"นายกฯ" โต้ทำศก.พัง ปัดเอื้อทุน สุดเซ็งซักฟอก

 

 

 เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์  2563 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่สอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขอใช้สิทธิชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า การชี้แจงของรัฐบาลมีความจำเป็นต้องพูดถึงกระทรวงหลายกระทรวง แม้นายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล และกำหนดแนวทางการทำงาน แต่ไม่ได้เป็นคนทำงานทั้งหมดเพียงผู้เดียว ตั้งแต่สมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ขอให้ประชาชนรับฟังข้อเท็จจริงและคำตอบเพื่อให้เกิดการรับรู้ และสร้างความปรองดอง เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งฝ่ายโดยไม่มีหลักการ

 

 “กรณีเรื่องการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นพลเรือนด้วยกันผมไม่ห่วงว่าจะเรียกกันว่าอะไร แต่สำหรับทหารและตำรวจทั้งหลายได้ร่วมพิธีถวายสัตย์ และรับพระราชทานยศมาด้วยกัน กรุณารักษาศักดิ์ศรีของตัวเองกันไว้ด้วย ผมไม่ได้โกรธเคืองอะไรท่านเลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

 ยันหอชมเมืองรัฐไม่ได้ลงทุน

 

 ส่วนกรณีของการก่อสร้างหอชมเมืองนั้น เป็นโครงการของเอกชนเพื่อเป็นภูมิสถานอยู่คู่กับแผ่นดินบนที่ดินราชพัสดุ ไม่ใช่โครงการของรัฐ และไม่ใช้งบประมาณของรัฐ และเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะยกให้แก่กรมธนารักษ์ประมาณ 4,423 ล้านบาท ส่วนข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับ กสทช. ที่มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนนั้น ได้มีหนังสือขอผ่อนผันการชำระเงินทั้ง 3 วาระ ทำให้ต้องมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมและต้องมีการเยียวยา

 

 ‘อุตตม’แจงโครงการหอชมเมือง

 นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ชี้แจงว่า โครงการหอชมเมืองนี้เกิดขึ้นมานานแล้วจากการรวมตัวของภาคเอกชนและสถาบันการเงิน กว่า 50 องค์กร ที่จัดตั้งเป็นมูลนิธิหอชมเมืองขึ้นมา โดยเป็นมูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไรมาแบ่งกัน โดยจดทะเบียนมูลนิธิเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2557 หลังจากนั้นมูลนิธิได้เข้าไปเสนอกับกรมธนารักษ์ ว่าขอใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ในเขตคลองสาน จำนวน 4 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา

 ส่วนเรื่องการไม่เปิดให้มีการประมูลให้เอกชนแข่งขัน ทางกรมธนารักษ์ชี้แจงว่า กรมธนารักษ์ ได้พิจารณาโดยเห็นว่าที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่ตาบอดไม่เหมาะสมกับการพัฒนาและไม่เคยมีใครยื่นขอเช่าที่แปลงดังกล่าวเลย ประกอบกับเห็นประโยชน์ ความจำเป็นในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งของการท่องเที่ยว ที่สำคัญเป็นการน้อมนำศาสตร์พระราชาไปสู่การปฏิบัติได้ ดังนั้นหากใช้วิธีประมูลก็จะก่อให้เกิดความล่าช้าได้ จึงให้กระทรวงการคลังดำเนินการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการร่วมทุนซึ่งพิจารณาอย่างรอบคอบ

 

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

 

 ฝ่ายค้านโวยปล่อย รมต.แจงนาน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอุตตมชี้แจงเสร็จแล้ว ได้มีรัฐมนตรีอีกหลายคนต่อคิวชี้แจงยาวเหยียด ได้แก่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง บนถนนเจริญนคร เชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสผ่านห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งถูกมองว่าเอื้อนายทุน

ขณะที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงเรื่องการใช้อำนาจมาตรา 44 มาแทรกแซงทีวีดิจิทัล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เรื่องการเอื้อประโยชน์นายทุนในการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

 

 

 

ขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญขยายอีก 3 วัน

อย่างไรก็ตาม ครม.ใช้เวลาชี้แจงยาวนาน 1 ชั่วโมงกว่าๆ ทำให้ฝ่ายค้านรุมประท้วงที่ปล่อยให้รัฐมนตรีชี้แจงเป็นจำนวนมาก อาทิ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า เวลานี้ฝ่ายค้านเหลือผู้อภิปรายอีก 40 คน ต้องใช้เวลาอีก 40 ชั่วโมง ในช่วง 2วันที่เหลือ ถ้าเป็นแบบนี้ หากฝ่ายค้านยังอภิปรายไม่จบหวังว่ารัฐบาลคงไม่ชิงปิดอภิปรายทั้งที่ฝ่ายค้านยังอภิปรายค้างอยู่ ดังนั้นจึงขอให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อขยายเวลาอภิปรายไปอีก 3 วัน

นายกฯโต้แจงจัดทัพครม.ชี้แจงยาว

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงถึงกรณีฝ่ายค้านแสดงความไม่พอใจที่ให้รัฐมนตรีหลายคนช่วยกันชี้แจงการอภิปรายยาวเหยียดเกินความจำเป็นว่า ฝ่ายรัฐบาลใช้เวลาของรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านก็ใช้เวลาของฝ่ายค้าน สิ่งที่ต้องร่วมมือกันคือการปฏิรูปการเมือง การปฏิรูปสภา ให้เป็นที่ยอมรับ ไม่ใช้เวทีสภาเป็นการฆ่าฟันทิ่มแทงกัน เราต้องการสร้างความรับรู้แก่ประชาชน จึงต้องให้หลายกระทรวงช่วยกันชี้แจง เหตุผลที่ต้องพูดกันในหลายกระทรวง เพราะโครงการหนึ่งเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง จึงต้องการให้ประชาชนรับทราบข้อมูล เราต้องการความร่วมมือ ซึ่งสภาถือว่ามีส่วนสำคัญ และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่า ใครจะผิดหรือถูก เราใช้เวลาของเราก็ตัดเวลาไป ถ้ามีเวลาเหลือก็พูด ถ้าไม่มีเวลาเหลือก็ไม่พูด

‘สุทิน’ตะเพิด‘บิ๊กตู่’ทำเศรษฐกิจเจ๊ง

จากนั้นนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เห็นว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กำลังสร้างปัญหาให้แก่ประเทศด้านเศรษฐกิจเป็นประวัติศาสตร์ เพราะนโยบายของรัฐบาลทำให้เกิดความถดถอยทางเศรษฐกิจ และเกิดความเหลื่อมล้ำถึงขนาดที่ว่า คนรวยจะไม่มีโอกาสจน คนจนไม่มีโอกาสรวย และการที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ส่วนหนึ่งมาจากปมด้อยของตัวนายกฯ เอง ที่เข้าสู่อำนาจโดยยึดอำนาจ ทั่วโลกบอยคอต

“ขอท้าเลยว่า มีไม่ถึง 5 จังหวัด ที่ยังดำเนินกิจการอยู่ ที่เหลือน่าจะมีแต่โต๊ะเก้าอี้ที่มีฝุ่นเกาะเท่านั้น ทั้งๆ ที่ประชารัฐเป็นแนวคิดที่ดี แต่พอทำจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเป็นการเปิดประตูให้เอกชนเข้ามานั่งบริหารประเทศ และกำหนดไปถึงรายละเอียดผ่านคณะทำงานขับเคลื่อนร่วมภาครัฐกับเอกชน เป็นการเปิดให้เสือไปถึงห้องเนื้อสด จึงเหลือแต่เอกชนกับรัฐบาลจนกลายเป็นเอกรัฐ วันนี้เศรษฐกิจชุมชนพังพินาศ ทางแก้ไขยังพอมีอยู่ โดยรัฐบาลต้องถามใจตัวเองว่ายังมีชาวบ้านอยู่หรือไม่ หรือมีแต่กลุ่มทุน ถ้าหัวใจท่านแกร่งพอก็แก้ไขปัญหาได้ โดยใช้ระบบภาษีอัตราก้าวหน้าเพื่อเอามาเจือจุนคนจน” นายสุทิน กล่าว

 

