จะเปิดประมูลเสรี และบริษัทดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคนชื่อ ปรีชา ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาวุธ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ เข้าข่ายรู้เห็นเป็นใจฝ่าฝืนกฎหมายล็อกสเป็ก 
 

 

 

 

 

 

 

                นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า นอกจากนั้น การบริหารงานในโรงงานยาสูบ สร้างความเสียหายมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เช่น ในเรื่องของไลน์การผลิต การติดตั้งเครื่องจักรที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งยังมีกรณีการปรับโครงสร้างภาษีเอื้อบริษัทบุหรี่ต่างชาติ นอกจากนั้น ยังมีการแปรรูปโรงงานยาสูบ ด้วยการให้การยาสูบเป็นนิติบุคคลโอนทรัพย์สินจากที่พัสดุมาเป็นของการยาสูบ และให้เอกชนเข้ามาร่วมตั้งบริษัทร่วมเพื่อใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินของยาสูบได้ ถือเป็นการเอื้อเจ้าสัว 

 

 

 

 

 

             นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนการต่อสัญญาศูนย์ประชมแห่งชาติสิริกิตติ์ 50 ปี ทำไมไม่ปล่อยให้สัญญาสิ้นสุดลง 8 เม.ย. 2564 นั้นเพราะว่า ถ้าสัญญาหมดลงจะต้องเปิดประมูลแข่งขันอย่างเสรี แต่คนในรัฐบาลอ้างความเห็นกฤษฎีกาว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถือเป็นแผนฮุบที่ดินที่เอื้อกันสุดๆ ทั้งนี้ เมื่อได้รับการต่อสัญญาแล้ว มีการแก้ผังเมืองบริเวณดังกล่าว ให้สามารถสร้างตึกสูงได้กว่าที่กำหนดไว้เดิม เป็นที่น่าสังเกตว่า การต่อสัญญาตอนที่ยังสร้างตึกสูงไม่ได้ เพื่อให้การจ่ายค่าเช่าต่ำที่สุด โดยวางแผนเพื่อต้องการสร้างเมกะโปรเจกต์ ที่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีโรงแรม และมีห้างสรรพสินค้า ตนสงสัยว่า ทำไมรัฐบาลชุดนี้ถึงใจดีช่วยเจ้าสัวมากขนาดนี้ เปิดทางให้เจ้าสัวสามารถยึดที่โรงงานยาสูบได้

 

 

           อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า โรงงานยาสูบมีแผนย้ายโรงงานมานานแล้วว่าจะไปอยู่ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ถือว่าเป็นไปตามแผน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ใช่นักลงทุน และตนก็ไม่รู้ด้วยว่า เอกชนจะมีโครงการเกิดขึ้นตรงไหน หลายโครงการเป็นในที่สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์