พล.อ.ประยุทธ์

“บิ๊กตู่” โต้ละเอียดยิบปมเศรษฐกิจ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงนายสุทินว่า การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเรื่องนี้ไม่ใช่รัฐบาลไม่ทราบ ดูถูกรัฐบาลเหลือเกินว่าไม่เคยดูรูปแบบการแก้ไขปัญหาของต่างประเทศ ซึ่งได้มีการนำมาประยุกต์แก้ไขปัญหาของเราทั้งหมด ส่วนที่ฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลยกเว้นภาษีให้แก่อาลีบาบานั้น มีการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้เช่าพื้นที่เอกชนเพื่อกระจายสินค้า มีการยกเว้นเฉพาะภาษีอากรขาเข้า แต่เมื่อนำมาขายออนไลน์ในประเทศต้องเสียภาษีปกติ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจถดถอย สถานการณ์หนี้ครัวเรือน รัฐบาลมีมาตรการต่างๆ เข้าไปแก้ไข ถึงแม้หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงแต่ยังทรงตัว ถ้าเป็นข้อมูลย้อนหลังแต่ปี 2551 หลายรัฐบาลมา กราฟต่ำเตี้ยมาตลอดและมาขึ้นตอนปลายๆ ก็ไม่รู้รัฐบาลไหนเหมือนกัน

เหน็บเจ้าสัวอีก 1 ตระกูลหายไปไหน

“เรื่องการเอื้อประโยชน์ให้ผมและพวกพ้อง มีหลายท่านเอารูปผมที่ถ่ายกับคนนั้นคนนี้ 24 ตระกูล แต่ผมว่าหายไปตระกูลหนึ่งมั้ง ตระกูลนี้ไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ตระกูลที่รวยผิดปกติหายไปไหนหรือเปล่า แต่ถ้าถูกกฎหมายก็ยังอยู่ได้ ผมว่าหายไปตระกูลหนึ่ง พลาดไปหน่อย การที่มีรูปผมไปอยู่ตรงนั้น ผมถือว่าเป็นการประชุมโดยเปิดเผย มีการพบปะอย่างเปิดเผย แต่ถ้าใครไม่มีรูปแบบนี้แสดงว่ามีการพบปะแบบไม่เปิดเผย ก็ลองไปดูตรงนี้ ผมไม่ได้ไปทะเลาะกับใคร” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องการใช้มาตรา 44 วันนี้เราเลิกใช้ไปนานแล้วเกือบปี และหลายอย่างได้ยกเลิกไป แต่หลายอย่างเป็นกฎหมายสำคัญ ตรงไหนที่ยังใช้ประโยชน์อยู่ก็ทำไป ส่วนการไล่ประชาชนออกนอกพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ไล่ออกทั้งหมด เว้นแต่พื้นที่ป่าอุทยาน พื้นที่อุทยาน รวมทั้งเรื่องของเสรีภาพ ยืนยันว่าไม่เคยไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของใคร เว้นแต่บางช่วงเวลามีความจำเป็น อย่างเช่นช่วงแรกๆ ที่เข้ามาก็มีความจำเป็น ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้น ที่ไหน อย่างไร เรามีบทเรียนอยู่แล้ว จะให้มีเสรีภาพแบบไร้ขีดจำกัดมันไม่ได้ต้องคำนึงถึงกฎหมายเราจะดูเพียงรัฐธรรมนูญฉบับเดียวไม่ได้ จะต้องดูกฎหมายลูก กฎหมายประกอบอีกหลายพันฉบับ สิทธิเสรีภาพการชุมนุมเสรีภาพจะต้องไม่ไปกระทบกับผู้อื่น รวมทั้งปัญหาการจราจร การทุจริตทำให้เกิดความแตกแยก เรามีกฎหมายทุกฉบับ ขอความกรุณาให้ระมัดระวังด้วย

 

นายดอน ปรมัตถ์วินัย

 

‘ดอน’ยันไทยไมได้เป็นลูกไล่จีน

ขณะที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวชี้แจงกรณีนายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายระบุกระทรวงต่างประเทศเกรงใจราชสีห์จีน ต้องเดินทางไปประเทศจีนอ้อนวอนให้ช่วยปล่อยน้ำโขงลงมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งประเทศไทยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า การเดินทางไปประเทศจีนเมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ไม่มีการอ้อนวอนแต่อย่างใด แต่ไปในฐานะมิตร เนื่องจาก รมว.ต่างประเทศของจีนและไทยมีความสัมพันธ์ที่ดี เคยขอกันเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับแม่น้ำโขงแล้วก็ได้ตามที่ขอ เช่น การขอไม่ให้มีการขุดลอกเกาะแก่งที่จะมีผลต่อวิถีชีวิตของชุมชน เพราะแม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำแห่งวิถีชีวิตชุมชนของประเทศต่างๆ ซึ่งกรณีวันที่ 23 มกราคม ได้กล่าวถึงภัยแล้งในประเทศไทย จึงขอให้จีนช่วยพิจารณาจะทำอะไรได้บ้างตามที่จะทำได้ ซึ่ง รมว.ต่างประเทศจีนรับปากจะช่วยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหา หลังจากที่เดินทางกลับในวันเดียวกันถึงประเทศไทยช่วงค่ำก็ได้รับคำตอบจากจีนว่า จีนจะเพิ่มระดับการปล่อยแม่น้ำโขงมาช่วยไทย ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม เป็นต้นไป

ป่วนหนักฝ่ายค้านรุมประท้วง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสภา ระหว่างที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังอภิปรายชี้แจงอยู่นั้น มี ส.ส.ฝ่ายค้านหลายรายได้ประท้วงว่า ปล่อยให้รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลชี้แจงแทน พล.อ.ประยุทธ์ นำโดยนายประเสริฐ จันทรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย พยายามลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้หารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยขอให้มีการบริหารจัดการเวลาของแต่ละฝ่ายให้เหมาะสม เพราะทางฝ่ายค้านยังเหลือผู้อภิปรายเกือบ 30 คนเกรงว่าจะไม่สามารถจบญัตติการอภิปราย ในเวลา 19.00 น. ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ได้ ซึ่งนายชวนได้ระบุว่า การชี้แจงของคณะรัฐมนตรีแทนนายกรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้

สาวเพื่อไทยทึ้ง‘บิ๊กตู่’โกหกปชช.

จากนั้น น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับกรณีที่ประเทศไทยถูกตัดสิทธิ์จีเอสพี (ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป) โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดความจริงเกี่ยวกับการที่ไทยถูกสหรัฐตัดสิทธิ์จีเอสพีไม่หมด เนื่องจากสหรัฐมีความต้องการที่จะตัดสิทธิ์ไทยตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2557 ซึ่งสหรัฐมีการประสานกับสถานทูตไทยในวอชิงตันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2560 

“ทั้งนี้ เมื่อรวมความเสียหายในยุคที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ถูกตัดสิทธิ์จีเอสพี ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบันมีมูลค่านับหมื่นล้านบาท อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการทำให้ประชาชนต้องตกงานอีกนับล้านคน และที่สำคัญรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่ทำอะไรเลย”

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

 

‘เสรีพิศุทธ์’ด่า2วิปปมถวายสัตย์

ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชวนไม่อนุญาตให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ปมถวายสัตย์ปฏิญาณตนว่า ต้องถามกลับว่านายชวนรับใช้ฝ่ายบริหารหรือไม่ เนื่องจากเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร อยากถามว่านายชวนเอาสิทธิ์อะไรมาห้าม เพราะญัตติก็ยื่นไปชัดเจนอยู่แล้วว่านายกฯ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องการถวายสัตย์ก็ชัดเจนว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ สามารถอภิปรายได้ ถามว่าจะมาปิดกั้นอะไรกัน คนทั้งประเทศก็รู้ว่านายกฯ ถวายสัตย์ไม่ครบ

เมื่อถามว่ายืนยันว่าวันนี้จะต้องอภิปรายเรื่องถวายสัตย์ให้ได้ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าคิวจะถึงวันนี้หรือไม่ ก็รออยู่ ส่วนที่วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการพูดเรื่องการถวายสัตย์นั้น “ใครทะลึ่งมาตกลง ผมไม่ได้ไปตกลงด้วย ไอ้เวรพวกนั้นไปตกลงได้อย่างไร เพราะเป็นประเด็นของผม และอยู่คนละพรรค จะตกลงอะไรกันถึงไม่มีคุยกับผมก่อน”

 

 

องครักษ์ชวนซัดใครกันแน่‘ไอ้เวร’

นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงนายชวน เป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่รับใช้ฝ่ายบริหาร หลังนายชวนไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีการถวายสัตย์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า อยากเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จำใส่สมองที่ชอบย้ำคิดย้ำทำอยู่เสมอว่า นายชวนไม่เคยรับใช้ใคร ท่านทำการเมืองบนเส้นทางการเมืองที่สุจริตมา 50 ปี ในเรื่องของความซื่อสัตย์ก็ได้รับความการยอมรับนับถือจากคนทั่วประเทศและทั่วโลก ไม่มีเรื่องการทุจริตเหมือนใครบางคน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็ควรจะต้องรู้ว่าการให้เกียรติต่อสถาบันที่ตนเองสังกัดอยู่นั้นเป็นสิ่งที่พึงกระทำ

“ความจริงแล้วคนที่จะถูกตำหนิว่าไอ้เวรควรจะเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เอง และเรื่องการถวายสัตย์เกิดก่อนการบริหาราชการแผ่นดิน ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้คือการอภิปรายเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อที่ 69 วรรคสอง กำหนดว่า ห้ามผู้อภิปรายแสดงกิริยา หรือใช้วาจาอันไม่สุภาพใส่ร้ายเสียดสีบุคคลใด และกล่าวถึงพระมหากษัตริย์หรือออกชื่อสมาชิกหรือบุคคลใดโดยไม่จำเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มียาสามัญประจำบ้าน หรือประจำตัวอยู่อย่างเดียวคือ ปมถวายสัตย์แค่นั้น และท่านก็เป็น ส.ส.คนแรกที่ถูกไล่ออกจากห้องประชุมใน ส.ส.ชุดนี้ และเรื่องการถวายสัตย์ไม่ก่อเกิดประโยชน์ใดแก่ประชาชนเลย” นายสมบูรณ์ กล่าว

วิปรัฐพอใจนายกฯเคลียร์ทุกประเด็น

เมื่อเวลา 17.00 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ตลอด 2 วันที่ผ่านมาว่า ถือว่าบรรยากาศการประชุมไปได้ด้วยดีเยี่ยม พล.อ.ประยุทธ์สามารถชี้แจงรายละเอียดเรื่องที่ถูกกล่าวหาต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน พร้อมชี้ต้นตอของปัญหาของประเทศมีบ่อเกิดมาจากรัฐบาลเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุจริตในรัฐบาลในอดีต และความขัดแย้งของในชาติ รวมทั้งการแก้ปัญหาปากท้อง ที่สำคัญยังแสดงวุฒิภาวะการเป็นผู้นำได้ออกมาดีเยี่ยม รวมทั้งวางแผนให้รัฐมนตรีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องช่วยกันชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ทุกประเด็นทุกเม็ดจนสิ้นกระแสความ

 

นายสุทิน คลังแสง

 

‘ฝ่ายค้าน’รับประเมินผิดพลาด

เมื่อเวลา 09.20 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรี 5 คนวันแรก เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะมีการประเมินสถานการณ์ผิดพลาด แต่วันนี้จะปรับตัวใหม่ คิดว่าจะน่าสนใจขึ้นเมื่อคืนรัฐบาลอาจจะนอนหลับฝันดี คิดว่าไม่มีคนรู้ทัน แต่คืนนี้อาจจะนอนไม่หลับ โดยวันนี้เราจะมีการจัดผู้อภิปรายเบอร์ใหญ่ขึ้น เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ส่วนตนจะขึ้นพูดประมาณเวลา 12.00 น. เชื่อว่าวันนี้ไม่น่าจะผิดหวัง

กกต.รับรอง'เพชรภูมิ"นั่งส.ส.

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันนี้ ได้มีมติรับรองผลการเลือกตั้งให้ นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 1 เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขต 2 กำแพงเพชร ทั้งนี้ ข้อมูลการเลือกตั้งเขต 2 กำแพงเพชร มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 144,579 คน มาแสดงตนจำนวน 90,060 คน คิดเป็นร้อยละ 62.29 บัตรดี 84,779 บัตร คิดเป็นร้อยละ 94.14 บัตรเสีย 2,800 บัตร คิดเป็นร้อยละ 3.11 บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดจำนวน 2,481 บัตร คิดเป็นร้อยละ 2.75